:::     :::

คุยกับ อดุลย์ หมื่นสมาน : เจ้าของฉายา "อดุลย์ เนเวอร์ดาย"

วันอาทิตย์ที่ 06 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
12,360
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชีวิตนักฟุตบอลส่วนใหญ่พอเข้าสู่วัยที่เริ่มต้นด้วยเลข 3 ก็ถือว่าเป็นช่วงบั้นปลายอาชีพแล้ว มีน้อยคนนักที่จะยืนระยะไปได้นานด้วยสภาพสังขารที่ไม่อำนวย แต่ในศึกไทยลีก 2019 มีนักเตะอยู่คนหนึ่งที่กำลังจะอายุ 38 ปี และไม่มีทีท่าว่าสภาพร่างกายจะเสื่อมโทรมลงเลย สำหรับ "บังดุล" อดุลย์ หมื่นสมาน แบ็คซ้ายกัปตันทีม พีที ประจวบ เอฟซี ที่สำคัญเขาเพิ่งได้ชูถ้วยแชมป์รายการใหญ่อย่าง โตโยต้า ลีก คัพ เป็นครั้งแรกในชีวิตเสียด้วย อะไรคือเคล็ดลับ และเป้าหมายในการค้าแข้งของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามจากบทความนี้กันเลย

แมน : สวัสดีครับอดุลย์ เดี๋ยวเดือนพ.ย.นี้จะอายุ 38 แล้วใช่มั้ยครับ เกิด 2524 รึเปล่า 

อดุลย์ : ใช่ครับปีนี้ 38 แล้วครับพี่แมน

แมน : เรียกแมนเฉยๆ ก็ได้ครับ รุ่นๆ เดียวกัน

อดุลย์ : ไม่เป็นไรครับ ผมอ่อนเดือนกว่า ขอเรียกพี่นี่แหละครับ

แมน : ไม่เป็นไรๆ แล้วนี่คุยสัญญาใหม่กับ ประจวบ หรือยังครับ หรือยังมีสัญญาไปถึงเมื่อไหร่

อดุลย์ : ผมมีสัญญาปีต่อปีอยู่แล้วครับ เดี๋ยวคงจะคุยกับทางสโมสรอีกทีว่าจะยังไงต่อ ใจจริงผมก็อยากอยู่ช่วยทีมอีกซักปีก่อนครับ

แมน : ตั้งใจจะเล่นในไทยลีกไปถึงอายุเท่าไหร่ครับ วางแผนไว้มั้ย มีไปอบรมโค้ชไว้บ้างหรือยัง 

อดุลย์ : ยังไม่ได้คิดเลยครับ คงดูสถานการณ์ในแต่ละปีมากกว่า ผมได้ ซี ไลเซ่นส์ แล้วครับ ไปอบรมไว้ตั้งแต่เมื่อซัก 3 ปีที่แล้ว พร้อมๆ กับ กบ สุเชาว์ (นุชนุ่ม) นั่นแหละพี่ ในอนาคตถ้าเวลามันลงตัวก็อยากอบรมให้สูงขึ้นไปอีกเหมือนกันครับ


แมน : เจ้าของสถิติเก่าที่เล่นในไทยลีกอายุเยอะสุดคือ "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น เขาทำไว้ 40 ปี 8 เดือน 24 วัน หรือจะเอาแบบ "น้ามัน" อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ ที่อายุ 50 กว่า (54) แต่ยังเล่นฟุตบอลอาชีพอยู่เลย

อดุลย์ : ของน้าเทิด 40 หรอครับ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่ "น้ามัน" นี่ต้องยอมเขาไว้คนนึงเลย ตอนนี้อแกยังเล่นอยู่เลยนะพี่ อยู่ทีมทางภาคใต้ (ศรีวิชัย เอฟซี) ในระดับ T5 อันนี้ผมไม่ขอวัดกับแกดีกว่า 555

แมน : ฤดูกาลนี้ลงเล่นให้ประจวบไปกี่นัดแล้วครับ

อดุลย์ : ประมาณ 20 นัดครับ 

แมน : โห ฤดูกาลนี้เหลืออีก 2 เกม ก็เล่นไปเกือบ 70% ของทั้งปีเลยนะเนี่ย มีวิธีการดูแลร่างกายตัวเองยังไงให้ยังเล่นในระดับสูงสุดได้นานแบบนี้ครับ 

อดุลย์ : ก็มีทั้งทำตามคอร์สของสโมสร แล้วก็ฝึกพิเศษของตัวเองด้วยครับ คือเรื่องความแข็งแรงเราไม่มีปัญหา บางครั้งยังรู้สึกฟิตกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำไป สำหรับผมพออายุมากขึ้น จะมีปัญหาเรื่องการฟื้นฟูร่างกายมากกว่า อย่างถ้าเกมนี้เล่นหนักๆ นัดถัดไปก็จะล้า หรือถ้าบาดเจ็บก็อาจจะหายช้ากว่าเดิมหน่อย


แมน : เคยเจ็บหนักสุดนานแค่ไหนครับ

อดุลย์ : หนักสุดหรอ น่าจะตอนที่เล่นอยู่ จุฬา เจ็บแฮมสตริงพักประมาณ 4 เดือนครับ นอกนั้นก็ไม่ค่อยนาน มีแต่เจ็บนิดๆ หน่อยๆ 

แมน : อดุลย์เป็นคนสตูล ใช่มั้ยครับ สมัยเด็กๆ เริ่มเล่นฟุตบอลจริงจังตอนไหน

อดุลย์ : ผมเริ่มเล่นค่อนข้างช้าครับ มาจริงๆ จังๆ ก็ประมาณ ม.5 แล้ว ที่ได้ไปแข่งพวกระดับเยาวชนภูมิภาคอะไรพวกนี้

แมน : เรียนที่ไหนนะครับตอนอยู่สตูล

อดุลย์ : ตอนม.ต้นเรียนที่ รร.แสงประทีปวิทยามูลนิธิครับ แล้วม.ปลายก็ย้ายมาเรียนที่ รร.พิมานพิทยาสรรค์ 

แมน : คือก็คงเตะฟุตบอลอยู่บ้างตั้งแต่ม.ต้นแล้วหรือเปล่าครับ ไม่ใช่อยู่ๆ มาเล่นตอน ม.5 เลย

อดุลย์ : ใช่ครับก็เตะเล่นๆ ในโรงเรียน กีฬาสีอะไรพวกนี้ แต่มาจริงจังและไปแข่งก็ช่วงม.5แล้วครับ

แมน : สมัยที่เรียนอยู่สตูล มีใครที่รุ่นใกล้ๆ กันก้าวขึ้นมาเล่นอาชีพตอนนี้บ้างมั้ย

อดุลย์ : รุ่นใกล้ๆ กันไม่มีเลยครับ จะมี "เต้" ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ ที่มารู้ว่าเป็นรุ่นน้องรร.พิมานฯก็ตอนเล่นให้จุฬาฯแล้วครับ

แมน : สตูลมีนักฟุตบอลดังๆ คนไหนบ้างนะครับ

อดุลย์ : ก็หลายคนอยู่นะครับ อดิศักดิ์ กานู, สมปอง สอเหลบ, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, ซากีรีน ดีกาสม, อธิชาติ เด็นหมาน แล้วก็มีรุ่นเด็กๆ ที่อยู่ตามทีมเยาวชนในไทยลีกที่กำลังจะขึ้นมาอีกหลายคน 

แมน : อดุลย์เข้ามาสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ยังไงครับ

อดุลย์ : ตอนผมจบม.6 ผมสอบเอ็นทรานซ์เข้าจุฬาฯได้ครับ ตอนนั้นตั้งใจว่าอยากจะไปเรียนในกทม. แล้วก็เล่นให้จุฬาฯเป็นที่แรกครับ


แมน : ไม่ได้เข้าเป็นนักเรียนทุนด้วย แสดงว่าต้องเป็นคนเรียนเก่งระดับนึงเลย ถึงสอบเข้าจุฬาฯได้

อดุลย์ : ไม่ได้ทุนครับ เพราะผมไม่ติดทีมชาติ เรียนก็ไม่ได้เก่งไรหรอกครับพี่ พอดีปีนั้นเป็นเอ็นทรานซ์ระบบใหม่ ที่จะเห็นคะแนนสอบตัวเอง เทียบกับคะแนนต่ำสุดของคณะที่เราจะเข้า ตอนนั้นพอดีผมเลือก คณะวิทยาศาสตร์ การกีฬา ที่จุฬาฯ ที่เพิ่งเปิดใหม่ด้วย

แมน : เราน่าจะเอ็นทรานซ์รุ่นใกล้ๆ กันแน่เลย รหัส 42 ป่าวครับ ผมจำได้ว่าปีนั้นเป็นรุ่นแรกที่เปลี่ยนระบบเอ็นทรานซ์ แล้วมันกลับตาลปัตรหมด เพราะหลายๆ คนเทียบคะแนนสอบตัวเองกับคณะที่อยากเข้า พอเห็นคะแนนไม่ถึงแน่ๆ ก็เลยไปเลือกคณะยากๆ ประชดมันซะเลย อย่างผมคะแนนสอบประมาณ 60 กว่าๆ (เต็มร้อย)แต่ไปเลือกมนุษย์ศาสตร์ มศว. เพราะเห็นคะแนนต่ำสุดประมาณ 30 เอง ยังไงก็ติดแน่ๆ แต่พอผลออกมา คนอื่นเขาก็คิดเหมือนเรา คะแนนต่ำสุดของคณะนี้ทะลุขึ้นไป 70 กว่า ผมไม่ติด แต่พวกคณะแพทย์, วิศวะ, วิทยาศาสตร์ ม.ดังๆ คะแนน 30-40 ก็ติดแล้ว บางคนเข้าไปเรียนจริงไม่ไหวก็ต้องไทร์ออกมา 

อดุลย์ : ผมรหัส 43 ครับ ใช่ครับระบบเดียวกันนี่แหละ ผมก็คะแนนไม่สูงมาก แต่วิทยาศาสตร์กีฬา จุฬาฯ นี่ผมเลือกอันดับ 1 เลย จากทั้งหมดที่เขาให้เลือก 4 อันดับครับ

แมน : เรียนกี่ปีจบนะครับ

อดุลย์ : 4 ปีครับ

แมน : แสดงว่าต้องเรียนดีแล้วล่ะ เพราะเตะฟุตบอลด้วยแล้วเรียนไปด้วยยัง 4 ปีจบได้ แล้วไปเตะที่จุฬาได้เข้าไปเล่นบอลประเพณี หรือเล่นลีกเลยมั้ยครับ


อดุลย์ : ยังครับตอนแรกก็เข้าไปเล่นบอลเฟรชชี่ก่อนครับ เพราะบอลประเพณีนี่มีแต่ระดับทีมชาติทั้งนั้น มาได้เล่นก็ปี 3 แล้วครับ บอลลีกผมก็เริ่มจากทีม จุฬา-สินธนา แล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็น จุฬา ยูไนเต็ด, บีบีซียู, จามจุรี ยูไนเต็ด ทีมเดียวกันหมดแหละครับ แต่เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ 

แมน : สมัยนั้นใครเป็นโค้ชให้จุฬาฯนะครับ 

อดุลย์ : หลายคนเลยครับ มีทั้ง หมอเมา (ทพ.พิชัย ปิตุวงศ์), อ.เหลือง (ดร.จุฑา ติงศภัทร), พี่อู๊ด (สัจจา ศิริเขตร์) ที่ทำกับ พี่ดู๊ด  อดุลย์ รุ่งเรือง พอเรียนจบจุฬาผมก็ไปเข้า ทีโอที สมัยยังใช้ชื่อเป็นองค์การโทรศัพท์ ตอนนั้นเขาเปิดรับโครงการนักฟุตบอลอยู่พอดีครับ เข้าไปรุ่นเดียวกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม เนี่ยแหละ


แมน : สมัยนั้นโค้ช ทีโอที ใช่โค้ชก๊อก (พงษ์พันธ์ วงสุวรรณ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)หรือเปล่าครับ

อดุลย์ : ใช่ครับเป็นช่วงโค้ชก๊อกครับ

แมน : เล่นแบ็คซ้ายมาตลอดเลยหรือเปล่าครับ ถนัดฟูลแบ็คหรือวิงแบ็คมากกว่ากัน

อดุลย์ : ก็มีทั้งสต็อปเปอร์ฝั่งซ้ายแล้วก็แบ็คซ้ายครับ มีช่วงนึงที่เล่นหลัง 5 ผมก็ขยับเข้ามายืนเป็นตัวใน ถ้าเป็นแบ็คผมน่าจะถนัดฟูลแบ็คมากกว่า แต่ถ้าโค้ชจะใช้เป็นวิงแบ็คก็เล่นได้ครับ

แมน : แล้วเส้นทางการค้าแข้งของอดุลย์เป็นยังไงต่อ

อดุลย์ : เล่นให้ทีโอทีอยู่ถึงปี 2007 แล้วก็กลับไปเล่นให้จุฬา จนถึงปี 2012 ครับ จากนั้นไปอยู่ อินทรี เพื่อนตำรวจ สมัย "บิ๊กย้อย" พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา เป็นประธาน จนช่วงที่ "เสี่ยบิ๊ก" (สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา) เข้ามาเทคโอเวอร์ แล้วก็โดนยุบทีมไปครับ

แมน : ได้ยินมาว่าสมัยเสี่ยบิ๊ก นักเตะไม่ได้รับค่าจ้างจนแทบไม่มีเงินใช้กัน รุ่นพี่ๆ ที่ได้สโมสรใหม่แล้วต้องช่วยกันออกเงินให้ไปก่อนจริงมั้ย เก่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ กับ แมน ธนา ชะนะบุตร เคยเล่าให้ฟัง

อดุลย์ : ใช่ครับ เหมือนกับว่าบัญชีการเงินของสโมสรถูกสั่งอายัด ก็เลยเอาเงินมาใช้ไม่ได้ พวกผมที่มีรายได้จากทีมใหม่แล้วก็ต้องช่วยเหลือน้องๆ กันไปก่อน


แมน : แล้วจากตำรวจย้ายมาประจวบเลยมั้ยครับ

อดุลย์ : ยังครับ ผมกลับไปเล่นให้ จามจุรี อีกรอบ ในปี 2016 แล้วปีต่อมา พี่วัง (ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล) แกเข้าไปทำประจวบ ก็ดึงน้องๆ ที่เคยร่วมงานกันทั้งตอนอยู่ พัทยา, ตำรวจ, นครปฐม เข้ามาฟอร์มทีมครับ ผมเองเคยร่วมงานกับแกที่ตำรวจ หรืออย่าง กิ๊บ (วันเฉลิม ยิ่งยง), อมร ธรรมนาม, สมภพ นิลวงศ์ อีกหลายๆ คนครับ ก็ได้กลับมาอยู่กับแก

แมน : สำหรับตัวอดุลย์เอง คิดว่าเกินคาดไปเยอะมั้ย กับการที่ทีมเพิ่งขึ้นมาอยู่ไทยลีกแค่ 2 ปี ปีแรกจบอันดับ 6 แล้วปีต่อมาคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพได้เลย

อดุลย์ : อาจจะเกินคาดในมุมมองของแฟนบอล แต่สำหรับผมไม่คิดว่าเกินคาดนะครับ ผมว่ามันเป็นผลตอบแทน เป็นรางวัลให้กับพวกเรามากกว่า ว่าถ้าเราพยายามก็สามารถทำได้เหมือนกัน

แมน : จากนี้จะกลายเป็นการคาดหวังมั้ย เพราะแฟนบอลเห็นแล้วว่าทีมประสบความสำเร็จ ปีต่อๆ ไปถ้าผลงานดร็อปลง อาจจะกลายเป็นกระแสตีกลับจนอาจต่อว่าสโมสร, โค้ช หรือนักเตะได้


อดุลย์ : นักเตะก็พยายามสู้เต็มที่อยู่แล้วครับ อาจจะต้องอยู่ที่ฝ่ายบริหารว่าจะวางแผนยังไงกับการรักษาความสำเร็จและยกระดับให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นไปอีกในปีต่อๆ ไป

แมน : เท่าที่อยู่ในทีมประจวบ คิดว่าด้วยผลงานแบบนี้ นักเตะคนไหนในทีมบ้างที่น่าจะได้รับโอกาสกับทีมชาติไทย คิดว่าทีมชาติไทยในยุคของโค้ชญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้าง

อดุลย์ : หลายคนนะครับ อย่างเอี้ยง (นัสตพล มาลาพันธุ์) ถ้าเขาไม่เจ็บเรื้อรังผมว่าก็ยืนเป็นเซนเตอร์ทีมชาติได้ยาวๆ อยู่แล้ว หน่อง (จิตปัญญา ทิสุด) อายุก็ยังไม่มาก ยังพีคได้อีกหลายปี, ช็อป ขวัญชัย สุขล้อม ในอนาคตก็อาจจะเป็นประตูทีมชาติไทยได้, คนที่น่าติดที่สุดสำหรับผมก็คงเป็น ปีโป้ (สิโรจน์ ฉัตรทอง) ครับ เพราะผมว่าเขาเป็นกองหน้าที่มีสไตล์แตกต่างจากคนอื่นๆ ในประเทศไทย ปีโป้ อาจจะเหมาะกับบางแท็กติกหรือบางสถานการณ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับโค้ชด้วยครับว่าจะเข้ากับแท็กติกที่เขาจะใช้มั้ย จริงๆ ผมชอบแนวทางของทีมชาติไทยตอนนี้มากเลยครับ ผมว่าเราเล่นแบบมีวิธีการมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ ชนาธิป จะเจ็บไป แต่การได้ ธีรศิลป์ กลับมา มุ้ย ก็น่าจะช่วยได้เยอะด้วยประสบการณ์ของเขา โค้ชนิชิโนะเองก็คงจะมีวิธีการปรับแท็กติกทดแทนการขาดไปของชนาธิปได้ครับ

แมน : มีนักเตะไทยและต่างชาติที่เป็นไอดอลมั้ยครับ

อดุลย์ : ต่างชาติผมชอบ เปาโล มัลดินี่ ครับ เล่นตำแหน่งเดียวกัน เป็นกัปตันทีมด้วย ส่วนนักเตะไทยผมชอบพี่เก๋  วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ ชอบบุคลิกของแกเป็นคนนิ่งๆ ตอนผมอยู่บีบีซียู แกเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชของ อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ตอนนี้แกเป็นโค้ชให้ไทยฮอนด้า อยู่ครับ

แมน : ในอนาคตถ้าอดุลย์ หมื่นสมาน เป็นโค้ช คิดว่าตัวเองน่าจะเป็นโค้ชสไตล์ไหน สไตล์ดุโวยวาย, หรือมาดขรึม หรือยังไงดีครับ

อดุลย์ : 555 ผมเชียร์ลิเวอร์พูลนะครับ ก็จะชอบ เจอร์เก้นส์ คล็อปป์ ที่เขาจะมีอารมณ์ร่วมกับนักเตะเยอะ แล้วอีกคนก็ชอบ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เขาเก่งมากครับในเรื่องแท็กติกต่างๆ


แมน : ก็น่าจะเป็นโค้ชจอมแท็กติกที่มีอารมณ์ร่วมกับนักเตะเยอะๆ อะไรงี้นะ 555 แล้วไม่เอาแบบโค้ชวังหรอครับ

อดุลย์ : พี่วังก็ดีนะครับ ผมอยู่กับแกมานานก็เรียนรู้อะไรจากแกได้เยอะเลย

แมน : สำหรับประจวบ ถือว่าฤดูกาลนี้จบหรือยัง เพราะสถานการณ์ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว

อดุลย์ : ก็คงต้องทำอันดับให้ดีที่สุดครับ 2 นัดที่เหลือ นัดต่อไปเยือนเชียงราย ที่เขากำลังลุ้นแชมป์อยู่ ก็คงหนักหน่อย ส่วนเกมสุดท้ายเปิดบ้านเจอราชบุรี ต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรแล้ว ราชบุรี ก็เตรียมเล่นนัดชิง เอฟเอ คัพ ก็คงไม่หนักมากครับ

แมน : โอเคครับ ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวพอเขียนเสร็จแล้วจะแท็กไปให้อ่านด้วยนะครับ

อดุลย์ : ขอบคุณมากๆ เหมือนกันครับพี่


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด