:::     :::

มุมมองลูกหนังกับชายที่ชื่อ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,396
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฤดูกาล 2018-19 ที่ผ่านมา

ถือเป็นชวบปีที่ประสบความสำเร็จ และน่าชื่นชมเป็นอย่างมากของชายที่ชื่อ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า" ในฐานะของผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ด้วยการพาพลพรรค "เรือใบสีฟ้า" ผงาดคว้าแชมป์ทุกโทรฟี่ในประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และคอมมูนิตี้ ชิลด์

ช่วงนี้ เราไปดูปรัชญา และแนวทางการคุมทีมของเขาแบบเล็กๆน้อยๆ ไม่แน่ว่า เราอาจจะพบกับแง่มุมที่น่าสนใจ เอาไปใช้ในชีวิตก็เป็นได้ 

ช่วยพูดถึงการพักผ่อน หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

"ฤดูร้อนที่ผ่านมา คุณต้องการพักผ่อน แน่นอนว่า คุณรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำในฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ผลงานออกมาได้ดีเลยทีเดียว คุณสมควรได้รับการที่จะรู้สึกสนุกไปกับมัน แต่ในเวลาเดียวกัน คุณต้องคิดถึงอนาคตอยู่เสมอ ในวงการฟุตบอล รวมไปถึงกีฬาทุกประเภท หลังจากคว้าชัยชนะมาครองแล้ว คุณย่อมคิดถึงเกี่ยวกับสิ่งต่อไปที่จะเข้ามา"


แม้แต่นักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ ย่อมได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนรุ่นก่อน ช่วยบอกเราหน่อยว่า โยฮันน์ ครัฟฟ์ มีอิทธิพลต่อคุณอย่างไรบ้าง ?

"เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเส้นทางลูกหนังของผม น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตลงในช่วงปี 2016 เขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เราทำที่ประเทศอังกฤษ เพราะแนวทางการเล่นที่ผมใส่ลงไปในตัวลูกทีม ก็คือสิ่งที่ผมเรียนรู้มาจากเขา ซึ่งเขาน่าจะพอใจเป็นอย่างมาก ในแนวทางที่เราเล่นที่ประเทศแห่งนี้ ที่ที่วัฒนธรรมฟุตบอลอยู่ในทุกหนแห่ง ผมคิดถึงเขามากๆ ผมพูดถึงเขากับทางทีมงานของผมบ่อยครั้งมากๆ เพราะเขาเป็นอิทธิพลสำคัญกับชีวิตของพวกเรา ทั้งใน และนอกสนามแข่งขัน"


คุณเคยบอกว่า การที่คุณก้าวมาเป็นผู้จัดการทีม เพราะเป็นเรื่องของกลยุทธ์ และคุณชอบมองหาแนวทางการแก้ปัญหา อะไรคือส่วนที่คุณสนุกกับมันมากที่สุด ใช่การหาวิธีในการชนะการแข่งขันหรือไม่ ?

"ผมคิดว่าฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้จัดการทีมเหลือเชื่อมาก เรามีความพร้อมมากขึ้น เทคโนโลยีก็ช่วยเหลือเราได้เป็นอย่างมาก ทุกทีมต่างรู้ว่าคุณกำลังทำอะไร หรืออะไรที่คุณต้องการในแต่ละเกม มันช่วยเรา และช่วยเหลือคู่แข่งในเวลาเดียวกัน เราต่างรู้ข้อมูลของกันและกัน การสร้างความประหลาดใจจึงมีไม่มากนัก ผมมองว่า อารมณ์ และคุณภาพของผู้เล่น คือสิ่งที่คอยสร้างความแตกต่าง"

คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้นำโดยธรรมชาติหรือไม่ ?

"ย้อนกลับไปตอนเป็นเด็ก ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำ ดังนั้น ผมจึงตอบไม่ได้ นี่คือตัวตนของผม ผมรักฟุตบอล และทำงานของตัวเอง ผมพยายามที่จะซื่อสัตย์ พร้อมกับพยายามร่วมกลุ่มนักเตะ และสตาฟโค้ชให้อยู่ร่วมกันแบบเป็นกลุ่มก้อน หากมีคนมาถามว่าจะทำอย่างไร ? ผมมองว่า คุณจำเป็นต้องค้นหาตัวเอง จากนั้น นำมันใส่ลงไปในฟุตบอล และชีวิต"

"นั่นคือแนวทางที่ผมทำ เพราะผมมีทีมที่ดี และมีโชคดีเข้าข้างในบางเวลา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า มันได้ผลสำหรับทุกคน หากผมพยายามลอกเลียนแบบใครสักคน ผมจะกลายเป็นคนที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง จากนั้น นักเตะจะเริ่มสังเกตเห็นได้ และพวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามผม"


คิดว่าสำคัญมากแค่ไหน สำหรับการมีนักเตะที่มีระบบความคิด และทัศนคติที่ถูกต้องอยู่ในทีม ไม่เพียงแค่เป็นนักเตะที่มีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น ?

"สำหรับผม ทัศนคติคือทุกอย่าง ความคิด, วิธีการ การเปิดรับ และการมองโลกในแง่บวกของคุณ สามารถช่วยให้คุณออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายได้ คุณมีช่วงเวลาที่ดี และไม่ดี คุณต้องพยายามรักษาเสถียรภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดี เพราะพวกเราล้วนต่างเป็นมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมทัศนคติถึงสำคัญมากกว่าความสามารถ"

พูดถึงนักเตะที่อายุน้อยบ้าง รวมถึงผู้จัดการทีม ในการเรียนรู้ช่วงเวลาที่ไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก ?

"เมื่อเราพูดในสื่อว่า ผู้ชนะเท่านั้น คือคนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนคนอีกหนึ่งจำพวก คือคนที่ล้มเหลว เรากำลังกดดันนักเตะเยาวชนด้วยคำพูดแบบนั้น ทั้งเรื่องที่โรงเรียน และเรื่องในวงการกีฬา ถ้าคุณไม่ชนะ นั่นคือความล้มเหลว !! ผมอยากจะบอกว่า นี่ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง"

"ผู้คนต้องเข้าใจในจุดนี้ คุณอาจแพ้มากกว่าชนะ ผมยกตัวอย่างเช่นไมเคิ่ล จอร์แดน อาจเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมสุดในโลก ผ่านการคว้าแชมป์เอ็นบีเอ 6 ครั้ง ขณะที่เฟเดอเรอร์ กับนาดาล สามารถที่จะคว้าแชมป์ระดับแกรนด์ สแลม ได้อย่างมากมาย แต่ความจริงคือพวกเขาแพ้ในแกรนด์ สแลม มากกว่าชนะ"

"สำหรับเรา มันก็เป็นเรื่องเดียวกัน นักเตะอายุน้อยต้องมองถึงความสนุกสนานกับสิ่งที่ทำอยู่ เมื่อคุณแพ้ นั่นคือเรื่องธรรมดา เมื่อคุณไม่ได้แชมป์ นั่นเคือเรื่องธรรมดาเช่นเดียวกัน ข้อยกเว้นคือ เมื่อคุณชนะได้แล้ว คุณต้องทำมันให้ได้บ่อยๆ แค่นั้นเอง"


คุณพูดเหมือนกับว่า การคว้าชัยชนะถือเป็นเรื่องที่ง่าย ?

"(หัวเราะ) ใช่ มันอาจฟังดูง่าย แต่เราไม่ได้นั่งศึกษาในแนวทางนี้ เราต้องลงมือศึกษาในเรื่องของทางอะคาเดมี่ และตัวผู้เล่น เมื่อคุณไม่ชนะ นั่นคือเรื่องธรรมดา บางที คุณอยากจะชนะมากๆ แต่มันไม่เกิดขึ้น ดังนั้น คุณลองเปลี่ยนกระบวนการที่จะประสบความสำเร็จ นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ในฐานะของนักกีฬา คุณต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ เรียนรู้จากมัน เพื่อนำมาใช้ในครั้งต่อไป"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด