:::     :::

"เพรสซิ่งขวางนรก"ที่กลับมา และมกราแห่งการรอคอย

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
6,596
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลงานทีมที่โดดเด่นเป็นผลจากการทุ่มเทในการลงสนาม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือความพยายามในการเล่นเกมเพรสซิ่งที่เห็นชัดมากๆของเด็กๆปีศาจแดง และนี่คือเรื่องราวข้อสังเกตที่ว่านั่น

เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับมาคว้าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ทำได้ติดต่อกันมาถึงสามนัดก่อนที่จะสะดุดนัดเดียวกับเกมเยือนบอร์นมัธ และกลับมาจัดหนักสองนัดติดกันด้วยการยิงแตะหลักสามประตูถึงสองนัดกับเกมเปิดบ้านเชือดปาร์ติซาน3-0 และล่าสุดก็ถองถลุงไบรจ์ตันไปสบายเท้า 3-1 ชนิดที่เรียกว่าตะบี้ตะบันบุกอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

"เราจะบุกอัดข้าศึกด้วยทุกสิ่งที่เรามี ทลวงมันให้ทะลุ อย่างไม่หยุดยั้ง"

ประโยคทองจากเค้าท์เตอร์สไตรค์พากย์ไทยของเด็กยุค90sช่างเหมาะกับฟอร์มของแมนยูไนเต็ดในช่วงนี้เสียเหลือเกิน


สิ่งสำคัญที่ทำให้เราทำเช่นนั้นได้ เกิดมาจากหลายๆปัจจัย ทั้งการทำเกมรุกที่กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้งทันทีที่ได้ตัวหลักอย่างมาร์กซิยาลกลับมา ฉุดให้แรชฟอร์ด และ แดเนียล เจมส์ ก็แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้อย่างเต็มที่ และเมื่อได้ลงเล่นพร้อมกันต่อเนื่องหลายๆนัด จังหวะการเล่น ความมั่นใจ ความเข้าขา และทีมเวิร์ค ทุกอย่างสอดประสานกันอย่างลงตัวที่สุด บวกกับความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ที่จำเป็นต้องเปิดเกมบุกใส่เพื่อทวงประตูคืน ก็ยิ่งทำให้เรามีพื้นที่ในการเล่นเกมสวนกลับของถนัดได้มากขึ้นอีกด้วย  ผลที่ออกมาจึงเป็นเกมโมเมนตัมไหลๆของยูไนเต็ดที่ทำเกมรุกใส่คู่แข่งตลอดหลายนัดที่ผ่านมา จนเป็นผลให้เราได้ผลลัพธ์และการเล่นที่ดีขึ้นตามลำดับ

แต่สิ่งสำคัญเรื่องหนึ่งที่หลายคนอาจจะสังเกตกันบ้างแล้ว ส่วนหนึ่งนั่นก็คือ ในช่วงที่เราฟอร์มดีขึ้นต่อเนื่องนี้นั้น และรายละเอียดการเล่นระหว่างเกม เราได้เห็นเด็กๆพลังหนุ่มของเรานั้น กลับมาเล่นเกม"เพรสซิ่ง"วิ่งบู๊ไล่บีบฆ่าบอลคู่ต่อสู้กันอีกครั้ง นับจากที่เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในนัดแรกๆของการกลับมาคุมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา และทำผลงานได้ดี ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะหายไปในช่วงที่ฟอร์มย่ำแย่

ตอนนี้อาวุธที่ชื่อว่าเพรสซิ่งสูงได้กลับมาอยู่ในมือปีศาจแดงอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


เกมเพรสซิ่งของแมนยูในตอนนี้ถือว่าเป็นอีกอาวุธเด็ดหนึ่งที่ใช้งานได้ดีเยี่ยมและเห็นผลชัดเจน เมื่อมันสามารถสร้างโอกาสการบุกกลับมาให้เราได้ หากบีบเพรสใส่สำเร็จจนทำให้คู่ต่อสู้ต้องคายบอลยาวออกมา และก็เป็นนักเตะเราที่เก็บบอลเอาไว้ได้ แล้วมาตั้งเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่อง  มันคือการ"เล่นเกมรุกในแบบที่ไม่มีบอลอยู่กับทีม"นั่นเอง เป็นการป้องกันเชิงรุกที่เราสามารถหาโอกาสจู่โจมได้ทันทีตลอดเวลาที่เมื่อใดหากเด็กเราชิงบอลที่เสียการครอบครองมาได้เมื่อไหร่  นั่นจะเป็นจังหวะให้เราบุกจู่โจมใส่ได้ทันที

นอกจากจะมีโอกาสเพิ่มสกอร์แล้ว ยังตัดโอกาสเสียสกอร์ไปได้ด้วยแบบไปกลับ นั่นคือข้อที่น่ากลัวสุดๆของการเล่นเพรสซิ่งเช่นนี้

จุดอ่อนของการเพรสซิ่งนั้นมีอยู่สองอย่างที่น่าระมัดระวังเอาไว้สำหรับแมนยูไนเต็ด นั่นก็คือ

1.การเล่นเพรสซิ่งใส่ทีมที่แก้เพรสเก่งๆ ถือว่าค่อนข้างอันตรายและไม่ควรทำอย่างยิ่ง

เราจะเห็นได้ว่าเวลาเจอกับทีมอย่าง ลิเวอร์พูล หรือซิตี้  เราจะไม่ได้เห็นทีมเราวิ่งไล่ฆ่า เพรสซิ่งแลกกับทีมพวกนี้เลย หากพิจารณามาแล้วว่า ต้องเจอทีมแกะเพรสเก่งๆ อาจจะเกิดผลร้ายได้หากว่าเราบีบสูง แล้วดันโดนแกะกับดักหลุดออกไป นั่นแปลว่า พื้นที่แนวหลังเรา กองหลังทั้งแบ็คและCBจะต้องเจอกับพื้นที่เปิด และโดนความเร็วเล่นงานอย่างแน่นอน ยิ่งหากเป็นสองเซ็นเตอร์ตัวปัจจุบันอย่าง เลิฟ กับ แมกไกวร์แล้วละก็ เจอปัญหาแน่ๆ (หากใช้โรโฮ ยังพอมีหวังในการป้องกันเกมสวนหน่อย ทั้งจากความเร็วในการวิ่งตามมาร์คตัว และความแม่นยำในการเข้าชนเป็นstopperตัวแรกเพื่อ"ตัดเกมเร็ว")


2. พละกำลังและความเหนื่อยล้า


ข้อนี้ก็อย่างที่ทราบกันว่ามีตัวอย่างเยอะ ทีมที่นำการเพรสซิ่งมาเล่นนั้นจำเป็นที่จะต้องซ้อมจนชำนาญและร่างกายนั้นจดจำระดับความเหนื่อยของการวิ่งไล่บี้เช่นนี้ได้เป็นอย่างดีจนถึงระดับที่เคยชิน ไม่ใช่ว่า เพรสกันเท่ๆ แล้วท้ายเกมวิ่งลิ้นห้อยเป็นหมา ไม่มีแรงสปรินท์ไปป้องกัน สุดท้ายหมดท้ายเกม โดนเขายิงประตู  ไอ้แบบนี้ก็ไม่ควรทำอย่างแรง

การจะเล่นเพรสซิ่งได้ นักเตะต้องมีร่างกายที่พร้อม แข็งแรง และมีปริมาณนักเตะที่เพียงพอสำหรับการสลับกันลงเล่นหรือแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกันได้ ซึ่งจุดนี้แมนยูค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะปริมาณนักเตะทีมหลักมีจำกัดเสียเหลือเกิน  แม้ว่าการเล่นลักษณะนี้จะทำให้เรามีผลการแข่งขันและรูปเกมที่ดีเยี่ยม แต่ก็เหมือนเป็นดาบสองคมที่เสี่ยงต่อการเสียนักเตะจากอาการบาดเจ็บเหลือเกินเพราะมันต้องวิ่งและเข้าปะทะเร็วตลอดเวลาอันอาจเกิดaccidentใดๆขึ้นมาก็ได้


ดังนั้นสองเรื่องนี้จึงถือเป็นส่วนที่ต้องระมัดระวังสักเล็กน้อยสำหรับการเล่นเพรสซิ่งสูง แบบที่แมนยูทำในตอนนี้ แต่ก็ถือว่า หมากเด็ดดอกนี้ที่ทีมโค้ช และผู้จัดการทีมอย่างโซลชานำมาให้นักเตะเราเล่นนั้น ถือว่าเหมาะสมและทำได้ดีมากทีเดียว โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราใช้วิธีการนี้ได้ นั่นเป็นเพราะ "อายุเฉลี่ย"ของนักเตะในทีมเรา ส่วนมากยังเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยที่ ร่างกายยังสด ฟิตปั๋ง และมีความเร็วสูงมากๆ

ถ้าหากมีการโค้ชชิ่งและกำชับแผนการเล่น รวมถึงวิธีการเพรสมา การที่เรามีเด็กหนุ่มสดๆพวกนี้ลงสนามพร้อมกัน"ทั้งแผง" หากพวกมันวิ่งไล่เพรสพร้อมๆกันทั้งทีมอย่างมีประสิทธิภาพ จะเกิดอะไรขึ้น .. ก็เป็นแบบที่เราเห็นนั่นแหละ ความห้าวของเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายของแม็คโทมิเนย์นั้น ทำให้เกมกดดันสูงพวกนี้มันเข้าน้ำเข้าเนื้อมากๆ เมื่อ%การเบียดเอาชนะแย่งบอลของคู่กลางเรายอดเยี่ยมทีเดียว ทั้งแม็คที่ร่างกายแข็งแกร่งขนาดที่ไม่ต้องกลัวใครแล้ว ส่วนเฟร็ดก็มีความขยันขั้นสุดยอด และเหลี่ยมการเข้าบอลที่พอคืนฟอร์มแล้ว ถือว่าเหลี่ยมบอลเซนส์ของมิดฟิลด์หมอนี่ดีมากทีเดียวล่ะ  เมื่อรวมกับ4ตัวด้านหน้าที่สดและเร็วจี๋ไปรษณีย์จ๋าอย่าง แรช หมาก เจมส์ ที่วิ่งควายกันสนุกสนานฝุ่นตลบ แถมท้ายด้วยเปเรร่าอีกรายที่ช่วยวิ่งบีบพร้อมกับเพื่อนด้วย


คิดสภาพเอาแล้วกันว่า เจอเด็กตัวจี๊ดๆวิ่งเข้าบอลเร็ว แล้วต้องเปิดคายบอลออกไป ก็เจอไอ้เฟร็ด แม็ค คอยชิงเหลี่ยมแย่งบอลเนียนๆกลางสนามอีก หรือถ้าเตะโด่งออกไปยาวมากๆ แน่นอนว่า ทักษะการเอาบอลลงของเลิฟ หรือลูกหัวของแมกไกวร์ ก็จะเก็บบอลให้เราได้เช่นกัน

ปัจจัยมันจึงเข้าเงื่อนไข และลงล็อคมากพอจะให้4ตัวด้านหน้า+2ตัวกลาง ช่วยกันวิ่งเล่นไล่เพรสซิ่งสูงตั้งแต่แดนคู่ต่อสู้ จนทำให้เราสามารถชิงบอลกลับมาบุกคืน หรือเล่นเกมสวนกลับได้ทันทีที่พวกเขาเสียบอลและเราตัดเกมได้นั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือเงื่อนไขและข้อดีของการเล่นเกมเพรสซิ่งโดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งเมื่อทีมอยู่ในสภาพที่ "พร้อมเล่นเกมเพรสซิ่ง" เช่นนี้ และโอเล่ก็สั่งให้ใช้งานแล้ว  ผลงานจึงกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ บวกกับเกมรุกที่ดีขึ้นทีละนิดๆ ตอนนี้สภาพการcontinuedของชัยชนะแมนยูไนเต็ด จึงเริ่มกลับมาคล้ายๆตอนที่โอเล่คุมทีม10นัดแรกเช่นนั้นจริงๆ เพราะตอนนี้ก็ปาเข้าไป5นัดรัวๆแล้วที่ชนะต่อๆกันมาจนอันดับได้ขึ้นมาสูดกลิ่นดากของพื้นที่ยูโรป้าลีกอีกครั้ง

สงสัยจะsacked in the next nation(ชาติหน้า) แล้วว่ะไอ้น้อง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราอย่าลืมว่า ในช่วงเวลาที่นักเตะเจ็บและขาดหายไปเยอะ เราไม่สามารถจะใช้เพรสซิ่งเกมได้ตลอดหากนักเตะมีอาการบาดเจ็บและกรอบกันมา ซึ่งเป็นเคสในกรณีของข้อ2.ด้านบนที่เราพูดเรื่องที่ว่า การจะใช้แผนนี้ได้มันจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรงพอที่จะวิ่งได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ และเราจำเป็นต้องมีปริมาณนักเตะที่มากพอสำหรับการใช้สลับสับเปลี่ยน อันเนื่องมาจากความเหนื่อยล้า หรือ"จากการบาดเจ็บจากการวิ่งเพรสใส่คู่ต่อสู้"เช่นนี้

ซึ่งตอนนี้ปริมาณนักเตะและขนาดของทีม พูดตรงๆว่าไม่พอ และเสี่ยงมากๆหากดวงแตกมีใครเจ็บไปอีก เพราะตอนนี้ข่าวร้ายก็คือ แม็คโทมิเนย์น่าจะพักอย่างน้อยๆ3-4สัปดาห์ไปแล้ว นัดหน้าทุกอย่างคงต้องเปลี่ยนตามหน้างานแน่นอน และเกมเพรสซิ่งเราก็ไม่น่าจะได้เห็นในแมตช์เยือนถิ่นดาบคู่ในวันที่24ที่จะถึงนี้


ดังนั้น สิ่งที่ขึ้นหัวบทความไว้ก็คือ "มกราคม" 2563 นี้นั้น จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะรันชัยชนะและฟอร์มการเล่นของแมนยูให้ต่อเนื่องเช่นนี้ได้ด้วยเกมบุกและการเพรสซิ่งใส่คู่แข่ง เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่ตลาดนักเตะจะเปิดอีกครั้ง และหากเราสามารถเสริมทีมได้อย่างน้อยๆ2ตัวหลักเข้าสู่ทีม นั่นแปลว่าsquad depthของเราจะขยายใหญ่ขึ้น และมีพื้นที่มากพอที่จะเล่นเสี่ยงๆได้อีกมากโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเหน็ดเหนื่อยหรืออาการบาดเจ็บเลย

มกราคม หากซื้อนักเตะเข้ามาเพิ่มได้ นั่นแปลว่าเราจะรองรับการวิ่งไล่บี้เพรสซิ่งได้มากขึ้นอีก เพราะมีตัวช่วยเพิ่มขึ้นนั่นเอง

ดังนั้น สเป็คของนักเตะที่จะเข้ามาในช่วงมกราคมนี้ โอเล่เองก็ไม่ได้ปิดกั้นนะว่าจะเอาแต่UKเสริมทีม มันแค่บังเอิญว่า ตลาดที่ผ่านมา ตัวที่เข้าดันมีแต่ตัวUKล้วนๆอย่างที่เห็นสามตัวนั่นเอง แต่ในมกราคมนี้ เอาจริงๆใครก็ได้ที่เป็นตำแหน่งที่ขาด โดยเฉพาะกองกลางอย่างต่ำๆสองตัว เพื่อช่วยเพิ่มมิติกลางรุก และเสริมแข็งตรงกลางสนามบ้าง เพราะตอนนี้ใช้แม็คเฟร็ดทุกนัดจนมันเจ็บไปแล้ว จำเป็นต้องมีมิดฟิลด์มาเพิ่ม ในยามที่ป็อกก็ลูกผีลูกคนเช่นนี้

หากได้กองกลางมาเพิ่มอีกสองตัว รับรองเลยว่า เกมเพรสซิ่งของแมนยูไนเต็ดจะสามารถสร้างเกมบุกแบบโปรเกรสซีฟร็อคต่อเนื่องบนยูทูปสองชั่วโมงติดให้เราเห็นได้อย่างแน่นอน และผลงานเราจะต้องดีขึ้นอีก เพราะเกมฟุตบอล "มันคือเกมแห่งหัวจิตหัวใจ"  ทีมที่ใจสู้มากกว่ามักจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งนั่นสะท้อนอยู่แล้วหากคุณยังคงเล่นเกมเพรสซิ่งอย่างดุเดือดได้อยู่ ก็น่าจะทำให้แฟนบอลที่ได้ชมทีมเราเล่นนั้น มีความสุขและตื่นเต้นไปด้วย เหมือนนัดที่ผ่านๆมาหลายนัดในช่วงนี้นั่นเอง

อยากจะให้มกรามาถึงซะพรุ่งนี้เลย..

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด