:::     :::

ด้วยความนับถือ:โค้ชเคอร์ถึงหงส์แดง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สตีฟ เคอร์ หัวหน้าโค้ช โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส เปิดใจแบบไม่กั๊กว่าเป็นแฟนบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยมีสโมสรโปรดคือ ลิเวอร์พูล แถมไม่ได้เชียร์ตามกระแสด้วย!

โค้ชเคอร์ สมัครใจเป็นเด็กหงส์มาได้ 1-2 ฤดูกาลแล้ว โดยเฉพาะเมื่อซีซั่นก่อนรายการ ชปล.รอบรองฯ ซึ่งพลิกสถานการณ์โค่น บาร์เซโลน่า 4-0 ในเลกสอง จนสามารถเข้าชิงฯผลรวม 4-3 ต่อยอดถึงแชมป์ 

"การสร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์อย่างต่อเนื่อง, การเคลื่อนบอล หรือ วิ่งตัดกลางเมื่อคุณไม่ได้ครองบอล ทั้งหมดที่กล่าวไปมันคือหลักการเหมือนกันของสองชนิดกีฬา (ซอคเก้อร์ - บาสเกตบอล) ดังนั้นฐานะคนทำทีมยัดห่วงมันจึงสนุกเมื่อดู ลิเวอร์พูล ลงแข่ง" โค้ชเคอร์ กล่าวกับ 'เอ็นบีซี สปอร์ตส์' 

ส่วนเหตุผลในการปาวารณาตนเป็น 'เดอะ ค็อป' นอกจากสไตล์การเล่นแล้วก็ยังมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมพังตาข่ายเป็นขวัญใจ 


ซาลาห์ แข้งอิทธิพลของอียิปต์

“ตอนแรกก็สุ่มไปเรื่อย กระทั่งปิ๊งเพราะนักเตะคนหนึ่ง เขาคือ ซาลาห์ นักเตะชาวไอยคุปต์ ผู้มาจากดินแดนที่ผมเคยฝากใจไว้เพราะมีโอกาสใช้ชีวิตวัยเด็กที่นั่น 3 ปี" 

"พอไปศึกษาประวัติด้านอื่นของเขามันยิ่งเจ๋ง ควรค่าต่อการติดตาม มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขาไม่ยอมอ่อนข้อต่อสมาคมฟุตบอลอียิปต์ หากบกพร่องเรื่องการดูแลนักเตะซึ่งเสียสละมาช่วยชาติอย่างสมควรได้รับ"

"ทั้งเรื่องความเป็นอยู่และเบี้ยเลี้ยง ถ้ามันตกหล่น โม ขู่ว่าไม่ยอมติดธง ทำให้เห็นว่าหมอนั่นทรงอิทธิพลต่อประเทศอียิปต์จริงๆ" 

บุคลากรอีกคนของ ลิเวอร์พูล ที่กุนซือวัย 54 ปี โปรดปรานได้แก่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผจก.ทีมจอมลีลา แถมยังมีเสน่ห์ แสดงออกทุกอย่างเปิดเผย  

"ผมชอบดูการโค้ชของ เจอร์เก้น อีกด้วย  ก็ดูกุนซือคนอื่นๆนะ แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากคนอื่นคือ 'เจเค' มีอิทธิพลใหญ่กว่าแค่เกมบนสนาม ทีมนี้คือกลุ่มนักเตะที่ดูแล้วเพลิน"   

"มัมไม่ใช่เพียงคนบ้ายืนสั่งการ แต่เขาชอบยิงมุก, หัวเราะร่วน, ยิ้มแย้ม และกำหมัดชกลมด้วยความสะใจ มันตรงกับคอมเซปต์ว่าการกีฬาคือความบันเทิง - เฉกเช่นเดียวกับไอเดียของผมหรือ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ ที่มีต่อ โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส หากดูทีมเราเล่นก็สนุกเหมือนกัน"  

"อารมณ์ร่วมของ คล็อปป์ มาเต็มจริงๆ แล้วสิ่งนั้นแหละจะเป็นปัจจัยช่วยปลุกปั้นยอดทีมไม่ว่าชนิดกีฬาใดๆ ขอเพียงคุณสนุกกับสิ่งที่ทำ เพราะมันช่วยเรารู้สึกเยาว์วัย, เป็นอิสระ และกล้าเล่นในทางใหม่ๆ" 

มุมมองเรื่องการพัฒนาตัวเองเสมอก็เป็นอีกจุดที่ คล็อปป์ เห็นตรงกับ เคอร์ โดยกุนซือดอยช์เคยกล่าวว่าซีซั่น 2019-20 ต่อให้เพิ่งได้แชมป์ ชปล.มา ก็ไม่เคยตัดสินผลงานทีมตัวเองว่าสำเร็จ-หรือ-ล้มเหลว จากโทรฟี่ แต่ดูที่ความเก่งกาจทุกๆด้านจากปีก่อนแค่ไหน? 


พาเหรดจบ คล็อปป์ ก็ต้องกลับไปทำงานต่อ

"แน่นอนเมื่อเราได้แชมป์มันย่อมเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์" กุนซือมะกันเห็นด้วยอย่างยิ่งกับปรัชญาแบบ คล็อปป์ 

"แต่หลังจากค่ำคืนแห่งการฉลอง, ขบวนพาเหรด ชีวิตปกติก็จะกลับมา เรายังต้องรีบตื่นตอนเช้า, ดูแลครอบครัว, ทำหน้าที่การงานของตัวเอง และสะสางเรื่องต่างๆ - ตำแหน่งแชมป์ก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตง่ายกว่าเดิม"  

"ทุกอย่างมันยังไม่จบ คุณยังต้องเดินหน้าต่อในทันที สิ่งที่เราหลงเหลือไว้แค่ความรู้สึกกับความสัมพันธ์ที่มีร่วมกับผู้เล่น ... วัฏจักรดำเนินต่อไป จนวาระท้ายๆของชีวิต เรื่องดีที่ผ่านมาก็จะสะกิดใจเราอีกหน" 

กีฬาหวดลูกหนังยังเป็นมากกว่าความบันเทิงสำหรับ เคอร์ โดยเขามองว่าด้วยพื้นฐานการเล่นโดยเฉพาะรูปแบบเคลื่อนที่มันมีประโยชน์มาก ดังนั้นจึงแจกเคล็ดลับฟรีๆชวนเด็กมะกันเล่นซอคเก้อร์ก่อนหัดบาสเกตบอลจริงๆจังๆ  

"หากตัวเองสามารถนั่งตำแหน่งพระเจ้าซาร์แห่งวงการบาสเกตบอลอเมริกัน จะลงไปบอกว่าขอทำหน้าที่วางรากฐานยัดห่วงให้เยาวชนของชาติเราได้ไหม?" 

“จะใส่หลักสูตรว่าเด็กๆที่จะเล่นบาสฯ ต้องเรียนเตะซอคเก้อร์ด้วยเพราะปรัชญามันสามารถส่งผ่านหากันได้โดยตรง ปัญหาของวงการเราตอนนี้คือพวกสายเลือดใหม่ที่ขึ้นมาเกือบทุกคนเอาแต่สนใจการดวลตัว-ต่อ-ตัว เลี้ยงบอลให้เก่งเพื่อชนะคู่แข่ง"

"จริงอยู่ว่าพวกเขามีทักษะที่น่าเหลือเชื่อเรื่องการเลี้ยงบอล แต่กลับไม่เข้าใจวิธีที่จะผ่านลูก วิธีเคลื่อนตัวเวลาไม่มีบอล ซึ่งศาสตร์พวกนี้กีฬาฟุตบอลจะขัดเกลาให้"  

เคอร์ เกี่ยวกับศาสตร์ลูกหนังพื้นฐานสำหรับนักบาสฯ

โค้ชเคอร์หยิบหนึ่งในนักบาสฯระดับเอ็มวีพี สตีฟ แนช สัญชาติแคนาเดี้ยน หรือ โทนี่ คูโคช ชาวโคแอต อดีตทีมเมตของเขาเมื่อครั้งเล่นให้ ชิคาโก บูลล์ส ล้วนเคยเตะบอลมาก่อนในวัยเด็ก แล้วทักษะเหล่านั้นถูกประยุกต์ใช้บนเวทีไม้ปาร์เก้ต์ 

"เห็นใช่ไหมครับว่าพวกเขาเข้าใจหลักการของการรับ-ส่งบอลไปมาเป็นสามเหลี่ยม และการวิ่งตัดหลังผู้เล่นเกมรับ มันไอเดียเดียวกับกีฬาฟุตบอล นั่นคือการหาช่องเจาะ, สร้างสรรค์โอกาสสร้างเกมรุก และสร้างโอกาสพังตาข่าย" 

ส่วนเรื่องสุดท้ายที่ สตีฟ พูดถึงคือวิญญาณผู้ชนะ! 

แกยอมรับตัวเองว่าหากไม่ได้มีโอกาสร่วมทีมกับ หัวหน้าโค้ช ฟิล แจ็คสัน หรือ ไมเคิ่ล จอร์แดน ตำนานของ เอ็นบีเอ เส้นทางอาชีพคงต่างออไปทั้งเรื่องหลักความคิด, เกียรติยศอย่างเป็นรูปธรรมแชมป์ 5 สมัยเมื่อครั้งแข่งเอง ต่อยอดถึงแชมป์ฐานะโค้ชอีก 3 หน 


โค้ชเคอร์ ถึงอาจารย์ ฟิล แจ็คสัน

"หากไม่ได้สวมเครื่องแบบ ชิคาโก บูลล์ส (1993-1999) ผมก็คงเป็นแค่ผู้เล่นอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่าผ่านประสบการณ์เล่นลีกเอ็นบีเอ เท่านั้น! น่าจะเป็นโมงยามที่ต่างอย่างสิ้นเชิงกับความเร้าใจมากมายที่เผชิญ"

" ตอนเข้าลีกใหม่ๆไม่กล้าฝันนะว่าเรื่องแชมป์จะเกิดขึ้น แต่เมื่อมาร่วมงาน บูลล์ส ความสนใจทั้งหลายมันเข้ามาถึงผม ถึงคนอื่นในทีม จากนั้นมันก็ส่งไปในแนวทางการเล่นที่เป็นปรากฏการณ์ (ไทรแองเกิ้ล-ออฟเฟนซ์)" 

"เมื่อคุณได้ลงแข่งในแนวทางที่เปลี่ยนชีวิตขนาดนั้น มันเป็นรสชาติแบบที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน คือบทเรียนสำคัญที่ผมรับโอกาสครูพักลักจำมา" 

เคอร์ ผ่านประสบการณ์เล่นเพลย์ออฟรวม 78 นัด ฐานะ 'กระทิงเปลี่ยว' 6 ฤดูกาล โดยมีไฮไลท์คือลงจากม้านั่งสำรองช่วยพลิกเกมให้ทีมคว้า แลร์รี่ โอไบรอัน โทรฟี่ 3 ปีติด, สร้างสถิติลีกชนะเรกูล่า ซีซั่น 72 จาก 82 นัด เมื่อ 1995-96 

ฤดูกาลนั้น จอร์แดน ได้หวนกลับมาแข่งยัดห่วงอีกครั้ง หลังจากไปหาความท้าทายกับกีฬาเบสบอล ซึ่ง เคอร์ บอกว่าคือโมเมนต์สำคัญของชีวิต...แต่ไม่ใช่การโดนต่อยตาเขียวระหว่างซ้อมแน่ๆ


เคอร์ เลิกปอดแหกยิงปิดเกมเพราะจอร์แดน

"สิ่งที่ผมเก็บเกี่ยวมาจาก ไมเคิ่ล จอร์แดน มันคงเป็นเรื่องน่าถวิลหาเสมอ ทุกเพลย์ตัดสินผลที่เขาเล่นปราศจากความกลัว มันช่างแตกต่างจากตัวผมก่อนนั้นที่กลัวล้มเหลวไปทุกอย่าง - บอกเลยตัวเองไม่อยากเป็นคนปิดเกมเพราะปอดว่าอาจชู้ตไม่ลง"

"ความคิดใจมดพวกนั้นมลายไปเลยเมื่อเล่นกับ บูลล์ส เพราะตกผลึกจาก จอร์แดน หมอนั่นขอปิดเกมตลอด แถมผลลัพธ์ก็ลงแค่ครึ่ง-ต่อ-ครึ่ง"  

"ถ้าเราเป็นคนยิงพลาดคงจิต แต่สำหรับเขาไม่เลย ก็ยังดูปกติเมื่ออยู่ในล็อคเกอร์ รูม ไร้อาการเศร้าซึม - แล้วมันก็เหมือนเดิมในนัดต่อไป หรือสองคืนถัดไปอีก 'เอ็มเจ' ยังขอยิงปิดเกม ชู้ตลงบ้างไม่ลงบ้าง"

"พฤติกรรมตัวอย่างเหล่านั้นเปลี่ยนความคิดผมเลย" 

"ตระหนักว่าเราอย่ากลัวความล้มเหลว ก็แค่ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่หรือนั่งเสียดายไปตลอด"  

นับเป็นโชคดีอย่างแท้จริงสำหรับเราๆฐานะแฟนกีฬา ที่มียอดโค้ช 2 วงการ มาถ่ายทอดประสบการณ์ในหลายด่านที่ผ่านการตกผลึกจนย่อยง่าย หากได้เรียนรู้จากมันก็คงต่อยอดใช้กับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด