ทำไมเขาถึงปฏิเสธแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พยายามอย่างหนักเพื่อดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อ 3 ปีก่อน และจากนั้นราวปีครึ่งจึงเลือกรับงานที่เต็มไปด้วยความท้าทายกับลิเวอร์พูล 

พ็อกเก็ตบุ๊กเล่มใหม่ของ คล็อปป์

เวลาราว 4 ทุ่มของคืนวันที่ 11 เมษายน 2014 ที่โรงแรมปาร์ค ฮิลตัน ในมิวนิค, เจอร์เก้น คล็อปป์ นั่งคุยเปิดใจกับ ฮันส์-โยอาคิม วัทซ์เค่อ เพื่อบอกถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต...ขออยู่คุมเสือเหลืองต่อไป

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าในระหว่างที่ทีมกำลังออกเดินทางไปทำศึกนัดสำคัญกับบาเยิร์น มิวนิค ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า, เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีอาการลังเล ไม่สามารถตัดสินใจอนาคตของตัวเองได้ 

เขาได้รับข้อเสนอน่าสนใจจากอังกฤษ กับโอกาสได้คุมหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

''เราพบกันครั้งแรกในห้องครัวของผม'' วัทซ์เค่อ ซีอีโอของเสือเหลืองย้อนความหวัง ''มันเป็นการพูดคุยที่น่าสนใจ ผมคิดว่าการพูดคุยนี้ได้สร้างความแตกต่าง เพราะเขาบอกกับผมบนเครื่องบินว่าเราจำเป็นต้องคุยกันอีกครั้งในช่วงเย็น''

เจอร์เก้น คล็อปป์ ในวัยเด็กที่เฟี้ยวฟ้าวน่าดู

''ผมมีนัดดินเนอร์กับลูกสาวที่อาศัยในมิวนิค ดังนั้นผมจึงสามารถพบกับเขาได้ในเวลา 4 ทุ่ม เขาตอบกลับมาทันทีว่า ''ผมไม่สามารถรับมือกับความกดดันนี้ได้อีก ผมตอบปฏิเสธพวกเขาไปแล้ว''

ก่อนหน้านั้นไม่นาน เอ็ด วู้ดเวิร์ด ประธานบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บินตรงมายังเยอรมนี ช่วงเวลานั้นชะตาของ เดวิด มอยส์ ใกล้ขาดเต็มที และกุนซือดอร์ทมุนด์ก็คือตัวเลือกที่จะผีแดงเชื่อว่าจะนำความคืนวันเก่าๆ อันเร้าใจหวนกลับมาได้

วู้ดเวิร์ด บอกกับคล็อปป์ว่า "โรงละครแห่งความฝันก็เหมือนดีสนีย์แลนด์ในเวอร์ชั่นสำหรับผู้ใหญ่ มันเป็นสถานที่ตำนานอย่างที่ฉายาว่าไว้ เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลก และสร้างฝันให้เกิดขึ้นจริง"

ช่วงชีวิตวัยรุ่น

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ไม่ได้คล้อยตามกับคำเชิญชวนเสียทั้งหมด เขาเคยบอกกับเพื่อนว่าสนามแห่งนี้ไม่น่าเย้ายวนนัก แต่กระนั้นก็ไม่ได้บอกปัดข้อเสนอแบบไม่ไยดีเช่นกัน 

เกือบหกปีในตำแหน่งที่ดอร์ทมุนด์ บางทีอาจถึงเวลาเหมาะสมที่จะเปลี่ยนแปลงฉากชีวิตครั้งใหม่

ด้วยการรุกคืบของยูไนเต็ด วัทซ์เค่อ ยืนยันหนักแน่นว่า คล็อปป์เคารพในสัญญาของตัวเองซึ่งเพิ่งขยายไปจนถึงปี 2018 เมื่อฤดูกาลใบไม้ร่วงปีก่อน 

แต่ด้วย ''เซนส์'' ที่มองว่ากุนซือวัย 46 ปี (ณ ตอนนั้น) ค่อนข้างขัดแย้งในตัวสูง วัทซ์เค่อ จัดการและเลือกใช้แนวทางที่สุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง

กาลครั้งหนึ่งที่ ดอร์ทมุนด์ ก่อนทุกคนในภาพนี้จะแยกย้ายตามเส้นทางกันไป

ด้วยความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานจากเพื่อนร่วมงานกลายเป็นมิตรภาพ และไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย วัทซ์เค่อ บอกกับ คล็อปป์ ว่าจะไม่ขวางทางหากเจ้าตัวเลือกไปคุมแมนฯ ยูไนเต็ด

ทว่าหลังการไตร่ตรองอย่างรอบครอบ รวมถึงการพูดคุยบนโต๊ะในห้องครัวของวัทซ์เค่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ข้อสรุปให้กับตัวเองว่างานที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังไม่เสร็จสิ้น

ส่วนทางฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด ยังเชื่อว่าจะสามารถดึงตัวเฮดโค้ชเสือเหลืองไปร่วมงานได้ จากนั้นไม่นาน เดวิด มอยส์ โดนปลดออกจากตำแหน่งในวันที่ 22 เมษายน 2014 ชื่อของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็กลายเป็นเต็งหนึ่งกุนซือใหม่ผีแดงจากร้านพูลทุกสำนัก

ข่าวลือของยูไนเต็ดกับคล็อปป์ในอังกฤษโหมกระพือต่อเนื่องจนวันต่อมา เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องชี้แจงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวผ่านทางเดอะ การ์เดี้ยน หนึ่งในสื่อดังเมืองผู้ดีว่า 

เอ็ด วู้ดเวิร์ด พยายามอย่างหนักในการดึง เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปคุมทีมผีแดง

''แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ และผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างดีกับแฟนบอลอันน่าทึ่ง แต่ความมุ่งมั่นของผมกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และผู้คนที่นี่ไม่สามารถแยกจากกันได้''

เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังได้รับความสนใจจากพรีเมียร์ลีกต่อเนื่อง หกเดือนหลังปฏิเสธข้อเสนอของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งร่วมเมืองของยูไนเต็ด เดินหน้าทาบทามเช่นกัน รวมถึงสเปอร์ส ก็เป็นอีกทีมที่อยากใช้บริการกุนซือสายพันธุ์เฮฟวี่เมทัล

เวลาผ่านไปเกือบปีกับโอกาสที่เกือบลงเอยที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ความสันพันธ์ของคล็อปป์กับ ดอร์ทมุนด์ มีวันสิ้นสุดเช่นกันเมื่อเขาประกาศจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาล 2014/15 พร้อมให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าไม่ได้วางแผนที่จะหยุดพักงานจากการคุมทีมฟุตบอล

ตัดฉากมาที่บ้านพักตากอากาศในชวัคเฮาเซ่น, เบรเมน ช่วงก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ไม่กี่สัปดาห์ มีสายเข้าโทรศัพท์ของ มาร์ค โคซิคเค่ เอเยนต์ของคล็อปป์แทบไม่หยุดในช่วงที่ข่าวลือกับลิเวอร์พูลเริ่มโหมขึ้นมาเพราะเวลาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เหลือน้อยเต็มที

โคซิคเค่ เผยว่ารู้จักกับ เคนนี่ ดัลกลิช เป็นอย่างดี และใจเย็นรอประเมินสถานการณ์ แต่แล้วก็มีใครสักคนที่อ้างว่าเป็น เอียน แอร์ ประธานบริหารของลิเวอร์พูลต่อสายมาเองเพื่อสอบถามว่าจะสามารถพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการดึงตัว เจอร์เก้น คล็อปป์ มาทำงานที่ลิเวอร์พูลได้หรือไม่

เจอร์เก้น คล็อปป์ เกือบรับไม้ต่อจาก เดวิด มอยส์ ที่ทำผลงานเละเทะ

เอเยนต์ของคล็อปป์ตอบว่าได้ แต่ขอเจรจาผ่านโปรแกรม ''สไกป์'' เท่านั้น (การสื่อสารผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เคยฮิตในอดีต สามารถคุยกันไป และเห็นภาพคู่สนทนาได้ด้วย) และก่อนที่จะเริ่มต้นการพูดคุย โคซิคเซ่ ถึงขั้นเสิร์ชหารูปภาพผู้บริหารหงส์แดงในอินเทอร์เน็ตเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าคือตัวจริง ไม่ใช่การแกล้งอำกันเล่น 

คริสเตียน ไฮเดิ่ล อดีตผู้บริหารของไมนซ์ เล่าว่า คล็อปป์มีเพียงข้อจำกัดเดียวคือ ''ภาษา'' 

''เขา (คล็อปป์) ถามผมว่า 'ผมควรรับงานมั้ย?' ผมตอบกลับว่า 'คำพูดคืออาวุธของคุณ คุณต้องตัดสินใจหากว่าคุณเข้าใจได้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในอังกฤษ คุณจำเป็นต้องแน่ใจ'''

''จากนั้นเขาพูดว่า 'ผมจะรับงาน ผมจะเรียนรู้ในตอนนี้ และไปที่นั่น' เขาเป็นคนที่ฉลาดสุดๆ และเขาก็ไปที่อังกฤษในเวลาอันรวดเร็ว''

''ในช่วงนั้น (ลิเวอร์พูลติดต่อมา) ไม่มีสโมสรอื่นร่วมด้วย เขาพูดเสมอว่าสนใจงานนี้ เขาตื่นเต้นและมีอารมณ์ร่วม และผมไม่คิดว่าเขาจะไปแมนฯ ยูไนเต็ด หรือสโมสรอื่นใด แม้ทีมเหล่านั้นจะต้องการเขาจริงๆ ก็ตาม''