:::     :::

มุมมองโค้ช : เมื่อ "ขาดเจ" ใครจะช่วยให้ไม่ "ขาดใจ"

วันพุธที่ 09 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
9,776
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมชาติไทยกำลังจะมีภารกิจสำคัญในการทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่ 3 ของกลุ่มจี ในการเปิดบ้านพบกับ ยูเออี ในวันอังคารที่ 15 ต.ค. นี้ ซึ่งหลายๆ คนคงทราบข่าวร้ายแล้วว่า "ช้างศึก" จะขาด "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ที่ถอนตัวไปเพราะมีอาการบาดเจ็บ แล้วใครล่ะ? ที่จะทดแทนตำแหน่งสำคัญตรงนี้ คนในวงการลูกหนังไทยมีมุมมองและทรรศนะอย่างไร ลองติดตามกันดู


ปิยะพงษ์ ผิวผ่อน

แน่นอนว่าการขาด ชนาธิป ไปมันส่งผลกระทบอยู่แล้วล่ะ เพราะ ชนาธิป เป็นผู้เล่นที่เปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกได้, เลี้ยงกินตัวได้ และมีการจ่ายบอลแบบได้เสียที่สามารถตัดสินเกมได้ แต่ อากิระ นิชิโนะ เขาก็ต้องมีวิธีการรับมืออยู่แล้ว 

ถ้าให้คาดการณ์ก็เป็นไปได้หมด โอเคเกมกับ คองโก อาจจะยังไม่มี สุภโชค สารชาติ ที่บาดเจ็บ ตำแหน่งตรงนี้พี่คิดว่าอาจจะใช้ ธีรศิลป์ แดงดา ยืนคู่กับ ศุภชัย ใจเด็ด เลยก็ได้ ในเมื่อแดนกลางเราไม่มีตัวเพลย์เมกเกอร์เราก็ใช้กองหน้าที่เก็บบอลได้ดีอย่าง ธีรศิลป์ ไปเพิ่มอีกคน หรืออาจจะเป็น เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็ได้

ซึ่ง นิชิโนะ เขาก็คงได้ทดลองกับเกมที่จะอุ่นเครื่องกับคองโกนี่แหละ ซึ่งแน่นอนว่าเขามี 11 ผู้เล่นในใจสำหรับเกมกับยูเออี อยู่แล้ว แต่คนอื่นๆ ก็จะได้โอกาสลงไปเล่นให้นิชิโนะ ดู ว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการตามแท็กติกของนิชิโนะได้มั้ย คือเป็นการหาจุดลงตัวมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น เอเลียส ดอเลาะห์, อดิศร พรหมรักษ์, นิติพงษ์ เสลานนท์ หรือคนอื่นๆ เกมนี้คงได้โอกาสลงเล่นกันหมด ซึ่งก็ต้องทำให้โค้ชเห็นล่ะว่าลงไปแล้วสามารถทำอะไรได้บ้าง



ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล

ผมว่าทีมชุดนี้เชปค่อนข้างดีนะ ไม่ว่าจะเป็นเกมรับหรือเกมรุก สไตล์ญี่ปุ่นเขาเน้นการเคลื่อนที่ของทั้งผู้เล่นและบอลอยู่แล้ว สังเกตจะเห็นว่าจะมีการร่วมเล่นบอลกันเป็นกลุ่มตลอด เราจะไม่ค่อยมีปัญหาว่าเวลาบุกแล้วผู้เล่นไม่พอ หรือบุกจนลงมารับไม่ทัน ซึ่งผลลัพธ์ก็คือเกมรับเราดีขึ้น เราเก็บคลีนชีทได้ใน 2 เกมแรก 

สำหรับตัวแทนของ ชนาธิป ผมมองว่าก็อาจไม่ได้ลงมาเพื่อเล่นแบบ ชนาธิป ซะทีเดียว ซึ่งคนที่เหมาะสมที่สุดก็คงต้องให้ สุภโชค แหละ เพราะถึงแม้เขาอาจจะไม่ได้เล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ซะทีเดียว แต่ตัวผู้เล่นที่อยู่รอบๆ เขาสามารถช่วยได้ ผมมองว่านักเตะที่ นิชิโนะ เลือกมาเขาดูจากคนที่ผลงานดีกับสโมสร อย่างเช่น เอกนิษฐ์ ปัญญา หรือ ศิวกร เตียตระกูล ซึ่งก็เป็นตัวหลักของทีม เชียงราย ยูไนเต็ด ที่กำลังอยู่หัวตารางของไทยลีก และพอส่งลงไปเล่นก็ทำได้ตามที่โค้ชต้องการ การได้ ธีรศิลป์ กลับมาก็จะเพิ่มในเรื่องของประสบการณ์ เพราะ ธีรศิลป์ ผ่านเกมในระดับนี้มาเยอะแล้ว เขาสามารถตัดสินเกมได้ในโอกาสที่อาจจะไม่ต้องมีมากนัก 

ส่วนในเกมกับ ยูเออี ผมเชื่อว่าไทยเราลุ้นถึงชนะได้นะ เราอาจจะจำภาพตอนคิงส์คัพ ที่พอไม่มี ชนาธิป แล้วทีมชาติไทยเล่นกันไม่ได้ แต่นี่คือฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดทั้งตัวโค้ช, วิธีการ และก็ตัวนักเตะหลายๆ คน ผมมั่นใจว่าเราจะทำได้ดีกับเกมนี้ ผมเชื่อในวิธีการของนิชิโนะ นะ เขาผ่านประสบการณ์ในการเจอกับทีมตะวันออกกลางมาเยอะแล้ว เขาเลือกนักเตะเข้ามาเอง ดังนั้นเขาก็คงมีแผนในใจแล้วว่าจะรับมือกับ ยูเออี ยังไง


วรวุฒิ ศรีมะฆะ

ขาด ชนาธิป แล้วจะขาดใจมั้ย พี่ว่าไม่นะ จริงอยู่ที่ ชนาธิป เป็นผู้เล่นที่มีความพิเศษในเรื่องความสามารถเฉพาะตัวของเขา แต่ฟุตบอลต้องเล่นเป็นทีมและนี่ก็ถือเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าถ้าเราขาดผู้เล่นที่มีความสำคัญกับทีมมากๆ แล้ว เราจะเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยวิธีการหรือไม่ นักเตะที่ยังมีอยู่ก็ถือว่ามีคุณภาพทั้งนั้น พี่มองว่าเกมกับ คองโก โอเค สุภโชค ยังเจ็บอยู่ก็คงยังไม่ได้ใช้ แต่เกมกับ ยูเออี ตำแหน่งที่ชนาธิป เคยยืนก็จะเป็น สุภโชค นี่แหละ เพราะอย่าลืมนะว่าเขาเคยผ่านสถานการณ์ที่กดดันตอนที่เล่นกับ บุรีรัมย์ ในฤดูกาลนี้มาก็หลายครั้งแล้ว ได้เล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว สุภโชค เองก็มีศักยภาพทั้งเรื่องการเลี้ยงกินตัว, การทะลุทะลวง หรือการผ่านบอล คือในตอนนี้อาจจะยังไม่เฉียบขาดเท่า ชนาธิป แต่คนรอบข้างในทีมก็สามารถช่วยเขาได้ด้วยวิธีการที่โค้ชวางแผนเอาไว้ หรืออาจจะใช้ ธีรศิลป์ เป็นตัวฟรีก็ได้ เพราะตอน ชนาธิป อยู่ ชนาธิป นี่ก็แทบจะเล่นเป็นตัวฟรีเลยนะในแผนของนิชิโนะ

ในแนวรับผมว่าถ้า พรรษา หายไม่ทัน ตำแหน่งตัวจริงต้องมาดูว่านิชิโนะ เขาต้องการบิวดิ้งอัพบอลจากกองหลังหรือเปล่า ถ้าจะบิวดิ้งอัพก็คงใช้ อดิศร มากกว่า เอเลียส ดอเลาะห์ เพราะ อดิศร เล่นบอลด้วยเท้าได้ดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับ นิชิโนะ แหละว่าต้องการใช้ผู้เล่นแบบไหนเพื่ออะไร

พี่มั่นใจว่าคราวนี้เรามีโอกาสถึงชนะยูเออีเลยนะ เพราะ ยูเออี ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย อยู่ที่้เกมที่เขาพบกับ อินโดนีเซีย ด้วย ถ้าเขาชนะอินโด เกมกับไทยผลเสมอก็ไม่ได้เสียหายสำหรับเขา แต่ถ้าเขาเสมอหรือแพ้อินโดขึ้นมา เกมกับไทยเขาก็ต้องหวัง 3 แต้มเป็นหลักแน่ๆ ซึ่งในระดับของไทยกับ ยูเออี ถ้าเขามาเพื่อ 3 แต้ม พี่ว่าเราจะมีโอกาสขึ้นไปลุ้นทำประตูมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ  


โชคทวี พรหมรัตน์ 

ขาด ชนาธิป ไปก็เสียหายน่ะแหละ เพราะทุกคนก็รู้อยู่ว่า ชนาธิป เป็นผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง สามารถตัดสินผลการแข่งขันได้ด้วยเทคนิคของเขา แต่เราก็ยังมีคนอื่นๆ ที่พอจะทดแทนได้โดยเฉพาะ สุภโชค คือเราอาจจะติดภาพว่า สุภโชค ไปเล่นเลี้ยงกินตัวอยู่ริมเส้นแล้วกระชากหักเข้ามายิงไปเสาสอง แต่กับ บุรีรัมย์ เขาก็เคยมาเล่นตำแหน่งนี้อยู่เหมือนกัน และแผนของ นิชิโนะ ก็ไม่ได้พึ่งนักเตะคนใดคนหนึ่งซะทีเดียว เขาเน้นให้ทุกคนเคลื่อนที่ซัพพอร์ทกันมากกว่า

จริงๆ ผมก็เสียดายนะที่ สุมัญญา ปุริสาย ยังขาดแมตช์ฟิต เพราะเขาก็เป็นตัวเลือกในตำแหน่งนี้อยู่แล้ว แต่ถ้ายังไม่สมบูรณ์แล้วลงไปเจ็บซ้ำอีกมันจะยิ่งเรื้อรังไปใหญ่ ส่วนตำแหน่งกองหลัง เอเลียส ดอเลาะห์ พี่ก็ยินดีที่เขามีโอกาสในทีมชาติ ในตอนที่พี่ทำทีมชาติกับพี่โต่ย (ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) ตอนนั้นอาจจะยังไม่ได้ให้โอกาสเขา แต่ก็อย่างที่เห็นว่ากองหลังคู่เซนเตอร์ของไทยเราก็ยังไม่ได้เสถียรอะไรมากมาย ก็เป็นโอกาสของทั้ง เอเลียส และ คนอื่นๆ ที่จะคว้าโอกาสของตัวเองเอาไว้

ก่อนหน้านี้พี่อาจจะเคยมีข้อสงสัยในตัวนักเตะลูกครึ่งอยู่บ้าง แต่พอได้มาร่วมงานก็ต้องบอกว่าน้องๆ มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก อยู่ที่โค้ชที่ใช้งานเขาน่ะแหละ ว่าจะมีวิธีการยังไงที่ทำให้นักเตะมีความสุขในการฝึกซ้อม มีความสุขในการลงเล่น เพราะถ้านักเตะมีความสุข เวลาลงไปเล่นเขาก็จะทำได้ดี 

อย่าง เควิน ดีรมรัมย์ เขาบาดเจ็บจริงๆ นะ เป็นอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ นี่พี่ก็ต้องดูอยู่เหมือนกันว่าจะต้องพักนานแค่ไหน แต่คิดว่าคงไม่นานมาก เขายังมาบอกพี่อยู่เลยว่าจะไปเข้าแคมป์ทีมชาติยู-23 แต่พอไม่ไหวจริงๆ ก็เลยต้องขอถอนตัว พี่ก็เพิ่งรู้ไม่นานเหมือนกันว่าเขาถอนตัวไปแล้ว


ธงชัย สุขโกกี

ตำแหน่งของ ชนาธิป ที่ขาดหายไป จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็มองว่าอาจจะเป็น สุมัญญา หรือ สรรวัชร์ เหมือนที่คนอื่นๆ คิด แต่โอเคล่ะในเมื่อตัวผู้เล่นที่โค้ชเลือกมาเป็นชุดนี้ สุภโชค ก็น่าจะมีความเหมาะสมที่สุด ด้วยเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวและความมั่นใจที่เขาทำได้หลังจากที่ยิงประตูให้ทีมชาติไทยเอาชนะ อินโดนีเซีย มา ระบบการเล่นก็ไม่น่าเปลี่ยน น่าจะเป็น 4-2-3-1 เหมือนเดิม โดยที่คนที่เข้ามาเติมเต็มระบบนี้ก็คือ ธีรศิลป์ แดงดา เพราะเขามีความเก๋า ที่จะช่วยประคองเป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ ในแนวรุกที่ส่วนใหญ่ยังอายุน้อย 

แล้วตำแหน่งเดิมของ สุภโชค ก็น่าจะเป็น บดินทร์ ผาลา ที่ใส่ลงไปแทน เพราะ บดินทร์ เป็นปีกธรรมชาติที่กำลังทำผลงานได้ดีกับสโมสร จะสามารถปั่นป่วนเกมริมเส้นได้ดี ทางขวาก็อาจจะเป็น เอกนิษฐ์ หรือ ศศลักษณ์ ไหประโคน ก็ได้ ส่วนเซนเตอร์ เกมกับ คองโก นิชิโนะ เขาคงได้ลองหาตัวเลือกเพิ่ม นอกเหนือจาก พรรษา กับ มานูเอล ทอม ที่เขาเห็นไปแล้ว เกมกับ คองโก เราคงได้เห็นผู้เล่นใหม่ๆ เยอะหน่อย ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่นักเตะจะได้พิสูจน์ตัวเอง เพราะเกมอุ่นเครื่องแบบนี้มันมีไว้เพื่อทดลองผู้เล่น ทดลองระบบอยู่แล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด