:::     :::

คนที่ใช่ของ อาร์เซน่อล

วันศุกร์ที่ 01 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,564
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
23 พฤษภาคม 2018 ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของ อาร์เซน่อล อย่างสมบูรณ์หลังการสิ้นสุดการคุมทีมอันแสนยาวนานของ อาร์แซน เวนเกอร์

22 ปีในรัง "ปืนใหญ่" กุนซือชาวฝรั่งเศสพาทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ วางรากฐานให้สโมสรก้าวมาเป็นทีมหัวแถวของอังกฤษอย่างสง่าผ่าเผย

การผลัดเปลี่ยนมาอยู่ในมือของ อูไน เอเมรี่ หนึ่งในเทรนเนอร์มากฝีมืออาจจะไม่ค่อยคุ้นสำหรับสาวกของทีมปืนใหญ่นัก แต่ทุกอย่างก็มีเวลาของมัน

ฤดูกาลแรกผ่านไป นายใหญ่ชาวสเปนค่อยๆปรับทีมให้มาเป็น "ทีม" ของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าหลายสิ่งหลายอย่างดูจะยังไม่ค่อยเป็นใจนัก

        

มาจนถึงปีนี้ดูเหมือนว่าหลายๆอย่างก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ รวมถึงเรื่องการดร็อป เมซุต โอซิล ที่ไม่ได้ให้เหตุผลที่กระจ่างชัด 

กระทั่งมีข่าวเรื่องการปลดจากตำแหน่งโดยมีชื่อของ โชเซ่ มูรินโญ่ โผล่เข้ามา

อะไรคือเหตุผลที่สนับสนุนว่านายใหญ่ชาวโปรตุเกสคือคนที่เหมาะสำหรับการเข้ามารับงานในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมลองไปดูกัน

โชเซ่ มูรินโญ่ คือจ้าวแห่งเกมรับ


10 แรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล โดนเจาะตาข่ายไปแล้ว 14 ประตู เฉลี่ยมากกว่า 1 ลูกต่อเกม

หากนับรวมทุกรายการ "ปืนใหญ่" เก็บคลีนชีตได้เพียงแค่ 5 เกมเท่านั้น โดยเฉพาะ 3 เกมหลังที่โดนเจาะตาข่ายไปถึง 9 ลูก 

ไม่ว่าเกมรุกของพวกเขาจะอันตรายสักแค่ไหน แต่เมื่อเกมรับยังเสียประตูง่ายมันก็ไม่มีประโยชน์เลย ยิ่งทำให้พวกเกมรุกเหนื่อยใจอีกต่างหาก โดยสถิติฟ้องว่า แบร์นด์ เลโน่ เซฟไปแล้ว 37 ครั้งในฤดูกาลนี้ มากที่สุดในลีก

การเล่นเกมรับถือเป็นหนึ่งในเรื่องขึ้นชื่อสำหรับ โชเซ่ มูรินโญ่ มาตั้งแต่สมัยคุม ปอร์โต้ ก่อนจะมาโด่งดังสุดขีดกับ เชลซี ที่มีเกมรับอันแข็งแกร่งจนคู่ต่อสู้ที่ลงเจอกันทีไรก็เหนื่อยตลอด

แน่นอนว่าหาก มูรินโญ่ ได้เข้ามาคุมทีม อาร์เซน่อล สิ่งแรกที่เขาจะจัดการต้องเป็นเรื่องของเกมรับ

แต่ทีมก็อาจจะต้องใช้เงินสำหรับการหาแนวรับคนใหม่มาเสริมมากหน่อยเท่านั้นเอง

ยังมีเรื่องค้างคาที่พรีเมียร์ลีก

        

หากจะบอกว่าการคุมทีมหนล่าสุดของ โชเซ่ มูรินโญ่ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบลงไม่สวยเท่าไรก็อาจจะพูดได้อย่างนั้น

ส่วนหนึ่งอาจจะถูกมองว่าทีมทุ่มเงินมหาศาลไปกับการซื้อนักเตะแต่ทีมยังไม่ได้ใกล้กับการก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดเดิมที่เคยอยู่

ซึ่งมันอาจจะย้อนกลับไปกับการคุมทีม เชลซี ครั้งล่าสุดที่เจ้าตัวโดนปลดออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน

ความผิดหวังจาก "ปีศาจแดง" กับ "สิงห์บลูส์" ทำให้มันดูจะเป็นรอยด่างเล็กๆในประวัติของนายใหญ่ชาวโปรตุเกสที่อาจจะต้องการกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล คงเป็นไปได้ยาก รวมถึงทาง เชลซี ที่เคยคุมทีมมาสองรอบแล้ว คงเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ขณะที่ฝั่ง สเปอร์ส คงยากที่จะปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องผลงานก็ตาม

อาร์เซน่อล นี่แหละน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีและเป็นที่สนใจของสื่อ น่าจะเพิ่มแรงจูงใจให้ มูรินโญ่ กลับมาทวงบัลลังค์ของตัวเองในฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง

ต้องมีการจัดการเรื่องวินัยนักเตะ

        

ภาษากายของนักเตะยามอยู่ในสนาม เหมือนจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเกิดปัญหาในห้องแต่งตัวซึ่งทีมกำลังขาดแรงจูงใจอย่างมาก

นั่นแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่มีนักเตะอย่าง ปาทริค วิเอร่า, มาร์ติน คีโอว์น หรือ เธียร์รี่ อองรี ที่ใส่ทุกอย่างที่มีตอนอยู่ในสนามเพื่อชัยชนะของทีม

โดยเฉพาะในรายของ กรานิต ชาคา ที่ได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีม แต่กลับทำตัวมีปัญหากับแฟนบอล โดยเฉพาะในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ที่ทำงามหน้าตอนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามพร้อมเสียงโห่ของแฟนบอลด้วยการเอามือป้องที่หูแถมถอดเสื้อแล้วเดินเข้าห้องแต่งตัวทันที

นั่นไม่ได้หมายความว่าแฟนๆไม่ได้รับนักเตะหรือสโมสร เพราะเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสเปนหรืออิตาลี แม้แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังโดนมาแล้วสมัยอยู่กับ เรอัล มาดริด 

แต่สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นคือการกระทำของนักเตะ ซึ่งความเจ้าระเบียบของ โชเซ่ มูรินโญ่ คงเข้ามาจัดการจุดนี้ของทีมได้

นั่นคือสิ่งที่นักเตะ อาร์เซน่อล ต้องการ ความเฮี้ยบของเจ้านายที่จะทำให้ผู้เล่นอยู่กับร่องกับรอยมากขึ้น

พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีแชมป์ทุกที่


ปฏิเสธไม่ได้ว่าในทุกสโมสรที่ โชเซ่ มูรินโญ่ รับตำแหน่งกุนซือเข้าล้วนนำความสำเร็จที่จับต้องได้มาสู่สโมสร

แม้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกมองว่าเป็น "ขาลง" ก็ยังคว้าโทรฟี่คาราบาว คัพ รวมถึง ยูโรปา ลีกมาครองได้

25 แชมป์ตลอดเส้นทางอาชีพ มูรินโญ่ คือหนึ่งในเทรนเนอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลกลูกหนัง

ย้อนกลับมาดูที่ อาร์เซน่อล ในช่วง 15 ปีหลัง ทีมมีแค่แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย แม้อาจจะทำให้แฟนๆได้เฮฮาบ้าง แต่เทียบกับยุค 90' ต่อช่วงต้นยุค 2000 น่าจะยังไม่เพียงพอ

มูรินโญ่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากสถิติว่าเขามีคุณสมบัติในการเข้ามาเปลี่ยนแปลง อาร์เซน่อล ให้กลับมาเป็นทีมหัวตารางอีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็ติดท็อปโฟร์ได้ต่อเนื่องในแบบที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ทำได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด