การขาด เจ ชนาธิป, นิว ฐิติพันธ์, อุ้ม ธีราทร (เจ็บระหว่างวอร์ม) รวมถึงในรายหลักอย่าง เช็ก สุภโชค และ ต้น นฤบดินทร์ ที่อยู่ระหว่างพักฟื้นอาการบาดเจ็บ ทำให้ อากิระ นิชิโนะ ต้องการ "ทดลองทีม" หลากหลายด้านในนัดพบ ทีมชาติคองโก

เพื่อหาทีมสมดุล-ลงตัวที่สุด ก่อนลงแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่อาจส่งผลชี้ชะตาโอกาสเข้ารอบของ "ช้างศึก" ในวันอังคารนี้

สกอร์บอร์ดที่คลอง 3 ขึ้นตัวเลขเสมอ 1-1 แต่นั่นอาจไม่สำคัญเท่าระหว่างทางของเกมกรแข่งขัน ที่ช้างศึกเชือกนี้แสดงฝีตีนออกมา

ซึ่งเราสรุป 4 ประเด็นน่าสนใจ ให้ลากสายตาลงมาอ่านกัน

 

1 กำเนิดเกิดแบ็กขวาคนใหม่

แม้เราจะเห็นฟอร์มของ นิติพงษ์ เสลานนท์ กับ การท่าเรือ ในฤดูกาลนี้ว่าแจ๋วสะแด่วแห้วแค่ไหน แต่หากเป็นเวทีทีมชาติไทย "นนท์" เปรียบเสมือนเฟรซชีที่รอปฐมนิเทศน์เข้าโรงเรียนช้างศึกเท่านั้น

แต่หลังจากอาการบาดเจ็บของ ต้น นฤบดินทร์ และ ทริสตอง โด ที่ถอนตัวก่อนหน้านี้ไป ทำให้เหลือเจ้าตัวที่เป็นแบ็กขวาธรรมชาติลงช่วยทีมได้

แต่เกมแรกของ "นนท์" ในนามทีมชาติชุดใหญ่ ฝีตีนเขาสามารถแตะใจแฟนบอลได้อย่างเต็มเปา ไม่ว่าจะเป็นจังหวะรับ-รุก ขึ้นลงตลอดไม่มีหมดเมื่ออยู่ในสนาม เล่นตามแท็คติกได้อย่างเนียนตา ประสานงานกับเพื่อนได้รู้ใจ จนได้รับคำชมอย่างมากมาย

ทำให้เกมพบ ยูเออี วันอังคารนี้ มีโอกาสที่แบ็กขวาจะถูกเปลี่ยนชื่อจาก นฤบดินทร์ เป็น นิติพงษ์ เช่นกัน

 

2 การคืนชีพของ "เอล แดงดา"

ดาวยิงวัย 31 ที่พุ่งชนกับคำวิจารณ์อย่างหนักเรื่อง เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในฟอร์มเดิม แถมมีอาการบาดเจ็บจนแทบไม่ได้เป็นกำลังหลักรับใช้ เอสซีจี เมืองทองฯ รวมถึงอายุอานามที่อาจหมดยุคสมัยของเขาไปแล้วนั้น

ทว่า นิชิโนะ ยักไหล่ใส่คำวิจารณ์ เขาเชื่อว่า "มุ้ย" คือกองหน้าที่ตอบโจทย์แท็คติก และเมื่อมีโอกาสได้ดูฟอร์มการเล่นล่าสุดกับต้นสังกัด ทำให้กุนซือชาวญี่ปุ่นไม่คิดมากที่จะอุ้มเจ้าตัวคืนสู่รั้วช้างศึก

ธีรศิลป์ ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาแสดงความเก๋าบนเวทีทีมชาติ นอกจากทำประตูได้ สิ่งสำคัญคือ วิชั่นในเกม การออกบอล พักบอล เคลื่อนที่ยามไม่มีบอล เล่นกับเพื่อนได้แบบชิลๆ จนทำให้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าดาวยิงหมายเลข 1 ในทีมชาติ ยังเหมาะสมกับเขาอยู่ดี และยังหาใครมาทดแทนได้ยาก

 

3 คู่กองกลางของ นิชิโนะ

เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นิชิโนะ กาชื่อ สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล เป็นคู่กองกลางในใจเขา หลังผลงานของทั้งสองแสดงออกสายตาทุกคู่แฟนบอล ว่านี่คือคู่ที่ลงตัว เฟี้ยวฟ้าวที่สุด

คนหนึ่งสวิตซ์บอลได้ดี เคลื่อนที่ยามไม่มีบอลให้เพื่อนเล่นได้สะดวก คนหนึ่งมีลูกหนัก จังหวะออกบอลที่ดี วิ่งพล่านตลอดเกม คอยรักษาสมดุลเกมตรงกลางได้อย่างลงตัว

เกมพบ คองโก คือคำตอบชั้นดี หลังทั้งสองได้ยืนคู่กันเกือบครบ 90 นาทีเต็ม นั่นเป็นสิ่งที่บอกเราได้ว่า ตัง & เต้ จะเป็นแผงมิดฟิลด์ที่ลงฟัดกับ ยูเออี อย่างแน่นอน

 

4 สปีดบอลที่เปลี่ยนไป

การเปลี่ยนผ่านมายุค นิชิโนะ อีกสิ่งที่เห็นชัดคือสปีดบอลในทีม ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน

ผลการแข่งขันในเกมอุ่นเครื่องอาจจะเสมอ แต่สิ่งที่สมควรได้รับการคารวะคือ การเคลื่อนที่ดูมีมิติ หลากหลายขึ้นมาก แม้การประสานงานบางจังหวะยังไม่คลิกลงตัวกันเท่าที่ควร ซึ่งเป็นเรื่องขแงเวลาที่ต้องสร้างความเข้าใจกัน 

แต่การเปลี่ยนบอล ซ้าย-ขวา จังหวะรับส่ง ที่ไม่ได้มั่วซั่วหรือไม่มีจุดหมาย มีความชัดเจนที่ว่าจังหวะไหนควรเล่นกับเพื่อน จังหวะไหนควรเคลียร์ให้ขาด รวมถึงการไล่บี้คู่แข่งหลังเสียบอล รวมถึงการที่นักเตะมีสมาธิและตื่นตัวเสมอ

สิ่งเหล่านี้เห็นได้หลังการเข้ามาของ นิชิโนะ