:::     :::

'ท็อป10'กุนซือเก้าอี้หนึบแห่งลีกอังกฤษ

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
2,151
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลยุคปัจจุบัน เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นผู้จัดการทีมคุมทัพยาวนานเหมือนอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ใช้เวลา 27 ปีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เฟอร์กูสัน ตำนานแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งคุมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1986-2013 เริ่มต้นงานใหญ่ในฟุตบอลอังกฤษอย่างยากลำบาก พาทีมจบอันดับ 11 ในศึกดิวิชั่น 1 ซีซั่นแรก และจบอันดับเดิมในซีซั่น 1988-89

ที่หนักกว่านั้นคือการจบอันดับ 13 ในฤดูกาล 1989-90 แต่ก็เซฟเก้าอี้ผู้จัดการทีมได้หวุดหวิดด้วยแชมป์เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จ ที่ตามด้วยแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ ปีต่อมา แชมป์ลีกคัพ ปีต่อมา และแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีต่อมา
และเป็นจุดเริ่มต้นแชมป์แรกในพรีเมียร์ลีก ก่อนกอบโกยมาถึง 13 สมัย และอำลาอาชีพผู้จัดการทีมในปี 2013 เป็นอันยุติช่วงเวลายาวนานถึง 27 ปี
ยุคปัจจุบัน บรรดา 91 ทีมในพรีเมียร์ลีก (20 ทีม), แชมเปี้ยนชิพ (24 ทีม), ลีกวัน (23 ทีม, ตัด บิวรี่ ที่ถูกขับออกจากลีก), ลีกทู (24 ทีม) ยากที่จะมีผู้จัดการทีมคนใดเทียบระยะเวลาคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ 
เพราะในบรรดาผู้จัดการทีมทั้ง 91 คน มีมากถึง 41 เปอร์เซนต์ ที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมในปี 2019 ส่วนคนที่คุมทีมยาวนานที่สุดจนถึงปัจจุบัน ยังคุมทัพไม่ถึง 1 ใน 3 ของ เฟอร์กี้ ด้วยซ้ำ
และนี่คือ 10 อันดับแรก (ถึงวันที่ 12 ตุลาคม 2562)
10 จอห์น แม็คกรีล (โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
แม็คกรีล เข้ามาคุมทีม โคลเชสเตอร์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2016 ในช่วงท้ายซีซั่น 2015-16 หลังจาก เควิน คีน อำลาทีมตอนจบชั้นจากลีกวันลงสู่ลีกทู และแม้สามฤดูกาลที่ผ่านมา กุนซือวัย 47 ปี ไม่เคยพาทีมขึ้นสู่พื้นที่เพลย์ออฟเพื่อลุ้นเลื่อนชั้น แต่เก้าอี้คุมทีมก็ยังแข็งแรงจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว ถึงตอนนี้ 3 ปี 161 วัน

9 ลี จอห์นสัน (บริสตอล ซิตี้)
6 กุมภาพันธ์ 2016 จอห์นสัน อำลา บาร์นสลี่ย์ ก้าวบันไดขึ้นสู่ บริสตอล ซิตี้ ที่สถานการณ์กำลังร่อแร่อยู่ในแชมเปี้ยนชิพ แต่สุดท้ายก็ประคับประคองทีมจนรอดตายจบอันดับ 18 และแม้สถานการณ์ยังไม่กระเตื้องในซีซั่นต่อมา จนแฟนๆ รวมตัวกันขับไล่ แต่บอร์ดบริหารก็ยังเชื่อมั่นในฝีมือ และเพิ่งจับต่อสัญญาใหม่จนถึงปี 2023 เหตุผลหลักคือการทำทีมเล่นเกมรุกได้น่าตื่นตาตื่นใจ จนถึงตอนนี้คุมทีมไปแล้ว 3 ปี 248 วัน

8 ไนเจล คลัฟ (เบอร์ตัน อัลเบียน)
คลัฟ กลับมาคุมทีม เบอร์ตัน รอบสองเมื่อเดือนวันที่ 7 ธันวาคม 2015 แทนที่ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ ที่ขยับไปคุม ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ในเวทีแชมเปี้ยนชิพ และจบซีซั่นแรก ด้วยการพาทีมเลื่อนชั้นจากลีกวันขึ้นสู่ชปช. แต่หลังจากโลดแล่นอยู่ในลีกรองสองฤดูกาล ก็ตกชั้นกลับสู่ลีกวัน จนถึงตอนนี้คุมทีม 3 ปี 309 วัน

7 เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)
หลังจากถูกหลายสโมสรตามจีบอย่างหนัก สุดท้าย คล็อปป์ เลือก ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2015 ซีซั่นแรกอยู่ในช่วงทดลองทีม จบเพียงอันดับ 8 แต่หลังจากนั้นผลงานค่อยๆ เป็นไปตามเป้า นั่นคือพื้นที่ชปล. ในฐานะอันดับ 4 สองซีซั่นติด จนกระทั่งฤดูกาล 2018-19 ลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเต็มตัว แม้จบรองแชมป์ แต่ในถ้วยยุโรปไปไกลถึงแชมป์ชปล. มาจนถึงตอนนี้คุมทีมในถิ่น แอนฟิลด์ ไปแล้ว 4 ปี 4 วัน และจะคุมทัพไปอีกยาวนานแน่นอน ขณะที่ หงส์แดง มีลุ้นสัมผัสแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990

6 จอห์น โคลแมน (แอคคริงตัน สแตนลี่ย์)
โคลแมน ตอบรับ แอคคริงตัน เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2014 พาทีมอยู่รอดในลีกทูซีซั่นแรก มีลุ้นเพลย์ออฟในปีต่อมาแต่พลาดหวัง จนกระทั่งฤดูกาล 2017-18 ก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกทู เลื่อนชั้นสู่ลีกวันสำเร็จ แม้ผลงานซีซั่นที่แล้วจะทรงๆ อยู่กลางตาราง แต่เก้าอี้กุนซือยังคงไม่หักง่ายๆ จนถึงตอนนี้คุมทีมไปแล้ว 5 ปี 24 วัน

5 เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ถูก สเปอร์ส ดึงตัวมาคุมทีมเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2014 กลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 10 ในช่วงเวลา 12 ปีในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของสโมสรแห่งนี้ แต่ โปเช็ตติโน่ ก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการสร้างทีม โดยเน้นปลุกปั้นดาวรุ่งอังกฤษหลายต่อหลายคน จนผลิดอกออกผลในช่วงไม่กี่ปีต่อมา จนถึงตอนนี้รวมเวลาแล้ว 5 ปี 138 วัน แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังประสบปัญหาฟอร์มตก บวกกับทีมใหญ่หลายคนต้องการตัว จึงทำให้อนาคตของ 'พอช' ไม่มีความแน่นอน

4 ชอน ไดช์ (เบิร์นลี่ย์)
อดีตเซนเตอร์แบ็กขาโหด ถูก วัตฟอร์ด ไล่ออกหลังจบซีซั่น 2011-12 และเข้ามาคุมทัพ เบิร์นลี่ย์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2012 แทนที่ เอ็ดดี้ ฮาว ที่อำลาไปคุม บอร์นมัธ ก่อนหน้านั้นสองสัปดาห์เศษๆ และใช้เวลาซีซั่นถัดมาพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก แม้จะตกชั้นเพียงปีเดียว แต่ก็ใช้เวลาปีเดียวกลับขึ้นมาใหม่ได้เช่นกัน จนถึงตอนนี้ปักหลักอยู่ในพรีเมียร์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 4 แล้ว และเก้าอี้ของ ไดช์ ก็แข็งแรงคงทนมากว่า 6 ปี 347 วัน

3 เอ็ดดี้ ฮาว (บอร์นมัธ)
กุนซือหนุ่มวัยเพียง 41 ปี ตัดสินใจครั้งสำคัญอำลา เบิร์นลี่ย์ ในเวทีแชมเปี้ยนชิพ เพื่อลงไปคุม บอร์นมัธ ทีมเก่าของตัวเองที่เล่นอยู่ในศึกลีกวัน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2012 ในฐานะที่เคยเป็นตำนานนักเตะของสโมสรแห่งนี้ที่รับใช้ทีมมาสองช่วงเวลารวมแล้วทะลุ 300 นัด และ ฮาว ก็สร้างปรากฏการณ์สำคัญพาทีมเลื่อนชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพได้เพียงซีซั่นแรก จากนั้นก็เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในอีกสองฤดูกาลต่อมา และยืนหยัดอยู่ในลีกสูงสุดเป็นซีซั่นที่ 5 ติดต่อกันแล้ว รวมเวลาที่คุมทีมในถิ่น ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม จนถึงตอนนี้ 7 ปีเต็ม กลายเป็นกุนซือที่คุมทีมยาวนานที่สุดในบรรดา 20 ทีมพรีเมียร์ลีกในเวลานี้

2 แกเร็ธ เอนส์เวิร์ธ (วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส)
อดีตปีกที่เคยรับใช้ เปรสตัน, วิมเบิลดัน ผ่านประสบการณ์คุมทีมเล็กๆ สมัยค้าแข้งกับ ควีนส์ปาร์ค ที่เคยรับช่วงสั้นๆ ในฐานะกุนซือชั่วคราวสองรอบ และเรื่องดังกล่าวก็เกิดขึ้นอีกครั้งสมัยเล่นอยู่กับ วีคอมบ์ ในลีกทู โดยรับหน้าที่คุมทัพชั่วคราวเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2012 หลังจากนั้นไม่ถึงสองเดือนก็ได้แต่งตั้งเป็นกุนซือถาวร จนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2013 ก็คุมทัพเต็มตัวมาจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 7 ปี 18 วัน

1 จิม เบนท์ลี่ย์ (มอร์แคมบ์)
ในฐานะนักเตะ เบนท์ลี่ย์ รับใช้ มอร์แคมบ์ มายาวนานเป็นเวลา 9 ปี จนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2011 ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีม หลังจากก่อนหน้านี้รับตำแหน่งผู้เล่น-โค้ชมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี และด้วยความที่กลัวว่าจะไม่มีสมาธิในงานใหม่ จนตัดสินใจแขวนสตั๊ด และคุมทีมในศึกลีกทูเรื่อยมา แม้ผลงานที่ผ่านมาจะห่วยแตก 8 ซีซั่น จบอันดับ 15, 16, 18, 11, 21, 18, 22, 18 ต้องลุ้นหนีตกชั้นจากฟุตบอลลีกเกือบจะตลอด แต่ก็ยังคุมทีมมาจนถึงตอนนี้รวมแล้ว 8 ปี 152 วัน
ทำให้ชื่อของ จิม เบนท์ลี่ย์ กลายเป็นสถิติกุนซือในฟุตบอลลีกอังกฤษ (4 ดิวิชั่น) ที่คุมทีมยาวนานที่สุดคนปัจจุบัน หลังจากเจ้าของสถิติเดิม พอล ทิสเดล ยุติบทบาทกับ เอ็กเซเตอร์ ระยะเวลา 12 ปีลงเมื่่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 แต่ก็ยังไม่แน่ว่า เบนท์ลี่ย์ จะเสียตำแหน่งเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ผ่านไป 12 เกมในลีกทู มอร์แคมบ์ เพิ่งชนะเกมเดียวเท่านั้น จมอยู่รองบ๊วยของตาราง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด