หลังลืมตาดูโลกที่เมือง Champigny-sur-Marne ซึ่งตั้งห่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงปารีสลงมา แข้งรายนี้เติบโตมาพร้อมกับความรักในฟุตบอลก่อนจะประสบความสำเร็จในการเป็นเด็กปั้นของ ล็องส์ ทีมทางตอนเหนือของฝรั่งเศส
ที่นั่น เขาพัฒนาผลงานขึ้นมาเรื่อยๆจนในที่สุดแมวมองของ อาร์เซน่อล ไปสะดุดผลงานและจัดการดึงมาปั้นต่อที่เมืองหลวงของอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่ดูเหมือนจะสดใสกลับเจออุปสรรค เพราะอาการบาดเจ็บส่งผลให้แข้งชาวฝรั่งเศสรายนี้ต้องหายหน้าไปจากสนาม และนั่นเหมือนกับการตัดโอกาสโชว์ผลงานในทัพเยาวชนของ เดอะ กันเนอร์ส
อีกปัจจัยที่สำคัญคือการเบียดขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ แม้เขาจะมีโอกาสอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นบอลถ้วยที่ไม่มีผลอะไรกับทีมอยู่แล้ว
ท้ายที่สุด อองเช่ร์ สโมสรในแดนน้ำหอมเล็งเห็นฝีเท้าว่าสามารถพัฒนาต่อไปได้ แม้ว่านักเตะเพิ่งจะหายเจ็บกลับมาและยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ สเตฟาน มูแล็ง มองต่างดึงเด็กหนุ่มรายนี้ไปเสริมทีม
เริ่มแรก อองเช่ร์ ทดลองยืมตัวในช่วงครึ่งฤดูกาลของปี 2018 ซึ่งมันเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สดใสกว่าที่ผ่านมาเพราะเขามีโอกาสลงสนามไปถึง 10 เกม
มันจึงเป็นที่มาของการเจรจาระหว่าง อองเช่ร์ กับ อาร์เซน่อล ถึงการดึงกองกลางรายนี้ไปเล่นในเวที ลีก เอิง ซึ่งท้ายที่สุดสโมสรทางตะวันตกเฉียงเหนือของแดนน้ำหอมก็ประสบผล
เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ของเวที ลีก เอิง และเป็นการประเดิมฤดูกาลแรกอย่างเป็นทางของ ไรน์-อาเดแลด ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นานในการกลายมาเป็นแกนหลักของ อองเช่ร์
ผลงานที่เขาแสดงออกมาคือการเป็นมิดฟิลด์ตัวทำเกมที่สามารถผันตนเองลงไปเชื่อมเกมซึ่งมีประโยชน์กับการเคลื่อนที่ในแดนกลางของ อองเช่ร์ อย่างมาก แม้ผลงานการทำประตูจะต่ำกว่าที่คาดหวัง เพราะตามตำแหน่งเขาที่ อองเช่ร์ คือปีก แต่ในใจของแข้งรายนี้กลับอยากลงสนามในตำแหน่งมิดฟิลด์ ตำแหน่งที่เขาเชื่อว่าจะดึงศักยภาพของตนเองมาได้มากที่สุด
กระนั้นกับผลงานในซีซั่นที่ผ่านมาของแข้งวัย 21 ปี ก็ไปเข้าตาสโมสรยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสอย่าง โอลิมปิก ลียง ที่เริ่มเดินหน้าติดต่อไปยัง อองเช่ร์ ในช่วงที่ฤดูกาลนี้เริ่มต้นไปแล้ว
ว่ากันตามตรง อองเช่ร์ ไม่ได้อยากปล่อยกองกลางตัวเก่งรายนี้ออกมา แต่ด้วยสาเหตุที่นักเตะยืนกรานว่าอยากไปเล่นให้กับ โอแอล เพราะเขาเชื่อว่าปรัชญาฟุตบอลของที่นั่นจะเข้ากับตนเองและช่วยพัฒนาฝีเท้าให้ไปยังอีกระดับ
ท้ายที่สุดกับข้อเสนอที่ อองเช่ร์ ไม่สามารถปฏิเสธได้ ด้วยจำนวนเม็ดเงิน 25 ล้านยูโร บวกกับโบนัส 2.5 ยูโร และส่วนแบ่ง 15 เปอร์เซ็นต์จากการย้ายทีมในอนาคต ทำให้บอร์ดสโมสรต้องปล่อยเพราะข้อเสนอที่ได้รับมามันยากปฏิเสธ
"ผมจะไม่ให้จำนวนเงิน (ค่าตัว) มามีผลกับตนเอง วันนี้ผมมีค่าตัว 25 ล้านยูโร แต่หากพรุ่งนี้ผมลงสนามและทำออกมาไม่ดี มันก็ไม่มีค่าอะไร" แข้งวัย 21 ปีระบุผ่าน เลกิ๊ป หลังจากย้ายไปร่วมทีม โอลิมปิก ลียง
"ผมเลือก ลียง เพราะผมคิดวันมันคือแผนการที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม ผมรู้จักนักเตะจากทีมยู-21หลายคน และนั่นทำให้ผมตัดสินใจง่ายมาก ผมได้คุยกับ ฮุสเซ็ม อาอูอาร์ (กองกลางดาวรุ่งลียง) และถามเขาว่าสโมสรเป็นอย่างไร ซึ่งเขาพูดแต่สิ่งที่ดีออกมา"
"ผมต้องการเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์เสมอ ที่ อองเช่ร์ พวกเขาวางแผนให้ผมเล่นในตำแหน่งปีก ซึ่งผมไม่ได้ทำงานในส่วนนี้มากนักที่ อาร์เซน่อล เหมือนอย่างการทำงานในเกมรับ ผมเป็นนักเตะที่แบกรับความเสี่ยง ที่สามารถครองบอล เล่นกับเพื่อนร่วมทีมและสอดทะลุแนว"
อย่างที่นักเตะได้เรียนไป สิ่งที่เขาปรารถนาคือการลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางที่สามารถขับเคลื่อนเกมจากแดนตนเองไปยังฝั่งตรงข้าม
กระนั้น ด้วยการที่เขาสามารถเล่นได้อย่างยืดหยุ่นทำให้ รูดี้ การ์เซีย เทรนเนอร์โอแอล มีทางเลือกและสามารถปรับใช้งานได้ตามความเหมาะ และสิ่งที่กุนซือคนใหม่ของลียงพยายามพัฒนาและปรับให้ ไรน์-อาเดแลด ดีขึ้นนั่นคือการทำประตูและแอสซิสต์
นั่นคืองานของแข้งวัย 21 ปี ที่สโมสรมองว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาพัฒนาและก้าวไปยังอีกระดับ ซึ่งดูเหมือนว่าการทำงานเริ่มประสบผล
เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกล กับแรงกดดันที่ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรที่ใหญ่กว่าและแรงกดดันรวมไปถึงความคาดหวังที่สูง แต่เชื่อว่า เชฟฟ์ ไรน์-อาเดแลด พร้อมรับมือกับเรื่องนี้
