:::     :::

ออกไปเป็นไงบ้าง

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
4,558
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตอนนี้ เวทีกัลโช่ เซเรีย อา ผ่านไป 12 เกมแล้ว ซึ่งเราก็เริ่มจะได้เห็นอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น

    เทรนเนอร์บางคนก็ต้องตกงานก่อนกำหนด หรือคนอื่นๆ ก็กำลังเผชิญหน้ากับมรสุมนั้นอยู่

    ตอนนี้ลีกสูงสุดของอิตาลีกำลังถูกโรยหน้ากับเหล่าอดีตนักเตะจากพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ส่งออกแข้งอย่าง โรเมลู ลูกากู, อเล็กซิส ซานเชซ, คริส สมอลลิ่ง และ มัตเตโอ ดาร์เมียน ออกมา

    นอกจากนี้ ก็ยังมี อารอน แรมซี่ย์ ที่ชิ่ง อาร์เซน่อล มายัง ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวอีกด้วย

    พวกเขาทั้งหมดมายังเซเรีย อา ด้วยแต้มต่อที่แตกต่างกันเพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าพวกเขามีดีมากแค่ไหนในตัวเอง

    วันนี้ เราจะมาดูกันว่าพวกเขาเหล่านั้นเมื่อออกจากพรีเมียร์ลีกไปยังอิตาลีแล้ว เป็นยังไงกันบ้าง

    อารอน แรมซี่ย์ - 3/10

    แรมซี่ย์ กลับมาในช่วงที่ไม่ได้เล่นไปสักพัก และเราก็ทำได้ดีเลยในเกมดาร์บี้กับ โตริโน่ นักเตะของ ยูเวนตุส มีศักยภาพอันยอดเยี่ยม และ แรมซี่ย์ ก็เป็นมิดฟิลด์ชั้นยอด และจะมีบทบาทที่สำคัญกับทีมอย่างแน่นอน"

    นั่นคือคำพูดของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือ ยูเวนตุส

    แรมซี่ย์ ลงมาในฐานะตัวสำรองของเกม 'ดาร์บี้ เดลลา โมเล่' ที่โตริโน่ และโชว์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และความกล้าบอลการเล่นลูกบอล

    เลือดนักสู้ และการวิ่งของเขานั้นสามารถเป็นอาวุธหนักในระบบ 4-3-1-2 ที่ ซาร์รี่ ชอบใช้กับม้าลายได้ การเล่นอยู่หลังสองกองหน้า แรมซี่ย์ สามารถเล่นเกมรุกได้อิสระมากขึ้น

    ความกังวลเดียวในตัวเขาก็คือเรื่องความฟิต หากดาวเตะทีมชาติเวลส์ยังรักษาสิ่งนี้ไว้ได้ เขาก็จะกลายเป็นกำลังสำคัญของ ยูเว่ ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอาต์อย่างแน่นอน แต่หากเขายังสามวันดีสี่วันไข้โอกาสอาจตกไปอยู่ในมือ เอ็มเร่ ชาน

    วอยเช็ก เชสนี่ ผู้รักษาประตูที่เคยค้าแข้งร่วมกับ แรมซี่ย์ มาก่อนที่ อาร์เซน่อล ได้ยกย่องดาวเตะวัย 28 ปีมาตลอด "ผมพูดกับ อารอน (เรื่องการย้ายมา ยูเว่) ผมบอกเขาว่าสำหรับผมมันเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนมาก เมื่อ ยูเว่ ต้องการคุณ คุณก็แค่มาที่นี่ มันจะช่วยให้สโมสรสามารถคว้าแชมป์ลีก และแชมเปี้ยนส์ลีกได้"


    โรเมลู ลูกากู - 9/10

    หน้าเว็บไซต์ของ กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต พาดหัวใหญ่ว่า 'เจ้ายักษ์ลูกากู' หลังจากเขาทำคนเดียว 2 ประตูให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะ โบโลญญ่า 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน

    เขาดูมีความสุขอย่างมากกับการเริ่มต้นซีซั่น การยิงไป 9 ประตู จาก 12 เกมในลีกถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก โดยที่ไม่มีใบเหลือง หรือใบแดงเป็นรอยด่างพร้อยเลย

    เขาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของตัวเองในสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าจนเป็นคนสำคัญของ อันโตนิโอ คอนเต้ ในซีซั่นนี้

    ดาวยิงเบลเยียมแสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณนักล่าของเขา โดย คอนเต้ ก็ได้ชื่นชมว่า "นอกจากประตูของ ลูกากู เขายังเป็นคนที่ทำงานหนักให้ทีม ซึ่งนั่นคือเรื่องสำคัญ"

    หากดาวเตะวัย 26 ปียังคงรักษาระดับการเล่นแบบนี้เอาไว้ได้ ไม่แน่เขาอาจทำลายสถิติของ กอนซาโล่ อีกวาอิน ที่ยิง 36 ลูกในเซเรีย อา ซีซั่นเดียวลงได้ โดยนั่นคือสถิติสูงสุดของอดีตกองหน้า นาโปลี ซึ่งแชร์ร่วมกับ จิโน่ รอสเซ็ตติ ซึ่งเคยทำได้กับ โตริโน่ ในปี 1928-29


    อเล็กซิส ซานเชซ - 0/10

    คอนเต้ ดูจะชัด้จนว่าเขามอง ซานเชซ เป็นนักเตะชั้นยอด แต่กับที่ อินเตอร์ เขาควรจะต้องลืมฝันร้ายกับหลายปีหลังในลีกอังกฤษเสียก่อน

    อย่างไรก็ตาม โอกาสของเขาก็ดันถูกจำกัดด้วยอาการบาดเจ็บข้อเท้าจากทีมชาติชิลี ซึ่งรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดเลยทีเดียว

    กองหน้าตัวริมเส้นที่ไปตกอับกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะปรับตัวเข้ากับอิตาลีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะเขาเคยเล่นที่นี่มาก่อนกับ อูดิเนเซ่

    อาการบาดเจ็บของเขานั้นกว่าจะกลับมาได้ก็ช่วงปีใหม่เลย นั่นจึงทำให้ไม่มีความชัดเจนว่าเขาจะได้สัญญาถาวรจากงูใหญ่หรือไม่

    คอนเต้ กล่าวว่า "เรามีทางเลือกในเกมรุกน้อย เซบาสเตียโน่ เอสโปซิโต้ ก็ยังเด็ก ขณะที่ โรเมลู ลูกากู และ เลาตาโน่ มาร์ติเนซ เท่านั้นที่ถูกการันตี"

    ถ้า ซานเชซ หายเจ็บกลับมาได้เร็ว เขาก็อาจเหมือนเป็นกองหน้าคนใหม่ที่ อินเตอร์ ได้มาเสริมในเดือนมกราคม


    คริส สมอลลิ่ง - 7/10

    สมอลลิ่ง กลายเป็นผู้นำในแนวรับในกรุงโรมอย่างสมบูรณ์แบบ ในเกมบิ๊กแมตช์กับ นาโปลี เขาช่วยเซฟทีมด้วยลูกสกัดที่ผาดโผนเพื่อหยุดยั้งลูกโหม่งของ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ตลอดนัดนั้นเขาจัดการเหล่าหน้าบ้านอย่าง อาร์คาดิอุส มิลิค, ดรีส เมอร์เท่นส์, โฆเซ่ กาเยฆอน และ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ได้อย่างอยู่หมัด

    สำหรับ เปาโล ฟอนเซก้า เทรนเนอร์ของหมาป่าเหลืองแดง ปราการหลังทีมชาติอังกฤษนั้นคือป้อมปราการคนใหม่ และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ถูกกองหน้าในเซเรีย อา คนไหนเลยที่เลี้ยงบอลผ่านได้

    แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถดึงเขากลับอังกฤษได้ในตอนจบซีซั่น กับการที่ คอสตาส มาโนลาส ย้ายไปอยู่กับ นาโปลี ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่กลายเป็นตอนนี้แฟนๆ ลืมเขาไปสนิทใจแล้ว นั่นคือสิ่งที่ สมอลลิ่ง แสดงให้เห็นจากการเล่นด้วยความรัก และทุ่มเท

    แม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในทีมเมืองหลวงของอิตาลี แต่ก็ชัดเจนว่าเขายังคงคิดถึงเรื่องกรเล่นให้ทีมผีแดงอยู่เหมือนเดิม "ผมชอบกรุงโรม แต่ผมไม่มีทางลืมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของผมแน่นอน" ด้าน ฟอนเซก้า และ จานลูก้า เปตราชี่ ผู้อำนวยการกีฬาของพลพรรคจัลโล่รอสซี่พร้อมจะทำทุกทางเพื่อให้ สมอลลิ่ง อยู่กับทีมต่อไป แต่ดูเหมือนว่านักเตะจะต้องกลับไปยังแมนเชสเตอร์มากกว่า

    สมอลลิ่ง กลายเป็นผู้นำของแผงแนวรับภายใต้การคุมทัพของ ฟอนเซก้า และสัญญาณของทุกการกระทำก็เป็นบวกสำหรับที่นั่น

    จากสถิติมีการเปิดเผยว่าอดีตเซนเตอร์แบ็ก ฟูแล่ม นั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเซเรีย อา ร่วมกับ มิลาน สคริเนียร์ และ กาลิดู กูลิบาลี่ ซึ่งต่างก็ประสบความสำเร็จที่นี่มาหมดแล้ว


    มัตเตโอ ดาร์เมียน - 4/10

    นี่คือ ปาร์ม่า ไม่ใช่ แมนฯ ยูไนเต็ด และตัวของเขาก็ยังไม่ใช่ผู้นำของสโมสรได้เหมือนเดิม

    เกมกับ ฟิออเรนติน่า เขาเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาในระบบ 4-3-3 กระนั้นพวกเขาก็เก็บได้เพียงแต้มเดียวจากผลเสมอ 1-1 ในเกมนั้น ดาร์เมียน แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างหนัก แต่ก็มีคุณภาพน้อยมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เฉียบขาดเหมือนกับตอนสมัยรุ่งขึ้นมา แต่เขาก็ยังมีเลือดนักสู้ และวิ่งมากเหมือนเดิม

    ดาวเตะวัย 29 ปีนั้นเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับทีม แต่ก็ล้มเหลวอย่างมากในการช่วยทีมเล่นเกมรุก นี่คือสิ่งที่เขาต้องปรับปรุงร่วมกับทีมของ โรแบร์โต้ ดาแวร์ซ่า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})