:::     :::

บทพิสูจน์ของจริง

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2560 คอลัมน์ สนามเด็กเล่น โดย เสือเตี้ย
2,147
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ คว้าเหรียญทองได้ตามเป้าอย่างที่วางเอาไว้ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม ทำให้ครองแชมป์ 3 ครั้งติดต่อกันและเป็นสมัยที่ 16

ขณะที่ "โค้ชโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ ก็เดินตามรายเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันทั้ง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ โชคทวี พรหมรัตน์ ที่ได้แชมป์ทั้งในนักเตะและโค้ช

ในแง่ผลการแข่งขันต้องบอกว่าน่าพอใจเพราะมีเพียงนัดแรกที่ออกสตาร์ตด้วยการเสมออินโดนีเซีย 1-1 ที่เหลือ ทัพช้างศึกชุดเล็กเก็บชัยชนะได้หมด และไม่เสียประตูเลย 

นนท์ ม่วงงาม นายทวารคนเก่งเลยทำสถิติตลอดกาลของซีเกมส์เมื่อ "คลีนชีต" ถึง 6 นัดติดต่อกัน

ผลการแข่งขันของไทยเข้าสเต็ปบอลทัวร์นาเมนต์อย่างแท้จริงคือ เริ่มไม่สวย แต่ดีขึ้นตามลำดับ และเป็นแชมป์ในที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในรายละเอียดหลายอย่าง โค้ชโย่ง นักเตะ และสมาคมฟุตบอลฯ รู้ดีว่ายังไม่เป็นที่ประทับใจแฟนบอลมากนัก

ยิ่งเทียบกับชุดแชมป์ 2 ปีก่อนยิ่งต่างกันเหลือเกินในแง่ "คุณภาพ" และ "สไตล์การเล่น" 

จริงอยู่ว่าเราได้เหรียญทองอย่างที่ต้องการ แต่หลายนัดก็เล่นได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง และทำได้เพียงเอาตัวรอด 

การต่อบอล รูปแบบการเข้าทำ ความเข้าขารู้ใจ และทีมเวิร์ก ยังต้องปรับอีกพอสมควร เหมือนต่างคนต่างเล่น และไม่ค่อยไว้เนื้อเชื่อใจกัน

โค้ชโย่ง อาจแก้ต่างได้ว่าเพราะเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่ง โปรแกรมลงสนามถี่ทำให้ยึดชุดเดิมไม่ได้ เมื่อเปลี่ยนทีม เปลี่ยนผู้เล่น ระดับการเล่นก็ย่อมต่าง

แต่จุดที่ถูกวิจารณ์ไม่น้อยคือ พละกำลังและความฟิตที่ช่วงท้ายก็วิ่งกันไม่ออกทั้งที่หลายคนคือตัวหลักในระดับสโมสร ผ่านการเล่นอาชีพจริงจัง แต่ทว่าเป็นตะคริวกันง่ายเหลือเกิน

เรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอสำคัญเลย ยุคนี้โซเชี่ยลครองเมืองด้วย ยิ่งต้องแบ่งเวลาให้ดี หากติดพันหนักหน่วง ย่อมส่งผลถึงการเตรียมพร้อมก่อนลงสนาม

บางคนอาจถือแจ้งเกิด เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อได้เหรียญทองกลับประเทศ แต่แน่นอนว่าเส้นทางอาชีพไม่ได้สิ้นสุดแค่นี้

ต้องเรียกว่า "เพิ่งเริ่มต้น" ด้วยซ้ำ กับวัยเพียงยี่สิบต้นๆ

ทำยังไงให้เด็กกลุ่มนี้ก้าวต่อไปได้ยาวๆ เป็นตัวเลือกคุณภาพให้ทั้งสโมสรและทีมชุดใหญ่

ไม่ใช่ว่าอีกปีสองปีก็หายเข้ากลีบเมฆ ได้ยินชื่ออีกทีเล่นอยู่ใน ที 4 ไม่ก็แขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรแล้วเปลี่ยนเส้นทางไปเลย

ในวัยผ่านเพียงแค่นี้ ถือว่าหัวเลี้ยวหัวต่อเลยทั้งเรื่องการพัฒนาฝีเท้า และการควบคุมอารมณ์ 


ขอบคุณภาพจาก FAMalaysiaOfficial

เห็นข่าว เจนรบ สำเภาดี หัวร้อนตอบโต้แฟนบอลในโซเชียลที่วิจารณ์ฟอร์มการเล่นก็อยากจะเตือนน้องๆ ทีมชาติว่า ควรต้องใจเย็นซักหน่อย 

ทุกวันนี้ สื่อโซเชียลเอื้อให้คนได้แสดงความเห็นกันมากมาย และมากเกินไปด้วยซ้ำ หากนักฟุตบอลหรือทุกชนิดกีฬาอ่อนไหวตามก็รับประกันได้เลยว่าหัวเสียได้เลย 

หลายคนก็หลายมุมมอง บางคนเข้าใจว่าภารกิจซีเกมส์ไม่ได้ง่ายเพราะทุกทีมต้องจ้องโค่นทีมชาติไทยที่เป็นแชมป์เก่า 

แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่คาดหวังไว้สูง มองข้ามระดับอาเซียน เมื่อมีมาตรฐานแบบนี้ตั้งเอาไว้ก็ย่อมไม่พอใจหากทีมชาติตัวเองเล่นได้สูสีกับทีมอย่างติมอร์ เลสเต

นักฟุตบอลเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมถูกพูดถึง ถูกวิจารณ์ 

สิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจคือ อันไหนวิจารณ์อย่างมีเหตุผล พอได้คิดตามแล้วรู้สึกว่าเห็นด้วย ก็น้อมรับไปปรับปรุงตัวเอง

แต่อันนี้มาแนวเกรียนคีย์บอร์ดซึ่งเมืองไทยมีเยอะติดอันดับโลก ก็อย่าไปใส่ใจมาก ปล่อยผ่านไปดีกว่า อย่าไปหัวร้อนตามให้สุขภาพจิตเสีย

เอาเวลาไปฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองดีกว่า เส้นทางยังอีกยาวไกล 

"เวลา" เป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างอยู่แล้ว หากเรายืนระยะได้ พัฒนาตัวเองได้อย่างที่ควรจะเป็นก็เตรียมรับทรัพย์เป็นเศรษฐีได้เลย 

วงการฟุตบอลทุกวันนี้มีอะไรให้กอบโกยมากหากรู้จักวางตัวให้ดี รับมือให้ได้กับสถานการณ์รอบตัว 

ดูอย่างรุ่นพี่ทั้ง "มุ้ย" "ตอง" และ "อุ้ม" ก็ได้ ไม่มีใครไม่ถูกวิจารณ์ แต่หากยังก้มหน้าก้มใช้ฝีเท้าเป็นคำตอบ

เสียงวิจารณ์ก็เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านมาแล้วหายไป เหมือนถ่มน้ำลายลงพื้นและไม่หันกลับไปมอง 

มีแต่ "คนจริง" และ "ของจริง" เท่านั้นที่ยังอยู่

น้องๆ ชุดซีเกมส์เลือกเอาว่าจะให้คนอื่นมองตัวเองอย่างไร 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด