:::     :::

บุกตีดาบคู่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นัดแรกของอาร์เซน่อลหลังเบรกทีมชาติกลับมาคือการบุกเยือน บรามอล เลน ของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในคืนวันจันทร์นี้ซึ่งสนามแห่งนี้เป็นอีกของแสลงที่อาร์เซน่อลไม่เคยบุกชนะได้เลยในยุคพรีเมียร์ลีก

ครั้งล่าสุดที่ อาร์เซน่อล ไปเยือน เชฟฯ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีกคือ ธันวาคมปี 2006 ที่แพ้กลับออกมา 0-1 หลังจากนั้นเรากลับไปเยือนอีกครั้งในถ้วยลีก คัพ เมื่อปี 2007 และชนะได้ 3-0

ถ้านับเฉพาะยุคพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล ไปเยือน เชฟฯ ยูไนเต็ด 4 นัด ลงเอยด้วยการเสมอ 3 นัด และแพ้ 1 นัด ไม่เคยชนะเลย

ชัยชนะหนล่าสุดในเกมลีกต้องย้อนไปในปี 1991 ช่วงที่กำลังได้แชมป์ลีกสูงสุดตอนที่ยังชื่อว่า "ดิวิชั่น 1" ก่อนเปลี่ยนเป็น "พรีเมียร์ลีก" ในฤดูกาล 1992/93

ก่อนเบรกทีมชาติ อูไน เอเมรี่ พาทีมเบียดชนะ บอร์นมัธ หวุดหวิด 1-0 ทำให้ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง แต่ล่าสุดหล่นมาอยู่ที่ 5 อีกครั้งหลังจาก เลสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ต่างเก็บชัยชนะได้ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 


ลากาแซ็ตต์ พร้อมกลับมาช่วยทีมหลังหายเจ็บ

โปรแกรมเยือนบรามอล เลน ในวันจันทร์นี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่ อาร์เซน่อล ไปเยือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ช่วงที่ผ่านมาทีม "ดาบคู่" ตกชั้นลงไปอยู่ในลีกล่างก่อนเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลนี้

ความพร้อมเรื่องขุมกำลัง เอเมรี่ จะได้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ กองหน้าตัวเก่งอีกรายกลับมาช่วยทีมหลังหายเจ็บลงฝึกซ้อมได้ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ลากาแซ็ตต์ ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากเกมนอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ที่เสมอ สเปอร์ส 2-2 เมื่อต้นเดือนกันยายน และพลาดช่วยทีมมาตลอด 7 นัดหลังสุดในทุกรายการ

ด้วยการที่ห่างหายไปนานเกือบ 2 เดือน ลากาแซ็ตต์ น่าจะเริ่มต้นที่ม้านั่งสำรอง ปิแอร์ เอเมริค-โอบาเมย็อง ที่กำลังทำผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ จะเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกเหมือนเดิม

โอบาเมย็อง รักษาผลงานจากฤดูกาลก่อนที่คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล ด้วยการยิงอีก 7 ประตูในช่วงออกสตาร์ท 8 นัดแรกฤดูกาลนี้ รวมถึงยิงอีก 1 ประตูในยูโรปา ลีก นัดบุกชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 3-0 


โอบาเมย็อง กำลังลุ้นประตูที่ 50 

ด้วยผลงานร้อนแรงแบบนี้ทำให้หัวหอกทีมชาติกาบองได้รับการโหวตให้ครองตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนกันยายน และนับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รางวัลต่อจากครั้งแรกในเดือนตุลาคมของฤดูกาลที่แล้ว

อดีตหัวหอกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังลุ้นทำสถิติเป็นนักเตะอาร์เซน่อลคนที่ 51 ที่ยิงได้ครบ 50 ประตูหลังตอนนี้กดไปแล้ว 49 ประตูจากการลงเล่น 75 นัดในทุกรายการ

หากยิงได้ในเกมกับเชฟฯ ยูไนเต็ดคืนวันจัน่ทร์นี้ โอบาเมย็อง ก็จะทำสถิติยิงยิงครบ "ครึ่งร้อย" เร็วสุดอันดับ 6 ของสโมสรอีกด้วย

ใน 49 ประตูที่ผ่านมา เป็นการยิงนอกบ้าน 20 ประตู และใน 7 นัดหลังสุดที่อาร์เซน่อลเล่นนอกบ้าน โอบาเมย็อง ก็ยิงได้ถึง 6 นัด เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว 

อีกจุดน่าสนใจในนัดนี้คือ การประเดิมพรีเมียร์ลีกของ คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ที่ลงเล่นในฟุตบอลถ้วยไปแล้ว 2 นัดและทำผลงานได้เข้าตาอย่างมาก

"เขาพร้อมลงเล่น ตอนนี้เรามีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็กซ้าย 2 คนคือ เซอัด โคลาซินัช และเขา" เอเมรี่ กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการส่งอดีตแข้งเซลติกลงเล่นในเกมมันเดย์ไนท์ที่จะถึงนี้

ในเกมกับบอร์นมัธ เทียร์นี่ย์ มีชื่อเป็นสำรองแต่ไม่ถูกเปลี่ยนลงสนาม และในช่วงเบรกทีมชาติ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แข้งวัย 22 ปี ก็ได้อยู่กับสโมสรเพื่อเรียกความฟิตอย่างเต็มที่ ไม่ได้ไปเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์แต่อย่างใด นั่นทำให้พร้อมแล้วสำหรับครั้งแรกกับเกมระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะเป็นอีกบทพิสูจน์ที่น่าจับตามองหลังผ่านเกมในลีกสูงสุดของสกอตแลนด์ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี 


อาร์เซน่อลไม่เคยบุกชนะเชฟฯ ยูไนเต็ดได้เลยในพรีเมียร์ลีก

ร็อบ โฮลดิ้ง กับ เอคตอร์ เบเยริน เป็นอีก 2 รายที่มีโอกาสลงเล่นเกมลีกเป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้หลังหายเจ็บหนักกลับมาลงสนามได้พร้อมๆ กัน และในช่วงเบรกทีมชาติที่ผ่านมาก็ลงเรียกความฟิตเพิ่มเติมในเกมกระชับมิตรเช่นเดียวกับ เทียร์นี่ ที่เล่นด้วย 

ทว่าคนที่จะถูกโฟกัสที่สุดหากได้ลงสนาม หรือถูกพูดถึงอีกรอบหากไม่ได้ลงคือ เมซุต โอซิล 

โอซิล กำลังเป็นประเด็นใหญ่ที่ทุกคนพูดถึงเพราะหลุดจากทีมของ เอเมรี่ บ่อยครั้ง โดยไม่มีชื่อเลยแม้กระทั่งสำรองใน 3 นัดหลังสุดก่อนเบรกทีมชาติทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาบาดเจ็บแต่อย่างใด 

เอเมรี่ กล่าวถึง โอซิล ก่อนเกมในวันจันทร์นี้ว่า "กรณีของ เมซุต ปีนี้เป็นปีที่เริ่มต้นลำบากสำหรับเขา ในช่วงปรีซีซั่น เขาทำได้ดีและได้เล่น แต่จากนั้นเขาก็มีปัญหาพร้อมกับ เซอัด (ถูกดักปล้นในเมือง) และก็ทำให้ต้องหยุดเล่นไป"

"ภายหลังปัญหาดังกล่าว เขาก็ป่วยอีกหนึ่งสัปดาห์ และพลาดการซ้อมในหลายครั้งจนส่งผลต่อระดับการเล่นและฟอร์มส่วนตัว ทว่าใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาทำได้ดีขึ้นในการซ้อมและผมก็คิดว่าเขาเองก็รู้สึกดีเยี่ยม"

"ผมไม่สัญญาหรอกว่าเขาจะได้เล่นเพราะผมต้องการทำให้แน่ใจว่าเขาพร้อมที่จะเล่นและพร้อมที่จะฝึกซ้อม รวมถึงทำให้เราเห็นว่ามีสภาพความรู้สึกที่ดีในการซ้อมทุกวัน ถ้าทำได้เขาก็ได้เล่น"

"แนวคิดของผมคือเขาต้องการใช้งานผู้ทุกคนและเขาก็คือหนึ่งในผู้เล่นของทีม เขามีทักษะที่สุดยอด มีคุณภาพที่เราต้องการในนัดต่อไป ในตอนนี้ผมแฮปปี้กับผลงานของเขาในการซ้อมที่ทำได้ดีขึ้นในทุกวัน เขาทำให้ทีมมีผู้เล่นมากขึ้นอีกหนึ่งคน" 


โอซิล ลุ้นคัมแบ็กในวันจันทร์นี้

เอเมรี่ ได้ขยายความถึงการตัดสินใจที่ผ่านมากับการดร็อป โอซิล ออกจากทีมเพราะคนอื่นสมควรได้โอกาสมากกว่าว่า "เมื่อผมบอกไปแบบนั้น นั่นก็เพราะในตอนนั้นก็อาจเป็นเรื่องสภาพร่างกาย และอาจรวมถึงจังหวะการเล่น มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการในแต่ละนัด"

"นักเตะคนอื่นมีโอกาสมากกว่าเขาในตอนนั้น ส่วนตอนนี้ ผมก็กำลังบอกอยู่ว่าผมรู้สึกกับเขาดีขึ้นในทุกวันของการฝึกซ้อม และมีความเป็นไปได้ที่เขาจะอยู่ในทีมและได้ลงเล่นช่วยเรา" 

การหลุดจากทีมบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมาทำให้สื่อในอังกฤษจับตามองว่ามีโอกาสที่สตาร์วัย 31 ปีจะย้ายทีมในเดือนมกราคมนี้ที่ตลาดหน้าหนาวเปิดอีกรอบ ทว่าอดีตแข้ง เรอัล มาดริด ก็ให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่าไม่มีความคิดที่จะย้ายไปไหนและต้องการอยู่จนครบสัญญาในปี 2021

"ผมยังมีสัญญาจนถึงซัมเมอร์ ปี 2021 และจะอยู่กับทีมไปจนถึงตอนนั้น ตอนที่ผมเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ผมคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว และเคยบอกว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลของผม"

"ผมไม่อยากอยู่ต่อเพียงแค่ 1-2 ปี ผมอยากฝากอนาคตของตัวเองเอาไว้กับ อาร์เซน่อล และสโมสรก็ต้องการให้ผมทำแบบนั้นเหมือนกัน"

"มันมีโอกาสที่คุณจะเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างในครั้งนี้ แต่มันไม่มีเหตุผลที่จะวิ่งหนีและผมก็จะไม่ทำแบบนั้น ผมจะอยู่ที่นี่จนถึงปี 2021 เป็นอย่างน้อย ผมบอกเลย"

"ผมเคยพูดว่า อาร์แซน เวนเกอร์ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผมย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ แต่ท้ายที่สุดผมก็เซ็นสัญญาเพื่อเล่นให้สโมสร"


เอเมรี่ ต้องพาทีมกลับไปติดท็อปโฟร์อีกครั้ง

"แม้ตอนที่ อาร์แซน ประกาศอำลา ผมก็ยังอยากอยู่กับทีมต่อไปเพราะผมรักการเล่นให้อาร์เซน่อลและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมอยู่กับทีมมา 6 ปีแล้ว"

"ตอนที่ผมย้ายมาจาก เรอัล มาดริด อาร์เซน่อล กำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก แต่ผมก็เชื่อเสมอว่าเราจะทำได้ หากร่วมมือกันเราก็สามารถทำผลงานที่ยอดเยี่ยมได้

"ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่และหลายอย่างก็เปลี่ยนไป แต่ผมก็ยังภูมิใจที่ได้เป็นนักเตะอาร์เซน่อล รวมถึงภูมิใจที่ได้เป็นแฟนบอลของ อาร์เซน่อล และผมก็ยังมีความสุขกับที่นี่"

"เมื่อไหร่ก็ตามที่มีใครเจอผมบนท้องถนน ผมก็จะพูดอยู่เสมอว่า 'ที่นี่คือบ้านของผม ผมจะไม่ย้ายไปไหน" โอซิล กล่าว

น่าติดตามเหลือเกินว่า เมซุต โอซิล จะได้กลับมาเล่นให้อาร์เซน่อลในเกมวันจันทร์นี้ตามที่ อูไน เอเมรี่ เปรยๆ เอาไว้หรือไม่ และหากได้ลงเล่นแล้วจะทำให้เห็นทุกคนเห็นกับตาหรือไม่ว่ามี "ดีพอ" และ "ดีเกินกว่า" ที่จะถูกตัดชื่อออกจากทีมเหมือนที่ผ่านมา 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด