โค้งสุดท้ายก่อนประกาศบัลลง ดอร์
ตอนนี้เดือนตุลาคมแล้ว ลีกฟุตบอลเปิดเต็มที่, เริ่มเห็นฟอร์มการเล่นของทั้งสโมสรและนักเตะ, แฟนบอลตื่นตัว กระตือรือร้นทั้งเรื่องของผลงานและตลาดซื้อ-ขาย
แน่นอนว่าอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือ ใครจะได้รางวัลบัลลง ดอร์ ประจำปี 2019 ไปครอง
หลังจากที่ปีล่าสุด ลูก้า โมดริช โผล่ขึ้นมาคว้ารางวัลนี้ เป็นคนแรกในรอบทศวรรษนอกเหนือจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้รางวัลนี้
สองยอดแข้งของโลกหยุดสถิติได้รางวัลนี้มากที่สุดร่วมกันที่ 5 ครั้ง ทั้งคู่ต่างหวังจะได้รางวัลนี้เพื่อขึ้นเป็น "1 ในแผ่นดิน"
แต่ชัดเจนว่าก็คงไม่ง่ายอีกนั่นแหละเพราะปีนี้มีคนที่โดดเด่นเหลือเกินอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยูฟ่ามาแล้ว
ไปดูสถานการณ์ล่าสุดว่าใครเป็นตัวเต็งสำหรับปีนี้
อันดับ 5 : โมฮาเหม็ด ซาลาห์
สโมสร : ลิเวอร์พูล
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีผลงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วช่วยให้ทีมคว้ารองแชมป์พรีเมียร์ลีกและซีซั่นนี้ก็ช่วยทีมรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนลีกผู้ดีด้วยการคว้าชัยชนะ 8 เกมรวดด้วย
แม้จำนวนสกอร์อาจจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งที่ลงสนามก็คือคนสำคัญของทีมในการเล่นงานคู่แข่ง โดยเฉพาะการดึงตัวประกบให้มาอยู่กับตัวเอง เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้
27 ประตูจาก 52 เกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เฉลี่ย 1 ประตูจาก 2 เกม แถมยังมีแอสซิสต์อีก 3 ครั้ง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับกองหน้า ส่วนในปีนี้ก็ยิงไป 6 ลูกบวกกับ 3 แอสซิสต์จาก 12 เกมทุกรายการ สถิติยังอยู่ในระดับที่ใช้ได้
ทีเด็ดของ ซาลาห์ นอกจากจะทำประตูเองได้แล้วก็ยังมีแอสซิสต์ให้เพื่อนด้วย แม้ว่าสมัยนี้กองหน้าประเภทนี้จะมีทั่วไป แต่ข้อสำคัญคือตัวเลขอันยอดเยี่ยมของสตาร์จาก ลิเวอร์พูล
แม้ว่าจะอาจจะยากที่จะไปถึงตำแหน่งสูงสุด แต่ขอติด 1 ใน 3 ก็ยังดี
อันดับ 4 : อาลีสซง
สโมสร : ลิเวอร์พูล
ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล
อาลีสซง ยกระดับฝีมือขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้วลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกครบทั้ง 38 เกม เสียไปเพียง 22 ประตู น้อยที่สุดในลีก ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกลงเฝ้าเสา 13 นัดเสีย 12 ประตู ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครอง
นอกจากนี้ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา อาลีสซง ยังช่วยให้ทีมชาติบราซิลไปถึงตำแหน่งแชมป์ทวีปอย่างยิ่งใหญ่ด้วย
แม้ว่าคำชื่นชมส่วนใหญ่จะถูกยกให้กองหลังเพื่อนร่วมทีมอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่หลายครั้งก็ได้สองมือของนายทวารวัย 27 ปีนี่เองที่ช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตู
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในเกมรับของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้สังเวียนแอนฟิลด์กลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งและเป็นที่เกรงกลัวอีกครั้งของผู้มาเยือน
อันดับ 3 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สโมสร : ยูเวนตุส
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงเป็นจอมถล่มประตูไม่เปลี่ยนแปลง หนึ่งในเครื่องจักรสังหารที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน
แม้ในช่วงขวบปีที่ผ่านมากับการโยกมาค้าแข้งกับ ยูวนตุส ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตัวเลขในการถล่มประตูจะลดน้อยถอยลงไปพอสมควรเมื่อเทียบกับสมัยที่อยู่กับ เรอัล มาดริด แต่ก็นับเป็นตัวเลขที่สูงอยู่ดี
28 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ใน 43 เกมกับทีม "ม้าลาย" ยังเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมกับนักเตะที่อายุ 34 ปีแล้ว
นอกจากนี้ผลงานในการเล่นทีมชาติก็ยังถือว่ายอดเยี่ยม พาทัพ "ฝอยทอง" คว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีกมาครองสำเร็จ
ตลอด 12 ปีที่ผ่านมาของการประกาศรางวัลบัลลง ดอร์ตั้งแต่ปี 2007 ถ้า โรนัลโด้ ไม่ได้รางวัลไปครองก็คือได้อันดับ 2 ส่วนในปีนี้แฟนๆก็รอลุ้นกัน แม้ว่ามันจะยากสักหน่อยก็ตาม
อันดับ 2 : ลิโอเนล เมสซี่
สโมสร : บาร์เซโลน่า
กลับมาลงสนามอีกครั้งในฤดูกาลนี้หลังจากที่เผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บ ซึ่งก็ทำให้เห็นแล้วว่า บาร์เซโลน่า ยามที่ขาดเขาไปต้องเจอกับปัญหาขนาดไหน
แม้ผลงานกับทีมชาติอาร์เจนติน่าในโกปา อเมริกาจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ผลงานในระดับสโมสรหรือฟอร์มส่วนตัวยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง
51 ประตูจาก 50 เกม แถมยังแอสซิสต์อีกถึง 22 ครั้ง คือตัวเลขที่ต้องใช้คำว่า "สุดยอด" ไม่มีคำไหนที่จะบรรยายได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
เจ้าของตำแหน่งบัลลง ดอร์ 5 สมัยยังคงเป็นคู่แข่งเสมอสำหรับรางวัลนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะผลงานส่วนตัวยังถือว่าไร้เทียมทานอยู่
ถึงบ่อนรับพนันส่วนใหญ่จะให้ เมสซี่ เป็นเพียงอันดับ 2 บนหน้ากระดาษ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็คงต้องวัดกันว่าใครจะเป็นคนที่ได้ชูโทรฟี่
อันดับ 1 : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
สโมสร : ลิเวอร์พูล
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่บ่อนทุกสำนักพร้อมใจกันยกให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นตัวเต็งที่จะได้รางวัลในปีนี้ไปครอง
หลังจากใครหลายคนมองว่าเซนเตอร์จาก ลิเวอร์พูล "ถูกปล้น" รางวัลฟีฟ่า เบสต์ เมน อวอร์ด ปีนี้ ก่อนท้ายที่สุดแล้วจะไปถึงตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของยูฟ่า
รองแชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, รองแชมป์เนชั่นส์ ลีก ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสำหรับการไปถึงตำแหน่งสูงสุดของโทรฟี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนักฟุตบอล
ฟาน ไดค์ กลายเป็นสุดยอดปราการหลังได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลกเวลานี้ ลิเวอร์พูล เสียเพียง 22 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว น้อยที่สุดในลีก เขาคือคนสำคัญ
นอกจากนี้กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ยังมีทีเด็ดจากการเล่นลูกตั้งเตะ 6 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นตัวการันตีได้ดี แถมยังมีแอสซิสต์ให้เพื่อนอีก 4 ครั้ง ถือเป็นกองหลังที่ครบเครื่องจริงๆ
กองหลังคนสุดท้ายที่ได้รางวัลนี้ก็คือ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 ซึ่งหากปีนี้เป็นของ ฟาน ไดค์ ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด