บทความในวันนี้ย้อนกลับมาสู่เรื่องราวของการปรับปรุงแก้ไขพัฒนาทีมกันอีกครั้ง ซึ่งก็อย่างที่ทราบกัน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีปัญหาค่อนข้างเยอะ หลายจุดหลายเรื่องมากที่น่าเป็นห่วง และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขแทบทั้งสิ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถที่จะเคลียร์ปัญหาทั้งหมดที่ทีมมีได้ภายในระยะเวลาสั้นๆทีสองทีจบด้วยการโยนเม็ดเงินมหาศาลลงไปอย่างเดียว แต่หลายๆปัญหามันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข รวมถึงอาศัยการฝึกซ้อมร่วมกันและปรับเปลี่ยนแทคติกแผนการเล่นด้วย ไม่ใช่ปัญหาแค่การซื้อตัวนักเตะยัดๆเข้ามาในทีมเพียงอย่างเดียว

จะบอกว่า "มันไม่ง่ายเหมือนเกม" ยังไม่ได้เลย เพราะว่าเกมสมัยนี้ก็ไม่ได้เล่นง่ายๆ  อัลกอรึทึมของเกมมันฉลาดมากพอที่จะไม่ยอมให้ทีมที่เอาแต่ซื้อนักเตะเก่งๆเข้ามายัดรวมๆๆๆๆเข้าทีมอย่างเดียวจะชนะได้ง่ายๆอีกต่อไป มันต้องอาศัยแผนการเล่นที่ดีและการสร้างทีมโดยมีทิศทางที่ถูกต้องเท่านั้น ถึงจะเป็นผู้ชนะ

ในบรรดาสารพันปัญหาของทีมนั้น หากจะให้พูดถึงความเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ เมื่อฤดูกาล2019/20 เดินทางมาถึงเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปี ขณะนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเราคือเรื่องของ "กองกลางของทีม"  ที่ต้องบอกว่าเข้าขั้นวิกฤตพอควร เนื่องจากว่าสภาพนักเตะที่มีอยู่ นักเตะที่เจ็บ และปริมาณผู้เล่นมิดฟิลด์ที่พร้อมจะลงสนาม ต้องเรียกได้ว่าแย่หนักมากสำหรับทีมชุดใหญ่ สถานการณ์ปัจจุบันคือ เราเหลือมิดฟิลด์ตัวกลางทีมชุดใหญ่จริงๆเพียงแค่ "คนเดียว" 

ซึ่งซามูไรคนสุดท้ายที่ว่านั้นคือ "Fred"

ชายผู้ซึ่งพยายามพิสูจน์ตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อได้รับโอกาสเขาก็ประคองแดนกลางสนามของเราอย่างขยันขันแข็ง และทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ"อย่างเห็นได้ชัด"ตามลำดับ ..แต่นั่นคือซามูไรคนเดียวที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชามีอยู่ในมือ

แล้วนักเตะคนอื่นๆไปไหนกันหมด ก็อย่างที่ทราบกันว่า ป็อกบาเจ็บยาว แม็คโทมิเนย์ก็เจ็บหายไปหลายสัปดาห์แล้ว เนมันย่า มาติชที่ไม่ฟิต และไม่พร้อมจะลงสนาม ... มิดฟิลด์ตัวจริง 4คน ลงสนามได้แค่คนเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เราจำเป็นต้องเอานักเตะจากแอเรียอื่นๆมาเพื่อถมที่ว่างตรงนี้ จากนักเตะชุดใหญ่ตำแหน่งอื่นด้วย จากดาวรุ่งทีมu-23ด้วย

ตัวเลือกที่เรามีคือ

1.จากทีมชุดใหญ่

1.1 เปเรร่า

แน่นอนว่า อันเดรส เปเรร่า คือคนที่จะถูกใช้งานเป็นมิดฟิลด์กลางสนามก่อนคนแรกเลยจากการที่เขาเล่นกลางสนามได้ .. แต่คำว่า "เล่นได้" ไม่ได้แปลว่า "เล่นดี"  และจริงๆแล้วไอ้หมอนี่ "เล่นไม่ได้" ซะด้วยซ้ำพูดกันตรงๆแบบไม่เกรงใจ  เขาคือนักเตะตัวรุกที่ สกิลด้านรุกก็ไปไม่สุด จะเอาทักษะลงมาเล่นเกมกลางสนาม การเล่นของเขาก็ไม่เอื้ออำนวยอีก ทั้งเรื่องของร่างกายที่เขาไม่สามารถต้านทานเกมปะทะพื้นที่ตรงกลางได้เลย เพียงแค่โดนเกมหนักหรือเกมปะทะก็พร้อมจะเสียบอลง่ายๆทันที และหลายครั้งที่ทำบอลเสียจนทีมต้องตกอยู่ในอันตราย

1.2 ตวนเซเบ้

หากใครจะงงเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่า น้องมันเคยลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับมาอยู่บ้าง และก็อย่างที่เห็นกันว่า เขามีทักษะสกิลในการเล่นกับบอล เป็นกองหลังประเภทBall Playingอยู่แล้ว ดังนั้นนักเตะตัวรับสไตล์นี้มักจะสลับตำแหน่งกันเล่นได้ระหว่างCB กับ DM อย่างที่นักเตะในโลกนี้ทำได้  เอาง่ายๆเลยไม่ต้องไปไหนก็คล้ายๆธนบูรณ์บ้านเรานั่นแหละ ไม่ก็มาสค์ของบาซ่าเป็นต้น  ดังนั้น ตวนเซเบ้จริงๆแล้วถือเป็น "optionเสริมกลางสนาม" ของทีมเรามานานมากแล้วตั้งแต่เขากลับมาจากยืมตัวกับวิลล่า

แต่ไม่เคยถูกส่งลงในตำแหน่งนี้เลย เพราะแผนของโอเล่ไม่ใช้มิดฟิลด์ตัวรับ

2.จากทีมชุดสำรอง

2.1 การ์เนอร์

อีกหนึ่งดาวรุ่งที่มีชื่อติดมากับทีมตัวจริงบ่อยมากในฐานะตัวสำรอง นั่นแปลว่าในสายตาของscoutและทีมโค้ชเราแล้วนั้น การ์เนอร์มีดีพอในระดับหนึ่งที่จะถูกหนีบชื่อติดมาเผื่อฉุกเฉินและสามารถลงเล่นในเกมจริงได้ทันที กับการที่เขาติดชื่อมาบ่อยๆและตอนนี้สถานะก็กึ่งๆจะขึ้นมาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่จริงๆแล้วด้วยซ้ำเพราะลงเล่นลงซ้อมด้วยกันกับตัวจริงตลอด ต่างกันแค่เขายังไม่ค่อยมีโอกาสลงแค่นั้นเอง แต่นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดคนนึงจากทีมสำรอง

และเอาจริงๆในสายตาผู้เขียน เขาควรจะเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่งในการส่งลงไปอุดช่องว่างของแม็คโทมิเนย์ที่เจ็บไปด้วย

2.2 เลวิทท์

การเล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างมีคุณภาพและเนียนตาในเกมจับคู่การ์เนอร์ไปดวลกับAstanaและสามารถคอนโทรลบอลกลางสนามได้อย่างสุดยอดนั้น ถูกแฟนผีโหวตกระจุยกระจายในโพลต่างๆสำหรับดาวรุ่งที่สอบผ่านและอยากเห็นฟอร์มมากที่สุด นี่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และก็เริ่มมีชื่อถูกหนีบติดมากับทีมชุดใหญ่แล้วเรียบร้อยเริ่มจากนัดดวลวิลล่านี้

โอเคว่าแม้มันจะเป็นแมตช์เดียว น้องยังไม่เจอเกมระดับสูงของจริงที่อังกฤษ เด็กมันอาจจะยังไม่พร้อม และไม่ควรถูกฝืนส่งลงไปเร็วเกินควรก็ได้  แต่ในเมื่อเราแทบจะไม่มีตัวเลือกแล้วในแดนกลาง และน้องมันก็เป็น Natural Midfielder เป็นกองกลางธรรมชาติ ทำไมน้องมันจะลงเล่นไม่ได้ล่ะ?

ดังนั้น สรุปโดยรวม นอกจากเฟร็ดแล้วเรามีตัวเลือกที่จะมายืนคู่เขาตอนนี้อยู่4คนนั่นก็คือ เปเรร่า กับ ตวนเซเบ้จากทีมหลัก และ การ์เนอร์ กับเลวิทท์จากชุดสำรอง ให้เดาใจโอเล่ผมว่า เขาคงอยากเลือกนักเตะที่มีประสบการณ์ และเป็นพวกชุดตัวจริงมากกว่าเด็กที่อาจจะเอาไว้เป็นตัวเปลี่ยนตอนท้าย ดังนั้น เปเรร่า และ ตวนเซเบ้ จึงมีภาษีดีกว่าในสายตาโอเล่แน่ๆ

และก็คิดเอาเอง ดูก็รู้เลยว่าสุดท้ายเขาจะส่งใครลง ก็รู้ๆอยู่!

ตัวเลือกอื่นๆที่ตัดทิ้งไปก็มี เช่น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่หลายคนลุ้นว่าจะให้มันเล่นกลางรับหรือกลางต่ำได้นั้น บอกเลยว่าไม่น่าจะรอด ยิ่งในระบบ 4-2-3-1 ของโอเล่  เป็นระบบที่กองกลางสองคนจะไม่มีคนไหนเลยปักหลักอยู่หน้าแผงหลังอย่างเดียว กลางของสูตรนี้จากโอเล่จำเป็นต้องเล่นแบบBox 2 Box ทั้งคู่ คือเกมรับต้องลงต่ำ แต่เมื่อทีมบุก กลางจะต้องเติมขึ้นไปบุกอัดแพ็คอยู่หน้าแผงหลังคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ ดังนั้นลินเดอเลิฟไม่ไหวแน่นอน

ส่วน ลินการ์ด ชอยส์นี้ก็เป็นอีกคนที่ตัดทิ้ง เพราะสกิลและความสามารถก็แทบจะเท่ากับเปเรร่าเป๊ะๆ แต่ที่ด้อยกว่าเปเรร่าอีกคือ ไอ้หมอนี่เล่นกองกลางไม่ได้ ไม่มีทั้งประสบการณ์และความแข็งแกร่ง ก็ตัดทิ้งเช่นกัน

เมื่อทีมที่ขาด"สภาพคล่อง"ของตัวเลือกแดนกลางสนามเช่นนี้ ถือเป็นปัญหาใหญ่หลวงสุดๆจริงๆ เพราะขนาดตัวอยู่ครบๆแดนกลางเราก็ยังขาดความแข็งแกร่งในแง่ของการเล่นอยู่แล้ว ยิ่งตัวเจ็บหายไปเช่นนี้นึกสภาพเอาเองว่า ขนาดเมื่อก่อนน้องแม็คอยู่ในสนามด้วย เรายังเหนื่อยเลย แล้วตอนนี้เหลือแค่เฟร็ด มาเจอกับเกมหนักของจริงจะเป็นเช่นไร 

ยังดีว่าเกมกับวิลล่าจะได้เล่นในบ้าน เราอาจจะครองบอลบุกได้ และบอลไปอยู่ในเท้าของตัวรุกมากหน่อย แต่ในภาคของการต่อบอลกลางสนามไปยังตัวรุกก็ยังจำเป็นอยู่ และเราจะมาหวังให้เฟร็ดแบกคนเดียวมันจะเกินภาระนักเตะมากไป ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาไม่ดีด้วยหากว่าเฟร็ดถูกประกบตายและเล่นไม่ได้ งานเข้าแน่นอน

สิ่งที่โอเล่จะต้องทำมากที่สุดในตอนนี้ มันคือการหาคู่หูที่เหมาะสมมาให้เฟร็ด ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงการทำเพื่อให้ทีมนั้นดีขึ้นอย่างเดียวเพราะตัวเลือกที่มี4ตัว มันยังไม่เพียงพอสำหรับเกมลีกของจริงแน่นอนสำหรับ เปเรร่า ตวนเซเบ้ การ์เนอร์ เลวิทท์ เพราะป็อกแม็คก็ยังไม่กลับมา มาติชก็ไม่พร้อม (ตอนนี้ชื่อยังไม่ติดทีมด้วยซ้ำ)

แต่สิ่งที่โอเล่ต้องทำตอนนี้ก็คือ หาอาวุธคู่กายให้ซามูไรคนสุดท้ายของเขาแบกทีมให้ได้ดีที่สุด

หรือพูดง่ายๆคือ "หาคนซัพให้เฟร็ด" นั่นเอง นั่นคือสิ่งที่ผู้เขียนคิดเอาไว้

เพราะยังไง4คนนี้ก็ยังไม่พร้อมสำหรับเกมใหญ่แล้ว เราอาจจะคาดหวังอะไรไม่ได้มาก อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ เกมกับวิลล่าอาจจะดี แต่เกมถัดไปเจอหนักๆก็อาจจะไม่รอดก็ได้ เราคิดเผื่อไปถึง2-3เกมข้างหน้าด้วยในกรณีที่ ตัวเลือกแดนกลางก็ยังเป็น เฟร็ด-[การ์เนอร์/เลวิทท์/เปเรร่า/ตวนเซเบ้] อยู่เช่นนี้

คำถามคือ แล้วใครจะเป็นคนซัพให้เฟร็ด ดังนั้นสิ่งที่เราจะมองหาคือ สกิลในการคัฟเวอร์ให้เฟร็ด เช่นรองบอล และคอยพยุงต่อบอลไปให้เฟร็ดเป็นคนเริ่มต้นออกบอลสู่ตัวรุก และเป็นคนที่จะไปรับบอลจากแดนต่ำมา และเล่นไม่เสี่ยง

จากสกิลการเล่นบอลจากแนวลึก /ไม่เติมขึ้นสูงมาก / ต่อบอลจากแนวหลังได้ /เล่นบอลง่าย / เอาตัวรอดได้ ในตอนนี้คนๆเดียวที่ "เงื่อนไขเข้าเค้าที่สุดสำหรับการเล่นซัพให้กับFred" มีคนเดียว .. คนคือใครให้ทาย ก่อนจะกดไปอ่านบรรทัดต่อไปลองเดาดู

น้าโอเล่ : ตอบลินการ์ดใช่อ๊ะป่าวววว คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ

ใช่แล้ว เจมส์ การ์เนอร์ คือตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจผู้เขียนที่เหมาะที่สุดแล้วที่จะมาลงเล่นคู่กลางสนาม โดยมีเฟร็ดเป็นจอมทัพในแดนกลาง  หากได้การ์เนอร์ที่เป็นมิดฟิลด์แท้มาเล่นด้วย อย่างน้อยๆเซนส์บอล ลักษณะการเล่น  จังหวะการออกบอลจ่ายบอลให้บอล น่าจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติกว่ารายของ เปเรร่า และ ตวนเซเบ้ ในขณะที่ลักษณะการเล่นที่การ์เนอร์จะยืนปั้นบอลจากพื้นที่ต่ำๆไม่สูงมากนัก ก็จะพอเหมาะกับเฟร็ดที่จะดันขึ้นสูงพอดี อย่างน้อยๆก็มีคนโคฟพื้นที่ให้ และคอยรองบอลส่งต่อให้เฟร็ดเป็นคนเริ่มตั้งบอลบุกนั่นเอง 

ส่วนเปเรร่านั้นหากในสูตรคู่เฟร็ด-การ์เนอร์นี้ เขาเองก็จะได้กลับไปเล่นAMCด้วย ซึ่งมันจะดีกับเปเรร่ามากกว่าเอาลงมายืนCMให้เสียของเช่นนี้

และนี่แหละคือหนทางสุดท้ายในการ "แก้ปัญหาเฉพาะหน้า(ไปก่อน)" ในแดนกลางของแมนยูไนเต็ดตอนนี้ที่ป็อกบา แม็คโทมิเนย์ และมาติชไม่อยู่  เฟร็ดควรได้ยืนบัญชาเกมกลางสนามในฐานะซามูไรคนสุดท้าย ในขณะที่การ์เนอร์ควรเป็น "ชุดเกราะ" ให้กับเฟร็ดที่จะคอยปกป้องและสนับสนุนการออกรบของเขา

เกราะ+7ของFred

นี่คือหนทางที่ดีที่สุดของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาด้วยในการพาทีมผ่านสถานการณ์คับขันของแดนกลางในขณะนี้ให้ได้ นั่นคือการสนับสนุนกองกลางตัวเดียวตัวสุดท้ายของเขาให้ดีที่สุด

เพราะถ้าผลงานไม่ดี "โอเล่" ก็อาจจะ "โดนเด้ง" ในไม่ช้า ตามชะตากรรมเดียวกับพอชและอูนวย

โอเล่จะกลายเป็นโอเด้งหรือไม่ สวรรค์คงจะเริ่มๆสปอยล์ให้เรารู้เร็วๆนี้แหละ

-ศาลาผี-