:::     :::

ดวงแตก ใจไม่แตก !!

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
4,202
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่ว่าทีมฟุตบอลทีมนั้นจะเก่งซักแค่ไหน แต่เรื่องดวงแตก หรือ ความโชคร้าย ก็เป็นสาเหตุใหญ่ๆ อีกสาเหตุหนึ่งเช่นกันนะครับ ที่จะทำให้พวกเขาสะดุดหรือพบกับความพ่ายแพ้ขึ้นมาได้ แม้ว่าในก่อนหน้านั้นพวกเขาจะฟอร์มดีมาแค่ไหนก็ตาม




เริ่มสะดุด ?


          นี่คือคำถามในใจของแฟนบอลหลายๆคนเลยครับ เมื่อลิเวอร์พูลดูจะโชว์ฟอร์มได้ไม่สู้ดีเท่าไรนักในหลายๆ นัดที่ผ่านมา และพวกเขาก็เพิ่งจะเสียสถิติในการชนะรวดไปเมื่อเกมที่ผ่านมา ที่ทำได้แค่เสมอกับคู่แข่งอย่างแมนฯ ยู และถ้าว่ากันตามตรงเกมนั้นพวกเขามีโอกาสที่จะพ่ายแพ้อย่างสูงเสียด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็ยังประคองตัวเอาตัวรอดมาได้ และถึงแม้พวกเขาจะโชว์ฟอร์มดีเมื่อเกมแชมป์เปี้ยน ลีกส์เมื่อกลางสัปดาห์กับเกงค์ ก็ตาม แต่ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว นั่นก็ไม่ใช่คู่แข่งที่แข็งแกร่งพอที่จะวัดอะไรได้เท่าไรนัก ในเกมนี้พวกเขาต้องมาเจอกับไก่จนตรอก (ฮา) อย่างสเปอร์สในบ้านตัวเอง  แบบนี้แหละครับถึงจะพอจะวัดได้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของลิเวอร์พูลนั้นอยู่ในขั้นไหน .... และไม่ต้องใช้เวลานานเลยครับ เพียงแค่ไม่ถึง 2 นาทีพวกเขาก็เจอบททดสอบครั้งใหญ่เลย เมื่อพวกเขาโดนสเปอร์สขึ้นนำไปได้อย่างรวดเร็ว และต้องเรียกว่าค่อนข้างโชคร้ายและดวงแตกก็พอได้เหมือนกัน เมื่อ ซอน เฮือง มิน ยิงไกลไปแฉลบลอฟเรน ไปชนเสามาเด้งเข้าทาง แฮรี่ เคน โหม่งจ่อๆ เข้าไปง่ายๆ เลย ณ ตอนนั้น แฟนๆ ลิเวอร์พูลน่าจะอึ้งและมึนงงกันไปหมด และคงแอบคิดในใจกันแล้วล่ะ ว่า “หรือนี่อาจจะเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของลิเวอร์พูลจริงๆ”





พับสนาม

          ในขณะที่แฟนๆ มึนงงและสับสนกันไปหมด แต่นักเตะลิเวอร์พูลนั้นแสดงให้เราเห็นอีกครั้งว่าพวกเขานั้นสลัดภาพ “นักเตะใจบาง” แบบสมัยก่อนไปได้อย่างหมดสิ้นจริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้น ลิเวอร์พูลเจอนำแต่ต้นแบบนี้รับรองว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมากพอดูเลยทีเดียวแหละครับ และมันก็มักจะจบในแบบที่ไม่ค่อยสวยซักเท่าไร แต่ลิเวอร์พูลชุดนี้นั้นแม้ว่าจะโดนทำประตูนำไปก่อน แต่พวกเขานั้นสามารถกลับมาได้และไม่แพ้ใครมา 10 นัดเข้าไปแล้ว และพลิกกลับมาชนะได้ถึง 7 ครั้งด้วยกันอีกต่างหาก เกมนี้ก็เช่นกันครับ เมื่อพวกเขาค่อยๆ บุกและประเคนอาวุธที่มีหลากหลายเข้าทำใส่สเปอร์สอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งจริงๆ ตรงนี้น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะว่าสเปอร์นั้นแทบไม่ได้กดดันอาวุธที่ร้ายกาจของลิเวอร์พูลอย่างฟูลแบ็ค ทั้ง 2 ข้างเท่าไรเลย จะเห็นได้ว่าทั้งเทรนท์ อาโนลด์ หรือ แอนดี้ โรเบิร์ตสันนั้นผลัดกันโยนหรือ ทะลุเข้าไปจู่โจมในพิ้นที่อันตรายได้อยู่ตลอด  ไม่เหมือนเกมกับแมนยูที่ฟูลแบ็กทั้ง 2 ข้างแทบจะโดนผนึกไว้ไม่ให้ทำอะไรได้สะดวกแทบจะทั้งเกมเลย  และเมื่ออาวุธหลักอย่างฟูลแบ็กทั้ง 2 ด้านจู่โจมได้อย่างลื่นไหล รูปเกมทั้งหมดก็เรียกได้ว่าแทบจะเป็นของลิเวอร์พูลทั้งหมดเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังตีเสมอไม่ได้ เพราะเกมนี้ เปาโล กัซซานิก้า โกล์สำรองของสเปอร์สนั้นโชว์ฟอร์มได้สุดยอดเหลือเกิน .... ไม่ว่านักเตะลิเวอร์พูลจะระดมยิงไปเท่าไร นายด่านสำรองของสเปอร์สผู้นี้ก็ปัดป้องไว้ได้ทุกครั้ง จนหมดเวลาครึ่งแรก ลิเวอร์พูลก็ยังตามสเปอร์สอยู่ 0-1 จนได้ .....  จะมาเหนียวอะไรนัดนี้ล่ะพี่เอ๊ยยยย !!!!!!




ความพยายามอยู่เหนือทุกอย่าง   

          เปิดเกมมาในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลก็ยังเล่นเหมือนเดิม คือ เดินหน้าปูพรมถล่มสเปอร์สไม่เลิกรา จนสุดท้ายมาได้ประตูอย่างสุดเซอร์ไพรซ์ เมื่อคนยิงตีเสมอเป็นกัปตัน เฮนโด้ ที่สอดมายิงจากลูกตักมาให้จากกองกลางด้วยกันอย่างฟาบินโญ่นั่นเอง อาการแหกปากดีใจของเฮนโด้นั้นแสดงออกให้เห็นได้ชัดว่าความกดดันทั้งหมดได้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้วกับประตูนี้นี่เอง ลิเวอร์พูลนั้นเรียกได้ว่าโล่งอกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเลย เพราะจากรูปเกมที่ผ่านมานั้น  ทุกคนน่าจะคิดและมั่นใจกันหมดแน่นอน ว่าหลังจากนี้ลิเวอร์พูลจะถล่มและสามารถยิงประตูแซงเอาชนะได้อย่างแน่นอน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เสียด้วย เมื่อลิเวอร์พูลไม่ลดละความพยายามที่จะบุกและไล่หาบอลในทุกจังหวะจริงๆ และก็มาได้จุดโทษจากความขยันและพยายามอย่างที่ว่ามานี่แหละ เมื่อมาเน่นั้นพยายามที่จะเข้าหาบอลในมุมอับของแซร์ช โอริเย่ร์ ที่พยายามจะเตะบอลทิ้ง แต่ดันไปหวดโดนขามาเน่เข้าเต็มๆ ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือก และให้เป็นจุดโทษกับเจ้าบ้าน และก็เป็นซาล่าห์ที่กดเต็มแรงเป็นประตูขึ้นนำให้ทีมได้อย่างยอดเยี่ยม  และหลังจากที่ได้ประตูนำ สเปอร์สก็พยายามจะทวงประตูคืน ก็เป็นนักเตะลิเวอร์พูล”ทั้งทีม” ที่ช่วยกันเล่นเกมรับกันเต็มที่ ไม่มีเกี่ยงงอนกัน นั่นยิ่งทำให้สเปอร์สที่เกมนี้ฟอร์มไม่ค่อยดีอยู่แล้วบุกได้อย่างยากลำบากจริงๆ จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถเก็บชัยชนะที่สมควรจะเป็นของพวกเขาจนได้    





จุดสำคัญในเกม

          - ฟาบินโญ่ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า เขาคือ เบอร์ 1 ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับในชั่วโมงนี้อย่างแท้จริง ในเกมนี้เขาโชว์เกมรับได้อย่างสุดแกร่ง แถมยังเป็นคนเปิดบอลให้เฮนโด้ตีเสมอได้อีกต่างหาก  ณ ตอนนี้เขาคือ กระดูกสันหลังของทีมอีก 1 ชิ้นอย่างแท้จริง


          - ปัญหาคู่เซนเตอร์ .... จริงๆ แล้วไม่ได้อยากจะตำหนิอะไรลอฟเรนในลูกที่เสียประตูเท่าไรนัก เพราะน่าจะเป็นจังหวะที่โชคร้ายเสียมากกว่า แต่ว่า นอกจากที่เสียประตูแรกไปแล้ว ลอฟเรนในเกมนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเอาแฮรี่ เคนไม่อยู่เอาเสียเลย เขานั้นพลาดท่าและเสียเหลี่ยมให้เคนอยู่หลายครั้ง เพียงแต่ว่าไม่เสียประตูเท่านั้นเอง ถึงตอนนี้หลายๆ คนคงคิดถึงมาทิปกันหมดแล้ว .....  ผมเองก็เช่นกัน (ฮา)


          - สเปอร์สไม่เหมาะกับการเล่นรับ .... นี่อาจจะเป็นเหตุผลหลักๆ เลยก็ได้ ที่ทำให้เกมนี้เป็นของลิเวอร์พูลโดยสิ้นเชิง ถึงแม้สเปอร์สนั้นจะเล่นตั้งรับเป็นหลัก แต่พอช ยังคงใช้นักเตะหน้าเดิมๆ อยู่ ซึ่งถ้าใครสังเกตจะเห็นได้ว่าเดเล่ อัลลี กับ เอริกเซ่น นั้นแทบจะหายไปจากเกม และก็เรียกได้ว่าไม่ได้ช่วยเกมรับสเปอร์เท่าไรเลย ถ้าเกมนี้สเปอร์สเก็บผลการแข่งขั้ยที่ดีไปได้ อาจจะบอกว่าพอชนั้นวางแผนมาได้ยอดเยี่ยม แต่เมื่อเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปแบบนี้ ก็คงต้องบอกว่าพอชนั้นวางแผนและใช้ผู้เล่นได้ไม่เหมาะสมกับแผนที่วางไว้มากเท่าที่ควรจริงๆ    



          ถึงแม้ลิเวอร์พูลจะเสียสถิติชนะรวดไปก็ตาม แต่พวกเขานั้นยังสามารถกลับเข้ามาสู่เกมที่ดีของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วและเดินหน้าต่อไปได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ในปีนี้นั้นดูเหมือนว่าพวกเขาพร้อมมากๆ สำหรับการเดินหน้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่พวกเขารอมานาน  และในไม่กี่สัปดาห์พวกเขามีเกมใหญ่ที่ต้องปะทะกับแมนฯ ซิตี้รออยู่ ดีไม่ดี พรีเมียร์ลีกอาจจะเห็นภาพแชมป์ตั้งแต่เกมนั้นก็ได้ ใครจะรู้  YNWA ครับ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด