:::     :::

จิตแข็ง

วันจันทร์ที่ 02 ธันวาคม 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
4,348
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในเกมที่ผ่านมาลิเวอร์พูลมีอะไรที่ทดสอบจิตใจของพวกเขาหลายอย่างจริงๆ นะครับ และกับผลที่ออกมา ก็น่าจะพอบอกได้แล้วว่า พวกเขาแข็งแกร่งและเติบโตขึ้นมากจริงๆ



สถานการณ์บังคับ

            ก่อนเกมนี้แฟนๆ น่าจะรู้ข่าวกันแล้ว ว่าคู่แข่งคนสำคัญของพวกเขาอย่างแมนฯ ซิตี้ ทำแต้มหล่นจากการที่ทำได้แค่เสมอกับนิวคาสเซิ่ลฯ ทำให้ระยะห่างของพวกเขาทั้งสองทีมจากเดิมที่ห่าง 9 แต้ม จะกลายเป็น 11 แต้มถ้าพวกเขาเอาชนะไบรท์ตันได้ในแอนฟิลด์ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าดูจากชื่อชั้นของทั้งสองทีม นี่ไม่ใช่งานยากอะไรกับการที่ลิเวอร์พูลจะเก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมนี้ได้ เพียงแต่ว่าจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆ มา เราเองก็มักจะเห็นลิเวอร์พูลมาทำแต้มตกหล่นกับสถานการณ์แบบนี้ให้เห็นอยู่บ่อยๆ ดั้งนั้น “มันไม่เคยง่าย” อยู่แล้วสำหรับทีมอย่างลิเวอร์พูล อย่างที่หลายๆ คนเคยเห็นกันนั่นแหละครับ และยิ่งกับเกมนี้ที่พวกเขาขาดกำลังสำคัญอย่าง ฟาบินโญ่ไป ทำให้หลายๆ คนแอบกังวลเหมือนกัน ว่าเกมนี้พวกเขาจะสามารถเก็บแต้มได้จากสถานการณ์แบบนี้หรือเปล่า   

            แต่กับที่เห็นเกมในสนามพวกเขายังสามารถเล่นได้ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และไม่มีประมาทกับคู่แข่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาแต่อย่างใด ถ้าลองสังเกตดูในช่วงหลังๆ มานี้ ลิเวอร์พูลสามารถที่จะเลือกใช้การเพรสซิ่งกับคู่ต่อสู้เป็นนัดๆ ไปและมักจะเลือกได้เหมาะสมเสียด้วยกับการจะเล่นแบบไหน ซึ่งในเกมนี้พวกเขาก็เลือกที่จะกดดันคู่แข่งอย่างไบรท์ตันตั้งแต่แดนหน้าเลย เพราะพวกเขาทำการบ้านมาว่าไบรท์ตันนั้นมักจะค่อยๆ ขึ้นเกมมาจากแดนหลังและไม่ค่อยมีการโยนยาวขึ้นหน้าแบบที่ทีมเล็กๆ ทั่วไปชอบทำกัน ทำให้เกมนี้ช่วงแรกแทบจะเป็นลิเวอร์พูลที่กดดันและนวดไบรท์ตัน อยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำซักที เพราะนัดนี้แม็ต ไรอัน โชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบดีจริงๆ การเซฟของเขาทำให้สถาการณ์ของทั้งสองทีมยังเท่ากันอยู่แม้ว่ารูปเกมจะเป็นของลิเวอร์พูลแทบทั้งหมดแล้วก็ตาม







สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ

            ลิเวอร์พูลพยายามทำเกมรุกอยู่นานแต่ก็ไม่ได้ประตูขึ้นนำเสียที จนกระทั่งเกมเพรสซิ่งของพวกเขาก็ทำให้พวกเขาได้โอกาสขึ้นจากการที่ไปแย่งบอลในแดนของไบรท์ตันได้ จนผู้เล่นไบรท์ตันต้องตัดฟาวล์และเสียฟรีคิกในระยะอันตราย และลูกเซ็ท พีชของลิเวอร์พูลก็แผลงฤทธิ์ให้เราเห็นกันอีกครั้งหนึ่งจากการครอสบอลอันยอดเยี่ยมของเทรนท์ อาโนลด์เข้าไปยังจุดนัดพบให้กับ”บิ๊กเวิร์จ” เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ขึ้นโขกเหน่งๆ เข้าไปทำประตูปลดล๊อกให้ลิเวอร์พูลออกนำไปจนได้ ดูเผินๆ นี่อาจจะเป็นลูกเซ็ท พีชแบบปกติทั่วไป แต่ถ้าดูรายละเอียดในจังหวะนี้นั้น ต้องบอกว่านี่คือลูกสูตรที่ยอดเยี่ยมและทำได้เพอร์เฟกมากจริงๆ ลูกโยนจากเทรนท์นั้นโยนเข้าไปในจุดที่สูงจนผู้เล่นไบรท์ตันขึ้นไม่ถึง แต่ในจุดนั้นเป็นจุดระยะทำการที่ฟาน ไดค์สามารถจู่โจมได้อย่างอิสระซึ่งมันต้องใช้ความแม่นยำและจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะจริงๆ และมันถูกตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเมื่อลิเวอร์พูลได้ประตูที่สองจากจังหวะคล้ายๆ กัน เพียงแต่จังหวะนี้มาจากลูกเตะมุมเท่านั้น มันเหมือนถูกรีเพลย์ภาพช้าในประตูแรกให้เห็นอีกครั้ง ลูกฟุตบอลลอยมาในเสาแรก ผู้เล่นไบรท์ตันพยายามขึ้นโขกสุดตัวแต่ก็ขึ้นไม่ถึง แต่ในจุดนั้นเองก็มีเสียงตะโกน “เวิร์จ!!!!!”  และก็เป็นฟาน ไดค์เดิมที่สามารถขึ้นโขกได้เต็มหัวเสียบตาข่ายได้อย่างยอดเยี่ยม  และกับสถานการณ์ที่รางวัล บัลลงดอร์กำลังจะประกาศในสัปดาห์หน้าแบบนี้ นี่คือการเรียกคะแนนก่อนประกาศผลของฟาน ไดค์ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ



สถานการณ์ดราม่า   

            เกมนี้น่าจะเป็นของลิเวอร์พูลแบบง่ายๆ สบายๆ ไปแล้ว แต่ในเมื่อพวกเขายังทำประตูหนีไปไม่ได้ นั่นก็ทำให้เกมนี้ยังไม่จบเสียทีเดียว และสุดท้ายก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาจนได้ เมื่ออลิสซง เบ็คเกอร์ที่กะจังหวะบอลผิด ออกมาตัดบอลไม่ถึง ทำให้ผู้เล่นไบรท์ตันพยายามกระดกข้ามหัวเขา แต่ในเกมนี้ผู้เล่นทั้งทีมนั้นดูจะพยายามเก็บคลีนชีตให้ได้เหลือเกิน ทำให้อลิสซงยอมแลกกับใบแดงในจังหวะนี้เมื่อเขาจงใจใช้มือป้องกันประตูนอกเขตโทษทำให้จังหวะนี้เขาโดนไล่ออกแบบเถียงไม่ได้เลยจริงๆ แต่จังหวะต่อมา ก็ทำให้เกมนี้มีดราม่าจนได้ เมื่ออาเดรียนที่ลงมาแทนอลิสซงกำลังสั่งเรียกกำแพงเพื่อป้องกันมุมยิงฟรีคิกอยู่ แต่จู่ๆ มาร์ติน แอตกินสันก็เป่าให้เตะฟรีคิกได้ซะอย่างนั้น !!!! ทั้งๆ ที่อาเดรียนยังเกาะเสาประตูอีกฝั่งอยู่ด้วยซ้ำ ทำให้ลูอิส ดังค์ ยิงประตูเข้าไปอย่างง่ายๆ .... ไม่ว่าจะมองมุมไหน ในจังหวะนี้ก็น่าตำหนิผู้ตัดสินอยู่ดี  จริงอยู่ว่ามันไม่ผิดกติกาอะไร และสามารถยิงฟรีคิกได้หลังจากที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่จังหวะนี้มันไม่ใช่จังหวะเล่นเร็ว “ผู้ตัดสินที่ดี” ควรจะดูว่าผู้เล่นเกมรุกและเกมรับอยู่ในสภาพพร้อมเต็มที่หรือยัง ถ้ามองว่านี่คือการถ่วงเวลา จริงๆ ก็สามารถไปให้ใบเหลืองได้ ไม่ใช่มาเป่าให้เล่นทั้งๆ ที่ไม่พร้อมแบบนี้ บางคนอาจจะเอาหลายๆ เหตุผลมาแย้ง เช่น “ตอนเจอบาร์ซ่า เทรนท์ก็เล่นเร็วแบบนี้เหมือนกัน ต้องโทษตัวเองแหละที่ไม่พร้อมเอง” เอาจริงๆ 2 จังหวะนี้มันไม่เหมือนกันเลย แม้แต่นิด .... จังหวะลูกเตะมุมมันไม่ต้องรอเสียงนกหวีดจากผู้ตัดสิน แต่ในจังหวะฟรีคิกแบบนี้ผู้เล่นก็กำลังเตรียมความพร้อมอยู่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาประมาทเลินเล่ออะไรแต่อย่างใด แต่เป็นกรรมการนั่นแหละ ที่อยู่ๆ ก็เป่าให้เล่นแบบไม่มีปีมีขลุ่ย ไม่ว่าจะมองมุมไหนผู้ตัดสินอย่าง มาร์ติน แอตกินสันก็น่าโดนด่าสุดๆ จริงๆ ในการตัดสินครั้งนี้    




   
            และสุดท้ายไม่ว่าสถาการณ์จะบีบคั้นและโดนกดดันมาจากทางไหน สถานการณ์แบบไหน ผู้เล่นลิเวอร์พูลก็รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทีถาโถมมาได้เป็นอย่างดี และก็คงต้องบอกเหมือนกันหลายๆ ครั้งว่า ฤดูกาลนี้พวกเขา “พร้อม” มากจริงๆ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด