:::     :::

คุยกับ อ.สยาม สิทธิอำไพ : เรือจ้างผู้พา "เอกนิษฐ์-นิติพงษ์" สู่ฝัน

วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
18,635
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากสัปดาห์ก่อนผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ นิติพงษ์ เสลานนท์ แบ็คขวาทีมชาติไทย และรู้สึกสะดุดใจกับเรื่องที่ "นนท์" เอ่ยถึงอาจารย์สอนฟุตบอลตั้งแต่สมัยวัยเด็ก ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลคนเดียวกันยังเคยเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาลูกหนังให้ เอกนิษฐ์ ปัญญา ตัวรุกดาวรุ่งของทีม "ช้างศึก" อีกด้วย ภาพที่ได้เห็น นิติพงษ์ ครอสบอลแอสซิสต์ให้ เอกนิษฐ์ ทำประตูชัยเหนือ ยูเออี ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เกมล่าสุด เชื่อเหลือเกินว่า อาจารย์ท่านนี้น่าจะเป็นอีกคนที่มีความสุขที่สุด ณ โมเม้นท์นั้น และเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ "โค้ชแม็กซ์" อ.สยาม สิทธิอำไพ เฮดโค้ชอคาเดมี่ เชียงราย ยูไนเต็ด ผู้อยู่เบื้องหลังจุดเริ่มต้นในการเป็นสุดยอดนักเตะของประเทศไทยของทั้งสองคนและคนอื่นๆ อีกมากมาย

แมน : สวัสดีครับโค้ชแม็กซ์ พอดีผมเพิ่งสัมภาษณ์ นิติพงษ์ เสลานนท์ ไป แล้วนนท์เล่าว่าเคยเป็นลูกศิษย์ อ.สยาม ซึ่ง เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็เหมือนกัน ผมเลยสนใจอยากคุยกับโค้ชแม็กซ์ เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลในหลายๆ ประเด็นเลยครับ พอจะสะดวกมั้ยครับ

อ.สยาม : ยินดีครับ เพิ่งมาเห็นข้อความ ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีน้องนักบอลผมเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ตอนนี้สะดวกคุยแล้วครับ

แมน : น้องนักบอลในอคาเดมี่ของเชียงราย หรอครับ ผ่าตัดอะไร เป็นอะไรมากมั้ยครับ

อ.สยาม : แขนหักครับ จังหวะล้มแล้วอีกฝ่ายล้มมาทับ ก็ต้องผ่าตัดเข้าฝือกเรียบร้อยแล้วครับ

แมน : ยังดีที่ไม่เป็นที่ขานะครับ นักบอลถ้าขาหักขึ้นมานี่เรื่องใหญ่เลย ประเด็นที่อยากคุยกับโค้ชแม็กซ์ อยากถามก่อนว่าโค้ชแม็กซ์มีจุดเริ่มต้นการเป็นโค้ชได้ยังไงครับ เคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อนหรือเปล่า


อ.สยาม :  ผมจบมัธยมที่ รร.ดรุณาราชบุรี แล้วไปเรียนต่อปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สถาบันพลศึกษากรุงเทพ ตอนนั้นช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ อายุประมาณ 21 ผมใช้เวลาว่างเสาร์อาทิตย์กลับมารวมตัวกับเพื่อนๆ สอนฟุตบอลที่ชมรมฟุตบอลราชบุรี ซอกเกอร์ เทรนนิ่ง ให้เด็กๆ เข้ามาฝึก ส่วนใหญ่จะเป็นที่สนามค่ายภาณุรังษี กรมการทหารช่าง ตอนเตะฟุตบอลผมเล่นแค่ระดับโรงเรียนครับ แล้วไปเจ็บหนักซะก่อน ก็เลยเลิกเล่นแล้วหันมาเป็นโค้ชแทน ตอนผมอยู่ดรุณาฯ นักเตะที่ดังที่สุด ก็คือ สุทธินันท์ พุกหอม ตอนนั้นเขาเป็นรุ่นน้องผมครับ

แมน : ที่ชมรมคือสอนฟรีไม่มีเก็บค่าใช้จ่ายอะไรหรอครับ

อ.สยาม : ใช่ครับ แต่ผู้ปกครองก็จะเก็บเงินรวบรวมกันเอง คนละ 200 บาทต่อเดือน เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายค่าลงสมัครแข่งขัน และซื้อเสื้อผ้าชุดแข่งครับ

แมน : นิติพงษ์เล่าให้ผมฟังว่าตอนเด็กๆ น่าจะสมัยประถม เข้าไปฝึกฟุตบอลกับโค้ชแม็กซ์ตอนอยู่ราชบุรี ซึ่งโค้ชแม็กซ์เป็นอาจารย์ของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ด้วย เรื่องราวเป็นมายังไง ไปเจอเด็กคนนี้ที่ไหน 

อ.สยาม : ใช่ครับ  เห็นนนท์ตั้งแต่สมัยอยู่อนุบาลราชบุรีแล้วครับ พอดีผมเอาทีมไปแข่งแล้วเจอกับทีมของนนท์ ซึ่งผมเห็นว่าเด็กคนนี้มีความโดดเด่น มีความมุ่งมั่น เขาเป็นคนที่พยายามมีส่วนร่วมกับเกมตลอดเวลา เกมนั้นเสมอกัน 2-2 ในเวลา ซึ่งนนท์ เป็นคนยิงประตูขึ้นนำด้วยนะ แล้วต้องดมาวลจุดโทษกัน คือตอนเล่นเขาเล่นเอาท์ฟิลด์เนี่ยแหละครับ แต่พอดวลจุดโทษ เขาไปเปลี่ยนใส่ชุดเอี๊ยมแล้วลงเป็นโกลเองเลย นนท์ เขาเป็นคนยิงประตูสุดท้าย และยังเซฟประตูให้ทีมเขาชนะอีกด้วย  หลังจบเกมผมก็เลยไปชวนเขามาฝึกด้วยกัน จริงๆ ตอนนั้นก็มีหลายๆ โรงเรียนที่พยายามจะดึงเขาไปอยู่ แต่ผมก็บอกเขาว่าผมจะผลักดันให้เขาขึ้นไปคัดเข้าโรงเรียนดังๆ ที่จังหวัดอื่นๆ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีอนาคตที่ไปได้ไกลกว่าอยูู่ในราชบุรีครับ

แมน : ชวนไปอยู่ที่โรงเรียนไหนครับ คือตอนนั้นโค้ชแม็กซ์เองก็ยังเรียนไม่จบปริญญาตรีใช่มั้ยครับ

อ.สยาม : ชวนมาที่ชมรมฟุตบอลราชบุรี นี่แหละครับ ตอนนั้นที่ชมรมก็มีพวก นรากร คณา เข้ามาก่อน มากับเด็กแถวบ้านเขาชุดนึง พอเขาจบป.6 ก็พานนท์ไปคัดที่ จ.ชลบุรี สมัยนั้นฟุตบอลเด็กจังหวัดชลบุรีดังที่สุดแล้ว รร.ดังๆ ที่ชลบุรี ก็จะมี อัสสัมชัญ ศรีราชา, จุฬาภรณ์ ตอนนั้น ชลราษฎร์บำรุง ยังไม่มี แต่พอดีตอนนั้น จุฬาภรณ์ เขายุบโครงการให้ทุนนักฟุตบอล เด็กที่ไปคัดก็จะไปรวมตัวกันที่ โรงเรียนกีฬาชลบุรี ที่มี อ.เก่ง ไพรัช ชุมพล ดูแลอยู่ ตอนนี้ อ.เก่ง ก็ยังอยู่ในทีมอคาเดมี่ของสโมสรชลบุรีครับ 

แมน : นนท์ก็เข้าไปเรียนที่โรงเรียนกีฬาชลบุรี ใช่มั้ยครับ น้องเคยเล่าให้ฟังว่าติดไปพร้อมกับ นรากร คณา, อธิบดี เอติรัตน์ ก็ได้เข้าสู่ระบบฟุตบอลที่จะก้าวขึ้นมาเป็นอาชีพแล้ว ส่วน โค้ชแม็กซ์ ล่ะครับ หลังจากนั้นเส้นทางโค้ชเป็นยังไงต่อ


อ.สยาม : พอเรียนจบ ผมก็กลับมาเป็นครูอัตราจ้างที่ เบญจมราชูทิศ ราชบุรี ครับ สอนฟุตบอลและเป็นครูพละด้วย แล้วหลังจากนั้นผมว่างงานอยู่พอดี บังเอิญไปเจอ อ.ประนุพงษ์ ปิ่นสุวรรณ ในงานแข่งขันรายการหนึ่ง แกก็ชวนผมไปเข้าที่ อัสสัมชัญ กรุงเทพ เป็นครูพละ ทำอยู่ได้ 1 ปี ผมอยากไปอยู่ทางเหนือ ไปอยู่ใกล้ๆ บ้านพ่อ เพราะคุณพ่อเป็นคนลำปาง ก็ได้ไปเป็นครูที่ สวนกุหลาบจิรประวัติ นครสวรรค์ ไปช่วย อ.แดง สุรชาติ องอาจ ที่แกทำมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิก แต่ก่อนโรงเรียนนี้ดังมากเรื่องฟุตบอลครับ เคยได้แชมป์โค้กคัพตั้งแต่สมัย เสนาะ โล่งสว่าง, วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ สมัยก่อนจะมีสโมสรถาวรฟาร์ม แต่ช่วงหลังฟุตบอลนครสวรรค์ดาวน์ลงมาเยอะ ทางผอ.แกมีนโยบายอยากให้ทีมฟุตบอลของโรงเรียนกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ตอนนั้นนักเตะดังๆ ของสวนกุหลาบจิรประวัติ ก็มี จ๊อบ โชติภัทร พุ่มแก้ว, วราวุฒิ โมทิม, นราชัย อินทนาคา ซึ่งทั้งสามคนก็ตามผมไปอยู่ในอคาเดมี่ของเชียงราย ตอนนี้ทั้ง 3 คนก็มีชื่อในทีมชุดใหญ่ในไทยลีกหมดแล้วครับ

แมน : อยู่นานมั้ยครับก่อนจะโยกมาทำงานให้สโมสรเชียงราย แล้วอะไรเกิดขึ้นถึงได้มาทำอคาเดมี่อยู่เชียงราย


อ.สยาม : ประมาณ 1 ปีครับ ตอนนั้นพอดีผมได้รู้จักกับคุณอาร์ท สาวิน จรัสเพชรานันท์ ซึ่งแกเป็นผจก.อคาเดมี่ของเชียงราย ยูไนเต็ด อยู่ แล้วแกโยกไปทำงานกับสมาคมฟุตบอล ซึ่งเป็นช่วงที่ "บิ๊กฮั่น" มิติ ติยะไพรัช เข้าไปดูแลทีมชาติไทยยู-16 พอดี ผมก็เลยได้เข้าไปช่วยเป็นทีมสตาฟฟ์ยู-16 ช่วงสั้นๆ ประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งชุดนั้นมี จ๊อบ โชติภัทร ที่เป็นลูกศิษย์ผมติดทีมอยู่พอดีด้วย หลังจากนั้นทางเชียงรายก็ชวนให้ผมไปเป็นหัวหน้าโค้ชรุ่น 16 ปี ในอคาเดมี่ เป็นช่วงที่ "บุ๊ค" (เอกนิษฐ์ ปัญญา) กำลังเล่นอยู่ สมัยนั้นบุ๊คอายุประมาณ 14 เองครับ พอผ่านไป 3 ปี ผมได้ขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชอคาเดมี่ คุณอาร์ท สาวิน ออก ผู้จัดการเป็นคนฮอลแลนด์เข้ามาทำแป๊บเดียว พอว่างเว้นหัวหน้า ประธานก็เลยให้ผมมาทำ คยไปช่วยคุม เชียงราย ยูไนเต็ด บี ร่วมกับ คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ แป๊บนึง แต่ตอนนี้ กลับมาทำรากฐานตั้งแต่รุ่น 14 ปีลงมา ก็ยากเหมือนกัน เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านวัยเด็กสู่วัยรุ่น ความทุ่มเทมุ่งมั่น ยากกว่าเด็กโต จิตใจ สมาธิไม่ค่อยนิ่งเหมือนเด็กโตครับ 


แมน : เห็นบุ๊คในตอนนั้น รู้สึกว่าเด็กคนนี้เป็นยังไงบ้าง มีแววมั้ยครับ

อ.สยาม : สำหรับเกมรุกผมมองว่าเขามีพรสวรรค์เลยครับ แต่เขาจะถูกผมดุด่าบ่อยมาก ในเรื่องการไม่ช่วยเกมรับ ผมเห็นว่าสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเขาคือเรื่องนี้ เพื่อให้เขาลดจุดด้อยของตัวเอง ผมจับเขาไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องช่วยเกมรับ แม้กระทั่งเซนเตอร์ก็ทำมาแล้ว ซึ่งตอนแรกๆ บุ๊คเขาก็ไม่เข้าใจนะครับ อาจจะคิดว่าผมไม่ชอบเขาด้วยซ้ำ 

แมน : ผมเคยคุยสัมภาษณ์บุ๊คสองสามครั้ง สัมผัสได้ว่าน้องเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนมากเลยนะครับ

อ.สยาม : ใช่ครับ เขาเป็นเด็กดีมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากๆ แต่ลึกๆ ผมว่าเขาก็มีความซูเปอร์สตาร์อยู่ในตัวนะ สมัยอายุ 14 ถ้านัดไหนเขาลงไปเล่นแล้วทำได้ดีก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเล่นไม่ออกเกมนั้นจะกลายเป็นเกมที่เขาคุมสติตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งผมก็พยายามเน้นให้เขาเสริมจุดเด่น และลดจุดด้อยของตัวเองลง เอคโคโน่เคยมาดูงานที่เชียงราย มี มาร์ค อลาเบดร้า และคนอื่นๆ ด้วย คือเขาจะมีการวางโปรเจ็ค อีลิท เพลเยอร์ เอาไว้เพื่อพัฒนาต่อยอด ซึ่ง บุ๊ค เขาก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอีลิทเหมือนกัน เอคโคโน่ ถามผมว่าสอนเด็กคนนี้ยังไง ผมก็ตอบว่า เกมรุกผมไม่ได้สอนเพิ่มเลยเพราะเขาเก่งอยู่แล้ว แต่ผมสอนให้เขาเล่นเกมรับมากขึ้น

แมน : เราเลยได้เห็นว่าตอน บุ๊ค เล่นทีมชาติไทย เขาเป็นตัวรุกที่ลงมาช่วยมิดฟิลด์ตัวรับ 2 คนได้ดีมากเลยนะครับ ในการวิ่งเพรสซิ่งบีบพื้นที่

อ.สยาม : ครับ โค้ชเฮง (วิทยา เลาหกุล) ก็มีผลอย่างมากกับแนวทางการฝึกเด็กๆ ของผมนะครับ แต่ก่อนผมเคยอ่านคอลัมน์แกที่ลงในฟุตบอลสยาม จะมีแบบการฝึกที่แกเขียน ซึ่งก็จะเน้นในเรื่องที่ว่าตัวรุกทุกคนต้องช่วยเล่นเกมรับได้

แมน : ปีต่อมา ตอนที่ บุ๊ค อายุ 15 ปีเศษ เขาก็ได้ขึ้นมาเล่นในไทยลีกให้กับเชียงรายแล้ว คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาพัฒนาตัวเองได้ไวขนาดนี้ 3 ปีเศษที่ผ่านมา เขากลายเป็นนักเตะทีมชาติไทยที่ถูกคนกล่าวชื่นชมกันไปทั่วประเทศแล้ว


อ.สยาม : บุ๊คมีความมุ่งมั่นครับ นี่คือสิ่งที่เขามีเหมือนกับ นนท์ เลย เขาโชคดีที่มีโอกาสได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง เพราะถูกปล่อยไปหาประสบการณ์กับ เชียงราย ซิตี้, เชียงใหม่ เอฟซี ได้ลงเล่นเจอนักเตะเก่งๆ มาตลอด พอได้ลงเล่นบ่อยๆ เขาก็มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตัวเองมากขึ้น

แมน : คิดว่าในอนาคต ทั้งสองคนจะมีโอกาสได้ไปเล่นต่างประเทศมั้ย

อ.สยาม : อยู่ที่ว่าเขามีความฝันมั้ย ผมเคยดูรายการนึงที่ เคสึเกะ ฮอนดะ นักเตะญี่ปุ่นซึ่งตอนนี้เขาเป็นโค้ชทีมชาติกัมพูชา คลิปนั้นเขานั่งรถไปกับนักเตะสตาร์ของกัมพูชาสองคน แล้วถูกถามว่าทำไมคุณถึงได้ไปค้าแข้งที่ยุโรป เคสึเกะ ก็ตอบว่า หลังจากที่ได้ติดทีมชาติญี่ปุ่นไปบอลโลก เขาก็ฝันว่าจะต้องไปเล่นที่ยุโรปให้ได้ แล้วจากนั้นก็พยายามจนไปได้สำเร็จ เขาพูดว่า ถ้าคุณมีความฝัน คุณต้องฝันให้ไกล แล้วพยายามไปให้ถึง

แมน : นอกจาก นิติพงษ์ กับ เอกนิษฐ์ แล้ว โค้ชแม็กซ์คิดว่ามีลูกศิษย์คนไหนที่น่าจะก้าวขึ้นไประดับทีมชาติได้อีกมั้ย


อ.สยาม : เอาจริงๆ นนท์ ผมเองก็ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลถึงขนาดนี้นะ เพราะตำแหน่งของเขาในประเทศไทยมีเยอะมาก ส่วน บุ๊ค ผมคิดว่ามีโอกาส แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ตอนนี้ในอคาเดมี่ผมคิดว่ามีแววหลายคนนะ แต่ถ้าเราระยะเวลาใกล้ๆ จ๊อบ โชติภัทร ก็น่าจะมีเส้นทางคล้ายๆ นนท์ เลยครับ เพราะเขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น และทะเยอทะยานเหมือนกัน

แมน : วันที่เห็น นิติพงษ์ กับ เอกนิษฐ์ ติดทีมชาติพร้อมกัน ยิ่งไปกว่านั้น นิติพงษ์ เป็นคนเปิดให้ เอกนิษฐ์ ทำประตูชัยเหนือ ยูเออี โค้ชแม็กซ์รู้สึกยังไงบ้างครับตอนนั้น

อ.สยาม : ตื้นตันครับ ผมเองก็คุยกับทั้งสองคนอยู่เรื่อยๆ บุ๊คก็เพิ่งชวนกันไปกินหมูกะทะหลังเล่นทีมชาติเสร็จ ผมเคยมีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอล อยากเป็นทีมชาติ แต่ผมทำไม่ได้ มาถึงวันนี้ คนที่เคยเป็นลูกศิษย์ของเราทำแทนเราได้แล้ว ตอนที่นนท์เปิดให้บุ๊คยิง มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกครับ 


แมน : น้ำตามามั้ยครับ

อ.สยาม : ก็มีเหมือนกันครับ แล้วรู้มั้ยครับว่าเบอร์ 13 ที่ นนท์ เลือกใส่ มันมีเรื่องราวอยู่นะ ผมดีใจมากที่รู้ว่านนท์เป็นคนเลือกเบอร์นี้เอง เพราะนี่คือเบอร์ที่ผมเคยใส่ตอนสมัยเป็นนักบอล และลูกศิษย์ของผมทุกคนจะรู้ว่า ตอนผมเป็นโค้ช ผมจะไม่ให้ใครใส่เบอร์ 13 ง่ายๆ มันจะเป็นเบอร์ที่เว้นไว้ให้คนที่มีความพิเศษจริงๆ เท่านั้น ซึ่งสมัยเด็กๆ นนท์ ก็จะเป็นคนได้ใส่เบอร์ 13 ตลอด พอตอนผมมาทำเชียงราย จ๊อบ กับ บุ๊ค อยู่ในทีมเดียวกัน จ๊อบก็จะเป็นคนที่ใส่เบอร์ 13 ตลอดเหมือนกันครับ ถ้าบุ๊คไม่ได้อยู่ทีมเดียวกับจ๊อบ ผมก็คงให้เขาใส่เบอร์ 13 เหมือนกัน

แมน : มันมีสตอรี่ที่ผมว่าไม่มีใครเคยรู้มาก่อนเลยนะครับ สุดยอดมากๆ การที่เรามีความฝัน แล้วเราทำไม่ได้ แต่สามารถส่งคนไปถึงความฝันนั้นได้ มันก็เป็นความปลาบปลื้มที่สุดเหมือนกัน

อ.สยาม : ใช่ครับ บุ๊คเอง ตอนที่ผมเห็นเขาซื้อบ้านให้พ่อแม่ ผมก็ปลื้มนะ ที่เราเคยสอนเขามาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เขารายได้มากกว่าเราไปแล้ว และเขามีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความกตัญญู เขาชวนผมไปทำบุญบ้านด้วยนะ ผมเชื่อว่าคนที่เป็นอาจารย์ทุกคน เมื่อเห็นศิษย์ของตัวเองเติบโตมาเป็นแบบนี้ ก็เป็นความสุขที่สุดแล้วครับ

แมน : ขอบคุณมากนะครับโค้ชแม็กซ์ สำหรับเรื่องราวดีๆ ที่เล่าให้ฟัง เดี๋ยวเรียบเรียงเสร็จผมจะส่งให้อ่านนะครับ อย่าลืมไปอ่านบทสัมภาษณ์ของนนท์กับบุ๊คด้วยนะครับ

อ.สยาม : ถ้าของผมเสร็จแล้วขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกนะครับ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้สัมภาษณ์ครับ เก็บไว้ให้กำลังใจตัวเองต่อไปครับ ขอบคุณครับ


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด