ถึงเวลานี้เขาระเบิดตาข่ายไปแล้ว 10 ประตู จาก 13 นัดที่ลงเล่นในลีกอิตาลี ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ยิงประตูรวมกันได้มากกว่า ลูกากู เพียงแค่ 9 ลูกเท่านั้น เมื่อนับถึงก่อนที่ทั้งสองทีมจะลงเล่นในสัปดาห์ล่าสุด

    ย้อนกลับไปในช่วงค้าแข้งกับทีมผีแดง ลูกากู แทบจะกลายเป็นตัวตลกในช่วงครึ่งหลังของชีวิตในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    จนถึงทุกวันนี้ เรื่องการจับบอลแรกของเขายังกลายเป็น มีม ที่ถูกล้อเลียนในโลกโซเชียลอยู่เลย ขณะที่ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ก็ดูจะเทอะทะอย่างมากสำหรับฤดูกาลที่สองของเขากับ ยูไนเต็ด ซึ่งเหตุผลก็มากจากการที่ทีมชาติเบลเยียมอยากให้ ลูกากู ตัวใหญ่ขึ้นในการลุยฟุตบอลโลก 2018

    แต่ทั้งหมดนั่นคือความผิดของเขา หรือเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กันแน่

    ???

    ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจว่า ลูกากู ในสีเสื้อผีแดงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครหลายคนเชื่อไว้อย่างนั้นเลย

    สถิติยิงถึง 42 ประตู จาก 96 เกม (28 ประตู จาก 66 เกมลีก) ก็โอเคดีนะ

    ทว่าตัวเลขเหล่านั้นมันอาจน้อยไปหน่อยกับความคาดหวังของใครหลายคนที่คิดว่าค่าตัวระดับ 75 ล้านปอนด์มันน่าจะดีกว่านี้

    เอาเข้าจริง ลูกากู ไม่ควรที่จะถูกนำตัวไปวางในระนาบเดียวกันกับ อเล็กซิส ซานเชซ (5 ประตู จาก 45 เกม) และ ราดาเมล ฟัลเกา (4 ประตู จาก 29 เกม) ที่เรียกได้เต็มปากว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

    บางคนอาจโต้เถียงว่ามาตรฐานของเซเรีย อา ไม่ได้สูงเท่ากับในพรีเมียร์ลีก

    มันอาจเป็นจริง แต่ ลูกากู ก็ยิงได้ตั้ง 17 ลูกให้กับ เวสต์บรอมวิช ในลีกสูงสุดปี 2012-13 และก็หวดได้ถึง 68 เม็ดกับ เอฟเวอร์ตัน ใน 4 ฤดูกาล

    ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมองจากสถิติหัวหอกชาวเบลเยียมตะบันไปแล้ว 113 ประตูในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ก่อนวันเกิดอายุ 26 ปี ซึ่งนั่นไม่มีใครที่สามารถพูดได้เลยว่ามาตรฐานนั้นไม่ดี

    เมื่อคุณมีนักเตะคนหนึ่งที่สามารถยิงประตูได้อย่างอิสระกับทุกทีมยกเว้นเพียงแค่สโมสรเดียว นั่นจะหมายความเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไงล่ะ

    แฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหลายมองว่าทุกคนที่โปรไฟล์สูงอาจจะล้มเหลวเพราะไม่เข้าระบบ ผิดกับ ลูกากู ที่แย่เนื่องจากตัวของเขาเอง

    แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าสภาพแวดล้อมของทีมผีแดงนั้นเอื้อประโยชน์ที่สุดต่อเขาแล้วจริงๆ เหรอ

    ???

    คนส่วนใหญ่ต่างยอมรับว่าบรรยากาศในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงฤดูกาลที่ 3 ในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ นั้นเป็นมลพิษ

    มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฟอร์มของเขาจะดีโดดๆ อยู่คนเดียว หรือมั่นใจอยู่คนเดียว

    ภาษากายของเขาในฤดูกาลที่สองชี้ให้เห็นถึงระดับของการหมดกำลังใจอย่างชัดเจน

    ลูกากู เองก็ไม่ใช่นักเตะประเภทที่สามารถเจิดจรัสกับระบบ หรือสภาพแวดล้อมแบบใดก็ได้ แต่หลักฐานเหล่านั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเขาจะกลายเป็นยอดดาวยิงเมื่ออยู่กับบรรยากาศที่เหมาะสม (ทั้งใน และนอกสนาม)

    ระบบของ อินเตอร์ มิลาน เหมาะสมกับเขารึเปล่าอันนี้ไม่รู้ แต่เทรนเนอร์อย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ นั้นให้ความเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างเต็มที่

    กับกรณีของ ลูกากู นั้นชัดเจนว่าสภาพแวดล้อมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เหมาะสมกับการเค้นศักยภาพของ ลูกากู เลย

    และในตอนนี้มันก็ยังดูไม่เหมาะสมกับใครหน้าไหนทั้งนั้นอีกด้วย

    พาสต้า