:::     :::

Erling Haaland "เด็กนรกตีนระเบิด" ที่น่าจะเกิดกับแผนโซลชา

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
9,983
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คืออีกหนึ่งดีลนักเตะที่มีข่าวกับเรา และสมควรที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะดึงตัวเขาเข้ามาร่วมทีมให้ได้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ผู้จะมาเติมเต็มเกมรุกยูไนเต็ดให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในแผนการสร้างทีมระยะยาวของโซลชา

ตกเป็นข่าวมาสักพักใหญ่ๆแล้วสำหรับกองหน้าดาวรุ่งที่กำลังมาแรงที่สุดในโลกฟุตบอลขณะนี้สำหรับ Erling Braut Håland หรือเรียกสั้นๆง่ายๆว่า Erling Haaland ซึ่งแน่นอนว่านามสกุลอันคุ้นหูนี้นั้น เด็กคนนี้คือลูกของอัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ คู่กรณีในตำนานของรอย คีน นั่นเองหากจะยังจำกันได้ ..

นี่เราดูบอลกันมาถึงยุคของลูกๆของตำนานยุค90sเหล่านั้น กลับมาเตะฟุตบอลแทนพ่อกันแล้ว


เจ้าหนูเออร์ลิง ฮาลันด์ ปัจจุบันอายุ19ปี เป็นเด็กเกิดปี2000 วันที่21 July ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ Red Bull Salzburg นั่นเอง ซึ่งด้วยวัยเพียงแค่นี้แต่จนถึงตอนนี้ฤดูกาล2019/20 ด้วยการลงสนามไปทั้งหมด 18นัด กดไปแล้วทั้งหมด26ประตูในตำแหน่งStrikerกองหน้าตัวเป้าในแบบฉบับของเบอร์9ชัดเจน จากฟอร์มและวิธีการเล่น หมอนี่คือกองหน้าตัวยิงประตูอย่างไม่ต้องสงสัย โดยที่สถิติสุดโหดนี้เกิดขึ้นในAustrian Football Bundesliga ด้วยการลงสนาม12นัด กดไป15ประตู ส่วนในUCL ลง4นัดก็ยิงไป7ประตูเข้าไปแล้ว

สถิติโหดเกินไปสำหรับเด็กอายุเพียงแค่นี้

สาเหตุที่นักเตะคนนี้มีข่าวกับเรานั้น จริงๆแล้วหลายคนทราบดีว่าเป็นเพราะโซลชา แต่จริงๆแล้วทีมscoutของเราได้ทำการtrackingเค้ามาตั้งแต่ยุคของมูรินโญ่แล้วด้วยซ้ำ ไม่ใช่หลังจากโซลชาเข้ามา แต่ด้วยปูมหลังที่หลายๆคนทราบกันมาบ้างแล้วว่า ฮาลันด์นั้นเคยเป็น"ลูกทีม"ใต้บังคับบัญชาของโอเล่ กุนนาร์ โซลชามาก่อนที่ Molde ราวๆปี2017-2019 ดังนั้นสายสัมพันธ์และความมั่นใจซึ่งกันและกันของทั้งสองคนถือว่ามีพอควร (แถมยังเป็นคนนอร์เวย์เหมือนกันด้วย)


ด้านเออร์ลิงเองก็ให้สัมภาษณ์ว่า โซลชามีอิทธิพลต่อชีวิตเขามาก ทั้งในฐานะมนุษย์ และฐานะของเทรนเนอร์ผู้ฝึกสอน นอกจากนี้เขายังยกย่องถึงเกียรติประวัติส่วนตัวของโซลชาในยามที่ยังเป็นนักเตะอยู่ด้วย ทั้งการคว้าแชมป์ลีกและแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ดังนั้นแน่นอน ในความสัมพันธ์ที่ว่าส่วนใหญ่ จึงเป็นความเคารพในฐานะบอส-ลูกทีมและไอดอลด้วยในเวลาเดียวกัน

ในแง่ของอาชีพการค้าแข้งนั้น ไม่เร็วก็ช้า แน่นอนว่า เออร์ลิงจะต้องมาโลดแล่นอยู่ในผืนหญ้าสังเวียนพรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอนเพราะเจ้าตัวแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าชอบฟุตบอลอังกฤษ และอยากจะมาเจริญรอยตามพ่อของเขาอยู่ที่นี่ เพราะเจ้าตัวเองนั้นก็มีบ้านเกิดอยู่ที่ "ลีดส์" ด้วยซ้ำ ซึ่งก็เป็นพื้นเพมาจากตั้งแต่ทางพ่อแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนนอร์เวย์ก็ตาม ถึงขนาดว่าความฝันของเออร์ลิงนั้นอยากจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกับลีดส์ยูไนเต็ดด้วยซ้ำ (แฟนลีดส์โดยสายเลือดชัดๆ .. โคตรชอบเลย-ผู้เขียน)

ฮาลันด์ผู้พ่อสมัยอยู่ลีดส์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ อริแมนยูทั้งนั้น!!

แต่กระนั้นเอง ความกระหายและทะเยอะทะยานของฮาลันด์นั้น ต้องการที่จะเหนือกว่าพ่อของเขาก็คืออัลฟ์อิงเก้ ฮาลันด์อย่างชัดเจน ทั้งการประสบความสำเร็จและการได้ลงเล่นกับสโมสรยักษ์ใหญ่ เขาอยากจะได้ลงเล่นมากกว่าพ่อของเขา และไปให้ได้ไกลมากกว่านั้นอีก.. คือดูจากattitudeการให้สัมภาษณ์นั้น เด็กคนนี้ต้องการจะก้าวหน้าขึ้นไปเป็นกองหน้าระดับท็อปของวงการในระดับชั้นนำอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อพื้นฐานมันกระหายขนาดนี้ แน่นอนว่าการพัฒนาจะไม่มีทางหยุดแน่ๆหากเจ้าตัวยังขวนขวายอัพเกรดตัวเองอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นนี้

และนั่นจะส่งผลให้เขาได้ขึ้นมาเป็นกองหน้าท็อปคลาสได้ในไม่ช้า หากเล่นด้วยความมุ่งมั่นทะเยอทะยานเช่นนี้

จากข่าวที่ออกมาเรื่อยๆและก็น่าจะเป็นความจริง ด้านของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็คงจะมีแผนการอยู่ในใจแล้วสำหรับเด็กคนนี้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยๆเราก็ยังขาดกองหน้าตัวเป้าที่จะมา "ยืนค้ำหน้า" ให้กับทีมอยู่ในฐานะเบอร์9 ซึ่งตอนนี้ทีมขาดอยู่และก็ไม่มีเบอร์9แท้จริง เพราะแม้อ็องโตนี่ มาร์กซิยาลจะใส่เบอร์9ก็ตาม (ฮา) และถึงเจ้าตัวจะเล่นได้และจบสกอร์ได้คมกริบและร้ายกาจ แต่สิ่งที่เป็นลักษณะนิสัยการเล่นและจุดเด่นของน้องหมากนั้น ก็ไม่ใช่เบอร์9แท้ๆอยู่ดี

ดังนั้นเป้าหมายที่เราเป็นข่าวกับเออร์ลิง ฮาลันด์นั้น ถือว่าเป็นเป้าที่พุ่งความสนใจได้ "ตรงจุด" ที่สุดคนหนึ่งอย่างไม่มีข้อสงสัย

คำถามคือ เมื่อฮาลันด์เข้าทีมมาหากมีวันนั้นจริงๆ เขาจะมายืนอยู่ตรงไหนใน "แผนของโซลชา"

ตอบได้ง่ายมากๆ ชัดเจนเลย ใครก็ตอบได้ นั่นก็คือ กองหน้าตัวกลาง!


ใช่แล้ว ตำแหน่งST หรือกึ่งๆCentre-Forwardคือสิ่งที่ทีมเราขาด ฮาลันด์จะมายืนอยู่บนจุดยอดสุดของหัวลูกศรเกมรุกของเรา ค้ำหน้าไว้ตลอดเวลา แม้ว่าเจ้าตัวจะมีสกิลในการลงมาเล่นร่วมกับทีมด้วยก็ตามไม่ต้องรอบอลอย่างเดียว แต่โดยพื้นฐานส่วนใหญ่ เมื่อทำเกมบุก เขาจะไม่จำเป็นต้องส่ายออกไปเล่นด้านข้างให้เสียของแต่อย่างใด เพราะว่าในตอนนี้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีตัวรุกที่เป็นกองหน้าที่ชอบเล่นริมเส้นหลายตัวมากๆ โดยเฉพาะสามตัวหลักอย่าง Martial Rashford และ James ซึ่งทั้งสามคนนั้นมีความสามารถและชอบที่จะเล่นห่างจากปากประตูมากพอควรจึงจะแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านของการใช้ความเร็วในการวิ่งเอาชนะ หรือหาพื้นที่ว่างอย่างรวดเร็ว และการไปกับบอล รวมถึงการเคลื่อนที่หาspaceในกรอบเขตโทษเพื่อสอดมาจบสกอร์

จะเห็นว่าทั้งสามคนเล่นสไตล์เดียวกันหมดเวลาทำเกมรุก แต่สิ่งที่เออร์ลิง ฮาลันด์เป็นนั้นคือ เบอร์9ธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อมีคนมายืนค้ำตรงกลางแล้วชนกับกองหลังให้นั้น จึงถือเป็นสวรรค์ของ หมาก แรช เจมส์ ทันที เพราะสามตัวนี้จะได้พื้นที่เล่นมากโดยที่ไม่ต้องพะวงการทำประตู เพราะจะมีคนยืนกดกองหลังและพร้อมเข้าชาร์จอยู่ตลอดเวลาอย่าง ฮาลันด์ ทันที

หมากแรชน่าจะถูกใจสิ่งนี้

เมื่อไหร่ที่ฮาลันด์เข้าทีมมาจริงๆ ตำแหน่งตัวรุกของทีมเราจะลงตัวมากกว่าเดิม100% เพราะกองหน้าตัวค้ำคือสิ่งที่เรายังขาดอยู่ในนักเตะชุดปัจจุบันที่มี หลังจากเสียกองหน้ายกนิ้วโป้งตัวกากคนเก่าไป มิติตรงนั้นก็ขาดหายไปพอสมควร และนี่ล่ะคือคำตอบที่ว่า เขาจะมาอยู่ในแผนของโซลชายังไง และ"เมื่อเข้ามา จะส่งผลกับทีมยังไง"

ซึ่งประเด็นหลักของการคว้าตัวฮาลันด์มานั้น ผมมองว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องการจะมายืนค้ำเบอร์9ในจุดที่ขาดคนเลย แต่สิ่งที่จะดีกว่าก็คือ เมื่อฮาลันด์มา เขาจะทำให้ตัวเก่าที่มีอยู่ของเราสามตัวสามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่มากกว่านี้อีก เพราะหมากแรชเจมส์ ต่างเป็นตัวรุกประเภทรอสอดเข้ามาหาจังหวะยิงทั้งนั้น แต่ไม่ใช่คนที่จะยืนเป็นหลักเฉยๆให้เพื่อนมีช่องได้  ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่มีคนทำหน้าที่นี้ ทั้งสามคนที่ว่าจะโบยบินได้อิสระยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนเพราะมีคนดึงตัวประกบในตำแหน่งหลักไปแล้ว ตัวรุกที่เหลือจึงสามารถเล่นได้อิสระและง่ายมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องพะวงการรอเข้าทำประตูอย่างเดียวซึ่งมันจะไปลดการใช้ศักยภาพที่แท้จริงด้านการเคลื่อนที่ไป

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกชัดเจนว่า หากเราคว้าตัวErling Haaland เข้ามาได้ เขาจะมายืนอยู่ตรงไหนในแผนของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งชัดเจนว่า นี่คือจิ๊กซอว์สำคัญในเกมรุกเราที่จะทำให้เกมบุกเราดุดันและยิงได้แบบเป็นกอบเป็นกำกว่าเดิม เพราะนี่คือ "เพชรฆาตตัวจริง" ที่เกิดมาเพื่อล่าสังหารประตูให้ยูไนเต็ด  คือไม่ต้องพะวงหน้าที่อื่นที่มีคนทำอยู่แล้ว เขาคือตัวปิดฉากที่จะมาแก้ไขจุดอ่อนที่เราเป็นมาตลอดได้ นั่นก็คือ การจบสกอร์ในจังหวะสุดท้าย ที่เราไร้ความคมและยิงทิ้งขว้างอยู่เป็นประจำจนทำให้ผลงานในสนามมีปัญหามาตลอด หากได้ตัวที่ชัวร์เข้ามาในทีม ความพยายามในการทำเกมรุกในแบบที่แฟนบอลต้องการมาตลอด อาจจะประสบความสำเร็จก็ได้

มารีวิววิถีการเล่นและคุณลักษณะคร่าวๆของฮาลันด์กันว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง

ดูความใหญ่ซะก่อน ของจริง

1.ความแข็งแกร่งเชิงกายภาพ

ด้วยความสูงระดับ 194cm น้ำหนัก 87kg ต้องบอกว่าไอ้หมอนี่สูงมากและตัวใหญ่มากจริงๆ แต่เป็นความใหญ่แบบที่สมบูรณ์ทะมัดทะแมงดี ภาษาบ้านๆเรียกว่า "หน่วยก้านดี" นั่นแหละ ต้องบอกว่าไอ้หมอนี่หุ่นดีสุดๆ และโคตรเหมาะกับการเล่นกองหน้าที่สามารถชนกับแนวรับคู่ต่อสู้ได้แบบไม่ต้องกลัวใครเลย แขนขายาวอีกตะหาก


2.ร...เร็ว!!

ข้อนี้แน่นอน ฮาลันด์มีสปีดการวิ่งที่ดีใช้ได้ ทั้งการวิ่งตัวเปล่าและการไปกับบอลที่ถือว่าทำได้ดีเลย ดังนั้นเราจะเห็นว่า เรื่องสปีดความเร็วนี้แหละที่ผมเห็นมาจากการสังเกตวิธีการเล่น เห็นชัดเจนเลยว่า "เขาโคตรจะเข้ากับบอลของโซลชา" ที่ชื่นชอบในการใช้ความเร็วสูงของนักเตะเล่นงานคู่ต่อสู้  และจินตนาการดูเล่นๆถ้าเขาเข้าทีมมา แน่นอนว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งสปีดสตาร์ของทีมที่พร้อมจะวิ่งขึ้นไปสวนกลับใส่คู่ต่อสู้ทีเดียวเป็นแผงๆ ร่วมกับตีนหมาของแรชฟอร์ด และการวาร์ปของเดอะแฟลชเจมส์

แค่นึกภาพก็สยองแทนคู่แข่งแล้ว เพราะแม่งไม่รู้จะประกบตัวไหนดี อันตรายทุกตัว!


3.ตีนหนักเชรี่ยๆ!!!!!

ข้อนี้เป็นข้อที่ผมชอบที่สุด ตั้งฉายารอเลยได้ เพชรฆาตตีนระเบิด เด็กนรกซ้ายปรมาณู จะอะไรก็ว่าไป แต่ที่แน่ๆไอ้เด็กคนนี้กดทีนึงตาข่ายขาดแน่นอน เพราะนิสัยการเล่นของฮาลันด์คือการยิงเต็มข้อด้วยความรุนแรง เวลาเห็นมันง้างเท้าแล้วคิดถึงบาติโกลเลย คือไม่ต้องอะไรมาก ยิงแม่งเข้าไปตรงๆ ใช้ความแรงกับทิศทางของบอลในการจู่โจมใส่โกลจนรับไม่ได้นั่นแหละ คือสมมติว่า หากให้เปรียบเทียบว่าดูหมอนี่แล้วนึกถึงใคร (นึกถึงนะ ไม่ได้บอกว่าเก่งเหมือนกันนะ เพราะต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวอีกนาน)

เวลาฮาลันด์กระชากบอล ท่วงท่าวิธีการ มันเหมือนรุด ฟาน นิสเตอรอยมากๆ แต่ในจังหวะยิงกลับไม่ใช่รุด วิธีการยิงกดเต็มข้อแล้วบอลพุ่งตรงแบบนี้นั้น ลูกยิงเขาเหมือนบาติสตูต้าจริงๆ โดยเฉพาะ"วิถีของลูกบอล"หลังจากที่ยิงแล้ว มันพุ่งตรงลักษณะเดียวกันกับของบาติโกลเลย ต่างกันแค่ไอ้หนูนี่ถนัดตีนซ้าย ส่วนบาติโกลยิงขวาเท่านั้นเอง

ส่วนใครบอกว่าคล้ายRVPเพราะถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน อันนี้น่าจะไม่เหมือน ท่าทางการเล่นไม่มีอะไรเหมือนโรบิ้นเลย

สรุป เป็นกองหน้าประเภทที่น่าจะบอกได้ว่า Shoots with power มั้ง แต่ที่ดีก็คือ หมอนี่ยิงเน้นทิศทางเข้าไปด้วยไม่ได้ยิงมั่วๆ คำตอบอยู่ที่ปริมาณประตูเป็นกอบเป็นกำของเขานั่นเอง ซึ่งเรื่องของตีนหนักนี้จะถือรวมไปด้วยว่า การจบสกอร์ของฮาลันด์นั้นคมกริบและทำได้ดีจริงๆ

ไม่ใช่สักแต่ว่ายิงแบบบ้าพลังเหมือนเบอร์9ยกนิ้วคนเก่า ดีไม่ดีเด็กนี่ยิงแรงกว่ารายนั้นอีก!


4.การหาตำแหน่งที่ว่างยามไม่มีบอล

หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกง่ายๆว่าoff the ballนั่นแหละ อันนี้ถือเป็นเรื่องดีของคนที่เล่นตำแหน่งstriker no.9 ที่ไม่ได้จำเป็นจะต้องมีดีแต่การยิงหรือจบสกอร์ที่ดี  ซึ่งหากมีแค่นั้นมันก็จะกลายเป็นแค่ "กองหน้ารอบอล" คนนึงเท่านั้นเองที่ยิงดีจริง แต่ไม่สามารถสร้างตำแหน่งให้เพื่อนจ่ายมาได้ หรือหาจุดที่บอลอาจจะมาถึงได้

ความสามารถในการหาพื้นที่ว่างในการจู่โจมนี่แหละคือสกิลสำคัญของErling Haalandเลยนอกจากด้านกายภาพและพลังการยิงอย่างที่บอก

จะสังเกตเห็นได้จากการมีส่วนร่วมกับทีมของเขา และโอกาสเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยการเล่นของเจ้าตัวเพียงคนเดียว แต่นั่นมันหมายความว่า เขาสร้างโอกาสให้เพื่อนมาจ่ายเขาได้มากมาย และนั่นแหละคือความสามารถoff the ballอันยอดเยี่ยมของฮาลันด์


5.ข้อดีอื่นๆ

5.1ลูกกลางอากาศ เล่นได้ดีพอประมาณ(พอได้) ที่สำคัญคือสามารถโหม่งได้ด้วยหากมีลูกโด่งครอสเข้ามา ด้วยสรีระและความชำนาญการเล่นลูกหัวก็พอใช้ได้ ความสูงทำให้เป็นข้อได้เปรียบตรงนี้

5.2การเลี้ยงบอล อย่างที่บอกไปว่า นอกจากความเร็วที่เขามีแล้ว ตอนไปกับลูกบอลก็ยังคงมีสปีดที่ดีและเลี้ยงบอลได้ "ดีมากพอควร" ในการไปกับบอลได้ด้วยตัวเองไม่มีเงอะๆงะๆ และมักจะเล่นลูกเทคนิคเพื่อเอาชนะกองหลังที่มาประกบด้วย  คือแม้เจ้าตัวอาจจะไม่ได้มีเทคนิคเหนือชั้นอะไรมากนักเหมือนพวกนักเตะอเมริกาใต้หรือพวกสเปนโปรตุเกส แต่ชั้นเชิงที่มีก็ถือว่าไม่ไก่กา ใช้งานได้จริงแหละ

5.3ด้านทัศนคติและmentalในการเล่น ต้องบอกว่าฮาลันด์เป็นเด็กหนุ่มที่กระหายพอควร และด้านจิตใจขณะลงสนาม หมอนี่ก็ทุ่มเท และกล้าหาญระดับบ้าบิ่นในการเล่นพอควร เรียกง่ายๆว่า "สายบู๊"  ไม่ใช่พวกหงิมๆติ๋มๆเลย ความaggressiveอาจจะไม่ได้ดุดันขนาดพ่อของเขา แต่ความทุ่มเทใส่ในการเล่นนั้นมาเต็มร้อยแน่ๆ  ที่สำคัญอารมณ์ร่วมกับเกมสูงมากๆ

และนี่แหละน่าจะเป็นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นเพื่อนและทีมให้ฮึกเหิมขึ้นมาได้ ข้อนี้สำคัญไม่แพ้สกิลทักษะทางฟุตบอลเลย


จุดอ่อน :

เขียนมาขนาดนี้หลายคนอาจจะคิดว่า เฮ้ย มันเทพขนาดนั้นเลยเหรอ เปล่าเลย..มีข้อสังเกตบางอย่างที่ยังเป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงและตั้งคำถามอยู่อีกเยอะ แต่โดยรวมแล้วยังน่าซื้อมาอยู่ดี 

ข้อที่น่าสังเกตบางจุดก็คือ

1.เล่นเกมถ่างออกมาริมเส้นไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจู่โจมจากด้านข้าง เทคนิคการเอาชนะคู่ต่อสู้ ลูกครอส จะไม่เด่นอย่างแรง ซึ่งก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไรเพราะเจ้าตัวเล่นกองหน้าตัวกลางมาตลอดเวลา ดังนั้นจะไม่มีสกิลระดับปีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่แค่บอกให้รู้ว่า  กองหน้าคนนี้แตกต่างกับตัวรุกคนอื่นของเราจริงๆ เพราะหมากแรชเจมส์ ล้วนแล้วแต่เล่นริมเส้นได้ทั้งนั้น

2.ประสบการณ์ที่ยังไม่เพียงพอ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่กองหน้าประเภท "สำเร็จรูปพร้อมใช้" ที่จะซื้อมาแล้วแม่งperfectเลยแบบสลาตัน หรือจินตนาการเล่นๆหากเราได้โอบาเมยอง มานซ์ หรือ เลวานเข้าทีม เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้นและยังคงต้องขัดเกลาอีกมากเพราะเด็กนี้เล่นด้วยความ"ดิบ"อยู่เยอะ ดูจากการตัดสินใจในเพลย์การเล่นต่างๆ 

เอาง่ายๆอายุน้อยกว่าแรชฟอร์ดเสียอีก วัยเดียวกับแบรนดอน วิลเลียม และแก่กว่าเมสัน กรีนวู้ดแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง!


**แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่ไม่สมบูรณ์นี่แหละ มันเป็นเหรียญอีกด้านของข้อดีที่เขา "อายุยังน้อย" เพราะงั้นฮาลันด์คือนักเตะอีกคนที่เหมาะมากๆที่จะนำเข้ามาร่วมทีมกับพวกนักเตะเก่าๆของเราที่ล้วนแล้วแต่ยัังเป็นทีมที่อายุน้อยๆด้วยกันทั้งนั้น เรียกง่ายๆว่ามาเข้าก๊วนพวกแรชฟอร์ด หมาก เจมส์ แม็ค วิลเลียม AWB ฯลฯ พวกนี้ได้อย่างโคตรดีเลย เพราะฮาลันด์จะเติบโตไปพร้อมๆกับทีมชุดนี้พร้อมกัน ด้วยวัยและความสดของเด็กหนุ่ม

หากให้เลือกกันจริงๆ ระหว่างกองหน้าสมบูรณ์แบบ แต่วัย31-32แล้วตอนนี้ กับ ฮาลันด์ หากจะนำมาเข้าทีม  ผมอยากจะได้ฮาลันด์มากกว่า ด้วยเหตุผลข้างต้นคือ เขาจะเข้ามาอยู่ในแผนการสร้างทีมไปพร้อมๆกันทั้งชุด และจะดีกับเราโดยรวมในระยะยาวมากกว่าการซื้อนักเตะที่เก่งชัวร์ๆมาขัดตาทัพ แต่อยู่ได้แค่ปีสองปีเสียอีก

 

ดังนั้น จากข้อดีทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเห็นเลยว่า จุดเด่นจัดๆของฮาลันด์ มันเหมาะกับตำแหน่งเบอร์9มากๆ  คือเรื่องเทคนิค ความพริ้วอะไรอาจจะมีไม่มากและไม่เด่น 

แต่ตำแหน่งหน้าเป้าต้องการอะไรบ้างล่ะ? นอกจากความใหญ่ที่จะชนกับกองหลัง  ความคมในจังหวะการยิงประตูและจบสกอร์พื้นที่สุดท้าย  การหาที่ว่างเพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนจ่ายบอลมาให้  รวมถึงสปีดความเร็วในการเล่นเกมสวนกลับใช้พื้นที่จู่โจม เขาก็มีครบ

เรียกง่ายๆว่า สกิลเด่นๆที่ฮาลันด์มี มันสอดคล้องกับสิ่งที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกำลังขาดและต้องการพอดีเป๊ะ  เพราะสิ่งที่เขาไม่มี  เราก็มีนักเตะคนอื่นๆทำหน้าที่แทนอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ต้องพูดอะไรกันให้มากความไปกว่านี้ หลังจากนั่งวิเคราะห์ข้อดีทุกอย่าง รวมถึงความเหมาะสมที่จะนำเขามาเข้าร่วมอยู่ในแผนการสร้างทีมนักเตะอายุน้อยและเติบโตขึ้นไปพร้อมๆกัน

ขอฟันธงตรงนี้เลยว่า Erling Haaland คือนักเตะที่เราสมควรจะทุ่มซื้อตัวมาร่วมทีมอย่างไม่มีข้อสงสัย


หลายคนอาจจะกังขาและกังวลว่า "มันเพิ่งจะโดดเด่นขึ้นมาปีเดียว" แบบว่า เก่งปีเดียวหรือเปล่า และมาเจอกับลีกในอังกฤษจะปรับตัวได้ไหม

คำถามนี้ คือคำถามที่หลายคนเคยตั้งขึ้นในใจมาแล้ว ในตอนที่เรากำลังพยายามจะซื้อ "แฮรี่ เคน" เมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละหากใครติดตามข่าวบ่อยๆและยังจำกันได้ ตอนนั้นเคนยังโดนปรามาสเช่นนั้นเลย แล้วสุดท้ายเป็นไง แมนยูก็แห้วแดกเหมือนเดิม

ดังนั้น กับเคสของ Erling Haaland พูดได้คำเดียวเลยว่า ไม่ต้องลังเลอะไรทั้งนั้น เราขาดกองหน้าตัวเป้าอยู่ หมอนี่แหละเหมาะสมที่สุดด้วยประการทั้งปวง ส่วนเรื่องราคาตามข่าว 86ล้านปอนด์นั้น หากscoutตามดูมานานจริงๆและมั่นใจ รวมถึงโอเล่เองก็ต้องการจะเอามาเข้าแผนแล้วนั้น ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเลย ในเมื่อเรายังเคยล้มเหลวกับนักเตะอย่างลูคาคูกับอเล็กซิสมาแล้ว ราคานี้ถือว่าจิ๊บจ๊อยมากๆ คุ้มที่จะลงทุน แถมโอกาสสำเร็จสูงกว่าสองคนที่ว่านั้นด้วย หากล้มเหลวก็ยังสามารถขายได้อยู่ดีด้วยชื่อเสียงและค่าอายุ..

เอาล่ะ ร่ายมาตั้งขนาดนี้.. ได้เวลาแก้ตัวของมึงแล้วนะเอ็ด

-ศาลาผี-

มันจะไม่มาก็เพราะรูปนี้แหละ -.,-

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด