ผลงานก็ย่ำแย่ (ห่วยแตก) อยู่แล้วแถมต้องมาเสียแกนหลักคนสำคัญไปอีกทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คงอยากเอาเท้ามาก่ายหน้าผากให้รู้แล้วรู้รอด

ในอดีตขึ้นชื่อว่า 'แดงเดือด' ไม่ว่าแต่ละทีมจะทำผลงานได้ดีหรือแย่เพียงใดก็ตาม แต่ทั้ง ปิศาจแดง และ หงส์แดง ต่างลงสนามด้วยการเล่นเกิน 100 และพร้อมสู้กับฝ่ายตรงข้ามชนิดไม่มีถอย เพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคอ

แต่ถ้าวัดจากปัจจัยโดยรวมในตอนนี้ ยูไนเต็ด เป็นรองชัดเจนแบบไม่ต้องสงสัย ทั้งในเรื่องของผลงาน, ความมั่นใจ และศักยภาพนักเตะที่เดินตามหลังอริทีมนี้อยู่พอสมควร

หงส์แดง ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจากกุนซือที่เป็นตัวตลกของเหล่า ผีแดง พร้อมกับแฮชแท็ก #Saveklopp ในตอนนั้น วันนี้เขาเพิ่งเสกแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาให้สโมสร และยังนำทีมดังของแอนฟิลด์นั่งบัลลังก์จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้

ยิ่งไปกว่านั้น การเสริมทีมและพัฒนานักเตะก็ดูเป็นรูปร่างและแบบแผนที่ชัดเจน นั่นจึงทำให้ ลิเวอร์พูล กลายสภาพจากยักษ์หลับกลายเป็นทีมที่พร้อมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในอังกฤษ

ตัดภาพมาดูที่ ปิศาจแดง ... นับตั้งแต่การลงจากตำแหน่งของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สโมสรดูเหมือนคนตาบอดที่เดินแบบไร้จุดหมาย กุนซือคนแล้วคนเล่าเข้ามาและจากไป แม้จะมีแชมป์ติดมือบ้าง แต่หากวัดผลงานโดยรวมถือว่าน่าผิดหวังโดยเฉพาะในลีก

เดวิด มอยส์ คั่นด้วย ไรอัน กิ๊กส์ ในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นเป็นกุนซือมากประสบการณ์อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล และมาเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ ... ปิศาจแดง ก็ยังไม่ฟื้นจากหลุม

จนมาถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เข้ามาสร้างความฮือฮาในช่วงรักษาการ แต่มันกลับกลายเป็นเหมือนภาพลวงตา เพราะหลังจากประกาศเซ็นสัญญาถาวร ผีแดง ของ 'น้าลูกอม' กลับกลายเป็นคนละทีมและผลงานตกลงไปอย่างน่าใจหาย

หลายคนยังคงมั่นใจว่าต้องให้เวลาทำทีม ซัมเมอร์ผ่านไปพร้อมกับการคว้า 3 นักเตะใหม่เข้ามา แต่มันดูเหมือนไม่ครบสมบูรณ์โดยเฉพาะแนวรุกที่ตอนนี้มีปัญหาอย่างมาก

การจากไปของ อเล็กซิส ซานเชซ และ โรเมลู ลูกากู ไม่ได้ถูกแทนที่ด้วยนักเตะใหม่ โดย โซลชา ให้เหตุผลว่าพอใจกับแนวรุกที่มีอยู่ทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หรือแม้กระทั้งเจ้าหนู เมสัน กรีนวูด

แต่ช่วงที่ผ่านมามันบ่งบอกด้วยตัวของมันเองแล้วว่าทีมคิดผิดที่ไม่เสริมแนวรุก เพราะการหายไปของ มาร์กซิยาล ส่งผลอย่างมาก รวมไปถึงผลงานของ แรชฟอร์ด ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้ทีมมีปัญหาในการจบสกอร์

มันคือปัญหาที่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่จะมาแก้ไขตอนนี้ก็ทำไม่ได้เพราะตลาดนักเตะปิดไปนานมากแล้ว สิ่งเดียวที่ โซลชา ทำได้คือใช้นักเตะเท่าที่มีซึ่งผลของมันก็ออกมาอย่างที่เห็นในตอนนี้

ยิ่งกับเกมดวลกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้ เป็นศึกที่ ผีแดง ไม่อยากแพ้เป็นอย่างมาก แต่ด้วยปัจจัยโดยรวมที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทั้ง ฟอร์มการเล่น, ปัญหานักเตะบาดเจ็บ หรือความมั่นใจ มันจึงยากที่จะมองพยายามมองในแง่ดีว่า โซลชาและลูกทีมจะเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ดเอาชนะ หงส์แดง ได้

ไม่ใช่ว่าหมดศรัทธากับทีมรัก แต่เราต้องหัดมองความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ใช่หลับหูหลับตาเชียร์และเลือกที่จะมองข้ามปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะหากทำเช่นนั้นแล้วก็คงไม่ต่างจากการทำร้ายสโมสรทางอ้อม เราต้องพยายามมองหาจุดผิดพลาดและปัญหาที่เกิดขึ้นและพยายามสะกิดไปยังสโมสร แม้จะเป็นเสียงอันน้อยนิด แต่หากรวมกันมากๆ ก็กลายเป็นพลังและถูกส่งต่อไปยังเบื้องบน 

ใช่ว่านิ่งเฉยไปแล้วปล่อยคำพูดหล่อๆ ออกมาว่า ‘เราคนนอกปล่อยให้สโมสรเขาจัดการกันเอง’ การกระทำเช่นนี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ใดๆ เพราะเมื่อเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นเราในฐานะผู้ที่ติดตามเชียร์และมอบหัวใจให้สโมสรมานานหลายปี (บางคนมากกว่าครึ่งชีวิต) ต้องแสดงความเห็นและส่งต่อไปยังสโมสร

ยิ่งโลกปัจจุบันมีทั้ง โซเชียล มีเดีย หรือช่องทางการติดต่อมากมาย ทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นบอร์ดบริหารรับรู้ดีเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นคือการตอบสนองของพวกเขา ยิ่งต้องมาเห็นอริอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล มาห้ำหั่นกันและตนเองต้องมานั่งมองตาปริบๆ มันจึงต้องถึงเวลาที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาจะฝังรากลึกและใช้เวลาแก้ไขยาวนานกว่าเดิม

คนที่ดูจะร้อนใจคงหนีไม่พ้น โซลชา แม้ภายนอกยังดูสงบแต่แววตาของกุนซือชาวนอร์เวย์กลับตรงกันข้าม มันคือแววตาของคนที่กำลังมีปัญหาให้ครุ่นคิด ไม่ว่าจะเป็นผลงานของลูกทีมหรือความมั่นใจ

บวกกับช่วงที่ผ่านมากระแสปลด โซลชา มาแรงจากทางสื่ออังกฤษที่ระบุว่าชะตาของ 'น้าลูกอม' อาจจะดับหากแพ้ หงส์แดง คารังแบบเละเทะ ซึ่งสโมสรก็หาทางออกโดยไปเจรจากับ แม็กซ์ อัลเลกรี ไว้แล้ว

แต่ก็มีบรรดาอดีตนักเตะดังของ ผีแดง ที่ยังคงหนุนหลัง โซลชา ให้อยู่ต่อไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะทุกคนเชื่อมั่นในปรัชญาของ โอเล่ ว่าจะพา ปิศาจแดง ตนนี้กลับมายิ่งใหญ่

นั่นคือกระแสข่าวในช่วงที่ผ่านมาที่เกี่ยวกับอนาคตของ โซลชา ในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่ออกมาทุกวัน ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาคงหนีไม่พ้นเกมวันอาทิตย์นี้

แม้ปัจจัยโดยรวมจะไม่เป็นไปตามที่หวัง นักเตะแกนหลักบาดเจ็บหลายราย  ไหนจะความมั่นใจที่หดหาย แต่การแพ้ หงส์แดง คารังก็คงไม่สามารถเอาเรื่องที่ว่ามาเป็นข้อแก้ตัวได้

หากท้ายที่สุด ปิศาจแดง ต้องออกมาในฐานะผู้พ่ายแพ้ในวันอาทิตย์นี้ กระแสการไล่ โซลชา ของแฟนบอลจะรุนแรงมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา และจะหนักไปกว่านั้นหากแพ้ชนิดที่รูปเกมสู้ไม่ได้ เราคงได้เห็นความเดือดดาลของเหล่า เร้ด อาร์มี่ อย่างแน่นอน

แน่นอนเกมฟุตบอลมีชนะมีแพ้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือทรงบอลหรือรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน ซึ่ง ปิศาจแดง ไม่ได้แสดงสิ่งที่ว่ามาให้แฟนบอลได้เห็นเลยในหลายนัดที่ผ่านมา

บางเกมอาจจะบุกหนักแต่สุดท้ายก็ไปตายเอาดาบสุดท้าย หรือบางเกมนำคู่แข่งอยู่ดีๆ แต่ท้ายที่สุดก็กลับมาตายน้ำตื้นพลาด 3 คะแนนไปแบบงงๆ 

มันจึงเป็นงานสำคัญและงานหนักของ โซลชา ในการกระตุ้นทีมที่กำลังมีปัญหาเรื่องความมั่นใจและผลงานให้กลับมายืนหยัดอีกครั้งในเกมสำคัญแบบนี้ เพราะนั่นจะเป็นการพิสูจน์ 'กึ๋น' ตัวเขาเองด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด

เกมแห่งศักดิ์ศรีที่เดิมพันอาจจะมีมากกว่า 3 คะแนน เพราะมันอาจจะรวมไปถึงอนาคตของใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างสนาม

ไม่มีใครรู้อนาคตต่อจากนี้ แต่สำหรับ โซลชา แล้ว หลังจบเกมแดงเดือดวันอาทิตย์นี้ อะไรหลายๆอย่างคงชัดเจนมากกว่าเดิม