:::     :::

แพ้ทาง

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
4,596
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มีผู้จัดการทีมอยู่ไม่กี่คนหรอกครับ ที่อาจจะเรียกได้ว่าเจอร์เก้น คลอปป์นั้น "แพ้ทาง" ซึ่ง 1 ในนั้นน่าจะมีผู้ชายที่ชื่อ "คาร์โล อันเชล็อตติ" อยู่ด้วยแน่นอน...



คนคุ้นเคย


          ถ้าไม่นับพรีเมียร์ลีก หนึ่งในทีมที่ลิเวอร์พูลเผชิญหน้าบ่อยมากที่สุดในรอบ 2 ปี ก็น่าจะเป็นนาโปลีนี่แหละครับ นับตั้งแต่ฤดูกาลก่อนมาจนถึงปัจจุบัน พวกเขาเจอกันไปแล้วทั้งหมด 5 ครั้งด้วยกัน เป็นเกมที่เป็นทางการ 4 เกมและเกมอุ่นเครื่องอีก 1 เกม ที่น่าตกใจคือ ใน 5 ครั้งที่เจอกัน ลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์เอาชนะนาโปลีไปได้เพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น  และแพ้ไปถึง 3 ครั้งด้วยกัน ถ้าต้องบอกว่าลิเวอร์พูลแพ้ทางนาโปลีของคาร์โล อันเชล็อตติก็ไม่น่าจะเกินเลยแต่อย่างใด กุนซือที่ประสบการณ์สูงอย่างอันเช่นั้น มีวิธีจัดการกับทีมของคล็อปป์ได้อย่างสบายๆ บางครั้งเขาถึงขั้นทำให้นักเตะลิเวอร์พูล ไปไม่เป็นหรือสู้ไม่ได้ไปเลยทีเดียว อย่างเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล ที่ถล่มแชมป์ยุโรปไป 3-0 ที่ทำให้นักเตะและทีมงานของลิเวอร์พูลต้องเรียกประชุมและปรับทัศนคติกันก่อนเปิดฤดูกาลกันเลยทีเดียว และนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลฟอร์มพุ่งกระฉูดในฤดูกาลนี้ก็ได้ เพราะหลังจากที่พวกเขาได้แชมป์ยุโรป พวกเขาก็ดูจะมั่นใจกันสุดขีดจนบางทีอาจจะรู้สึกว่ากำลังล่องลอยอยู่ในโลกของความฝันหลังจากได้ชูถ้วยหูใหญ่กันมาหมาดๆ  ก็ได้นาโปลีนี่แหละ ที่กระชากพวกเขาลงมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ทำให้พวกเขากลับมาเป็นลิเวอร์พูลที่มุ่งมั่น ทุ่มเท แบบที่เราคุ้นเคยกันแบบที่เห็น





กรรมการปล่อยไหล


          ต้องบอกก่อนเลยว่า นี่ไม่ใช่การอ้างโทษกรรมการที่ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะไม่ได้แต่อย่างที่เห็นกันในเกม คือ กรรมการในเกมนี้ค่อนข้างปล่อยให้เกมนี้ไหลลื่นตลอดและไม่ค่อยเบรคในจังหวะที่ทั้ง 2 ทีมเข้าปะทะกันแบบแรงๆ เท่าไร ทำให้นาโปลีที่เกมนี้มาแบบดุดันเกินคาด งัดลูกหนักออกมาเล่นงานผู้เล่นลิเวอร์พูลกันตลอด ซึ่งก็ทำให้ฟาบินโญ่ที่เป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปตั้งแต่ต้นเกมจากจังหวะการเข้าปะทะอย่างหนักหน่วงของผู้เล่นนาโปลี ซึ่งนั่นก็แย่พออยู่แล้ว แต่พวกเขายังต้องมาเสียประตูแรก จากจังหวะที่ฟาน ไดค์ถูกเข้าปะทะจากเมอร์เท่นส์จนโขยกเขยกแต่กรรมการก็ไม่เป่าฟาล์วแถมเจ้าตัวยังหลุดเดี่ยวไปซัดประตูขึ้นนำอย่างเฉียบขาดอีกต่างหาก จังหวะนี้ถ้าจะว่ากันจริงๆ ก็อาจจะบอกได้ว่า 50/50 นั่นแหละครับ กรรมการสามารถตัดสินใจในมุมไหนก็ได้ เพียงแต่ว่าในจังหวะนี้ กรรมการตัดสินไม่เป็นใจกับลิเวอร์พูลแค่นั้นเอง และนั่นทำให้ลิเวอร์พูลเสียหายหลายเด้งเลยทีเดียว เพราะการจะเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของนาโปลีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างแน่นอน



ตายยาก!

          ลิเวอร์พูลพยายามเจาะแนวรับของนาโปลีอยู่นาน แต่พวกเขาก็ยังทำไม่สำเร็จซะที อาจจะเป็นเพราะว่าเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์เลือกที่จะดร็อปเทรนท์ อาโนลด์ไว้ข้างสนาม ทำให้เกมรุกริมเส้นที่เป็นอาวุธหลักของพวกเขาลดความอันตรายลงไปเยอะ จนทำให้คล็อปป์ต้องเปลี่ยนเกมเอาอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมา และนั่นทำให้กองกลางเจ้าบ้านกลับมาครองเกมเหนือกว่าทันตาเห็น และมีอาวุธการเข้าทำที่หลากหลายกว่าก่อนหน้านี้แบบเห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียว แต่พวกเขาก็ยังไม่คมพอ จนกระทั่งมาได้ประตูจากอาวุธสำคัญของพวกเขาอีกอย่างนึง นั่นคือลูกเซ็ทพีชนั่นเอง และเป็นกองหลังอันดับ 1 ของโลก (ฮา) อย่าง เดยัน ลอฟเรนที่กระโดดโขกเสียบมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาด ซึ่งในจังหวะนี้เมื่อดูจาก VAR ก็จะเห็นว่าลอฟเรนนั้นมีการผลักผู้เล่นของนาโปลีเล็กๆ ก่อนขึ้นโขก แต่กรรมการก็ไม่ถือสาว่าความอะไร เพราะอย่างที่บอกแต่ต้นนั่นแหละ ว่ากรรมการนัดนี้แกปล่อยเกมเหลือเกิน โชคดีที่จังหวะนี้การตัดสินไปเข้าทางหงส์แดงแค่นั้นเอง



ลุ้นนัดสุดท้ายเหมือนเดิม

          หลังจากได้ประตูตีเสมอ ลิเวอร์พูลก็พยายามจะเอาประตูแซงชนะ แต่วันนี้ดูเหมือนเกมรุกของพวกเขาจะไม่ทำงานเอาเสียเลย ทำให้สุดท้ายพวกเขาต้องยอมรับผลเสมอไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายหรือเสียหายแต่อย่างใด ในเกมหน้าพวกเขาต้องการเพียงแค่ผลเสมอ แค่นั้นพวกเขาก็จะลอยลำเข้าสู้รอบต่อไปอย่างแน่นอน เพียงแต่เกมหน้านั้นเป็นการเยือนทีมฟอร์มดีอย่างซัลซ์บวร์กนี่แหละ ทำให้พวกเขาจะประมาทหรือจัดตัวกั๊กๆ แบบเกมนี้ไม่ได้อีกแล้ว จากที่เคยคิดว่าถ้าชนะเกมนี้เกมหน้าก็จะได้พักแบบเต็มๆ กลับกลายเป็นว่าต้องมาลุ้นเครียดจนถึงนัดสุดท้ายเหมือนปีที่แล้วเด๊ะๆ เลย   


    ถึงจะน่าเสียดายที่พลาดโอกาสเข้ารอบแบบแน่นอนไปในเกมนี้ แต่ดูจากสถิติแล้วก็ไม่ถือว่าเลวร้ายมากนักและถ้าสังเกตกันดู รอบแบ่งกลุ่มปีนี้มันคล้ายๆ ปีที่แล้วยังไงยังงั้น  หรือว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยก็ไม่รู้เหมือนกันนะ  ฮรี่ๆ  

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด