สเปน เคยตกรอบคัดเลือกของศึกยูโร 1992 ทั้งที่อุดมไปด้วยแข้งดาวดังอย่าง เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่, เฟร์นานโด เอียร์โร่, ราฟาเอล มาร์ติน บาซเกซ, มานูเอล ซานชีส, มิเชล, อันโดนี่ กอยโกเอตเชีย หรือ โฆเซ่ มารี บาเกโร่ 

ทีมกระทิงสถิติชนะ 2 แพ้ 2 จากการลงเล่น 4 เกมแรกทำให้ หลุยส์ อาราโกเนส ถูกปลดออกจากตำแหน่งก่อนตั้ง บีเซนเต้ เมียร่า กัมโปส รับงานต่อ แต่ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ทัพ'โลส บลังโกส'จบอันดับ 3 ของกลุ่ม 1 ตามหลังทั้ง เชโกสโลวาเกีย และ ฝรั่งเศส ซึ่งคว้าชัย 8 เกมตลอดรอบคัดเลือกครั้งนั้น

นับจากความผิดหวังจากศึกยูโร 1992 ทัพกระทิงคว้าตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 14 รายการติดต่อกัน ซึ่งรวมถึงศึกยูโร 2020 ที่เพิ่งซิวตั๋วมาจากเกมเสมอ สวีเดน 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นศึกฟุตบอลโลกและยูโรรายการละ 7 สมัยเท่ากัน ก่อนคว้าแชมป์ 3 เมเจอร์สำคัญอย่าง ฟุตบอลโลก (2010) กับ ยูโร (2008 กับ 2012) 

สเปน เริ่มต้นรอบคัดเลือกศึกยูโร 2020 ด้วยเกมชนะ นอร์เวย์ 2-1 บนสังเวียนเมสตาย่าของเมืองบาเลนเซียเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2019 ภายใต้การกุมบังเหียนของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ ก่อนเทรนเนอร์ชาวอัสตูเรียโน่จะขอลากิจแบบไม่มีกำหนดเนื่องจากบุตรสาวเป็นมะเร็งพร้อมมอบหน้าที่คุมทีมชั่วคราวให้มือขวา โรเบิร์ต โมเรโน่ ตั้งแต่เกมบุกชนะ มอลตา 2-0 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 

เทรนเนอร์วัย 42 ปีนำทัพ'ลา โรฆา'คว้าชัยชนะอีก 2 เกมในฐานะเทรนเนอร์รักษาการเหนือ หมู่เกาะแฟโร (4-1) กับ สวีเดน (3-0) จนกระทั่งขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์เต็มตัวตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาหลัง หลุยส์ เอ็นรีเก้ ก้าวลงจากเก้าอี้อย่างเป็นทางการเพื่อใช้เวลาดูแลลูกสาวที่ป่วยและโรคร้ายก็พรากชีวิตเธอไปหลังจากนั้นไม่นานนัก 

โรเบิร์ต โมเรโน่ ยังขับเคลื่อนทัพกระทิงได้ดีต่อเนื่องหลังจากนั้น เขานำทีมคว้าชัยชนะ 2 เกมติดต่อกันเหนือ โรมาเนีย (2-1) และ หมู่เกาะแฟโร (4-0) ก่อนสะดุดเสมอทั้ง นอร์เวย์ และ สวีเดน ด้วยสกอร์ 1-1 เท่ากันในการลงเล่นรอบคัดเลือกช่วงเดือนตุลาคม แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับการคว้าตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของศึกยูโร 2020 แม้ว่าจะเหลือโปรแกรมลงสนามอีก 2 นัดกับ มอลตา ที่'ราม่อน เด การ์รานซ่า'ของเมืองกาดีซ และ โรมาเนีย บนสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่' ก็ตาม 

ภารกิจแรกของ โรเบิร์ต โมเรโน่ เสร็จสิ้นตั้งแต่การเยือนสังเวียน'เฟรนด์ส อารีน่า'เมื่อวันอังคาร เมื่อเขานำทัพกระทิงคว้าตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของศึกยูโร 2020 ตามเป้าหมายที่วางไว้ 

นับจากนี้ทั้งการลงเล่นทิ้งทวนรอบคัดเลือกอีก 2 เกมในช่วงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงโปรแกรมอุ่นเครื่องในช่วงปีหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทัวร์นาเมนต์สำคัญจะเป็นช่วงเวลาตัดเกรดคัดเลือกนักเตะ 23 คนสำหรับการทำศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย 

ตั้งแต่ โรเบิร์ต โมเรโน่ เข้ามาทำงานกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปนพร้อม หลุยส์ เอ็นรีเก้ ในฐานะมือขวาก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์เต็มตัว เขาเรียกใช้งานนักเตะรวมกันถึง 48 คน ดังนั้นพวกผู้เล่นเหล่านี้จึงอยู่ในข่ายที่มีโอกาสไปเล่นทัวร์นาเมนต์สำคัญกลางปีหน้าและยังมีอีกหนึ่งคนที่น่าจะมีเอี่ยวด้วยนั่นคือ อันซู ฟาตึ แนวรุกดาวโรจน์ของ บาร์เซโลน่า ที่เทรนเนอร์วัย 42 ปีเคยเอ่ยปากถึงกองหน้าวัย 16 ปีว่าอาจจะมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน 

จาก 48 นักเตะที่เคยมีส่วนร่วมกับทัพกระทิงตั้งแต่ โรเบิร์ต โมเรโน่ เข้ามาทำงาน ตามมุมมองของสื่อเมืองกระทิงระบุว่ามีผู้เล่น 13 คนที่น่าการันตีตำแหน่งสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่กลางปีหน้า เว้นเสียแต่ว่าใครจะโชคร้ายบาดเจ็บหนักจนหลุดโผไปซะก่อน 

13 นักเตะที่สื่อเมืองกระทิงกล่าวถึงคือติดทีมชาติแบเบอร์คือ ดาบิด เด เคอา, เกปา อาร์รีซาบาลาก้า, เปา โลเปซ, เฆซุส นาบาส, ดาเนียล การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โรดรีโก้ เอร์นานเดซ โรดรี้, ซาอูล ญีเกซ, ฟาเบียน รูอีซ, ดาเนียล เซบายอส กับ โรดรีโก้ โมเรโน่ 

ตำแหน่งผู้รักษาประตูครบ 3 คนตามโควตา โดยคาดว่าเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนยังใช้นโยบายเดิมไม่การันตีว่าตำแหน่งมือหนึ่งเป็นใครจะเป็นการสลับกันลงเฝ้าเสาระหว่าง เด เคอา กับ เกปา ส่วน เปา โลเปซ รับบทมือสาม ดังนั้นผู้รักษาประตูคนอื่นแทบจะหมดโอกาสสอดแทรกไปโดยปริยายเว้นแต่ใครจะล้มหมอนนอนเสื่อเท่านั้น 

เช่นเดียวกับตำแหน่งแบ็กขวาที่มีทั้ง เฆซุส นาบาส กับ ดาเนียล การ์บาฆาล จับจองพื้นที่ครบโควตา ขณะที่แบ็กซ้ายมี จอร์ดี้ อัลบา เพียงคนเดียวที่ได้รับการการันตีตำแหน่ง ดังนั้นอีกหนึ่งโควตาที่ว่างยังต้องแย่งชิงกันหลายคนทั้ง ฆวน เบร์นาต, โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า หรือแม้แต่น้องใหม่รายล่าสุดอย่าง เซร์คิโอ เรกีลอน 

เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีมเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการรันตีตำแหน่ง ดังนั้นจึงเหลืออีก 3 โควตาตำแหน่งเซนเตอร์ว่าใครจะมีโอกาสลุ้นไปเล่นรอบสุดท้ายของศึกยูโร 2020 ทั้ง อินญีโก้ มาร์ตีเนซ, ดีเอโก้ ยอเรนเต้ กับ มารีโอ เอร์โมโซ่ มีภาษีเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นหลังสลับกันมีส่วนร่วมกับทีมของ โรเบิร์ต โมเรโน่ หรือแม้กระทั่ง เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่เล่นได้ทั้งเซนเตอร์และแบ็กขวา 

อย่างไรก็ตาม ประมาทแข้งประสบการณ์อย่าง ราอูล อัลบิโอล หรือ เปา ตอร์เรส แนวรับดาวรุ่งจาก บียาร์เรอัล ไม่ได้เช่นกันเนื่องจากเทรนเนอร์วัย 42 ปีเปิดกว้างสำหรับนักเตะทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นสูงวัยหรือแข้งวัยรุ่นนมเพิ่งแตกพานก็ตาม 

นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นแนวรับอีกหลายคนที่เคยอยู่ในลิสต์ทีมชาติสเปนก่อนหน้านี้ทั้ง มาร์ก บาร์ตร้า (เรอัล เบติส), อูไน นูนเญซ (แอธเลติก บิลเบา), นาโช่ เฟร์นานเดซ (เรอัล มาดริด), มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี), เซร์จี้ โกเมซ (เซบีย่า), จอนนี่ กาสโตร (วูล์ฟแฮมป์ตัน) หรือ อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า (เรอัล มาดริด)

สำหรับแดนกลางมีการการันตีตำแหน่งสำหรับนักเตะ 5 คนคือ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โรดรี้, ซาอูล ญีเกซ, ฟาเบียน รูอีซ กับ ดาเนียล เซบายอส เหลือโควตาให้ลุ้นอีก 3-4 คน ซึ่งมีโอการเป็นไปได้ทั้ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า (บาเยิร์น มิวนิค), ดาเนียล ปาเรโฆ (บาเลนเซีย), ซานติอาโก้ กาซอร์ล่า (บียาร์เรอัล) หรือ อีสโก้ อาลาร์กอน (เรอัล มาดริด) 

ผู้เล่นแดนกลางคนอื่นอาจสอดแทรกขึ้นมาได้เช่นกันหากโชว์ฟอร์มดีกับต้นสังกัดไม่ว่าจะเป็น เซร์จี้ โรเบร์โต้ (บาร์เซโลน่า), ฆอร์เค่ เรซูร์เรกซิออน โกเก้ (แอตเลติโก มาดริด), ปาโบล ฟอร์นาลส์ (เวสต์แฮม), บราอีส เมนเดซ (เซลต้า บีโก้), ซูโซ่ (มิลาน), เซร์คิโอ กานาเลส (เรอัล เบติส), หลุยส์ อัลเบร์โต้ (ลาซิโอ), มาร์ก โรก้า (เอสปันญ่อล), มิเกล เมรีโน่ (เรอัล โซเซียดาด) หรือ อีเกร์ มูเนียอิน (แอธเลติก บิลเบา)

ส่วนโควตากองหน้ามีเฉพาะ โรดรีโก้ โมเรโน่ ดาวยิงจากบาเลนเซียเท่านั้นที่การันตีว่าจะมีชื่อติดทัพกระทิง ดังนั้นจึงเหลือพื้นที่อีก 3-4 ราย แต่มีนักเตะพร้อมท้าชิงโควตาหลานต่อหลายคน 

ทั้ง มิเกล โอยาร์ซาบาล (เรอัล โซเซียดาด), อัลบาโร่ โมราต้า (แอตเลติโก มาดริด), ฟรานซิสโก้ อัลกาเซร์ (ดอร์ทมุนด์), ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า บีโก้), ปาโบล ซาราเบีย (เปแอสเช) และ เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล)

แต่ ดีเอโก้ คอสต้า (แอตเลติโก มาดริด), บอร์ฆา อีเกลเซียส (เรอัล เบติส), อินญากี้ วิลเลียมส์ (แอธเลติก บิลเบา), เปโดร โรดรีเกซ (เชลซี), ลูกัส บาซเกซ (เรอัล มาดริด), บิคตอร์ มาชิน บีโตโล่ (แอตเลติโก มาดริด), ไฆเม่ มาต้า (เคตาเฟ่), โฆเซ่ กาเยฆอน (นาโปลี) หรือแม้แต่ ดาเนียล โอลโม่ (ดินาโม ซาเกร็บ) อาจปาดหน้าคว้าพุงปลาไปรับประทานได้เช่นกันหากสร้างผลงานน่าประทับใจกับสโมสรต้นสังกัด 

การเลือกผู้เล่น 23 คนสำหรับทำศึกยูโร 2020 รอบสุดท้ายขึ้นอยู่กับการรวบรวมข้อมูลนักเตะของ โรเบิร์ต โมเรโน่ และทีมงานว่าผู้เล่นคนใดสมควรมีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์สำคัญช่วงกลางปีหน้ามากที่สุดซึ่งคงไม่พ้นจากบรรดารายชื่อที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้