:::     :::

ความทะเยอทะยานของเลวานดอฟสกี้

วันพฤหัสบดีที่ 05 ธันวาคม 2562 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,497
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ของ บาเยิร์น มิวนิค มีโอกาสเป็นนักเตะที่ยิงประตูมากสุดของปี 2019 หลังสะสมยอดนำ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ของ บาร์เซโลน่า อยู่ 5 ประตู

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เคยเป็นอันดับ 3 ตามหลัง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากการยิงประตูกับต้นสังกัดและทีมชาติ แต่หัวหอกชาวโปลของ บาเยิร์น มิวนิค ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในปี 2019 ซึ่งใกล้จะสิ้นสุดลงอีกไม่กี่วันและมีโอกาสจบฉากปีนี้ด้วยการเป็นนักเตะที่ทำประตูมากสุด 

เลวานดอฟสกี้ ยิงรวมกัน 51 ประตูจากการลงเล่น 54 เกมกับ บาเยิร์น มิวนิค และ โปแลนด์ ขณะที่ เมสซี่ กระทุ้ง 46 ประตูจากการลงเล่นเท่ากันกับ บาร์เซโลน่า และ อาร์เจนตินา ตามมาห่างๆด้วย ราฮีม สเตอร์ลิง, คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้, อัลเฟรโด้ โมเรโลส, เอริก ซอร์ก้า, เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน, อันดราช ชโปราร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ซาดิโอ มาเน่ 


หัวหอกชาวโปลเป็นหนึ่งในกองหน้าดีที่สุดของวงการลูกหนัง แต่อาจโชคไม่ดีนักที่เกิดร่วมยุคเดียวกับสองโคตรแข้งอย่าง เมสซี่ และ โรนัลโด้ ซึ่งคว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'รวมกัน 11 สมัย ดีสุดของ เลวานดอฟสกี้ คือการคว้าอันดับ 4 ปี 2015 

ดอร์ทมุนด์ จ่ายเงินราว 4.5 ล้านยูโรดึงกองหน้าโนเนมมาจาก เลช พอซนัน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 ก่อน เลวานดอฟสกี้ จะสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ตั้งแต่ซีซั่น 2011-12 จนกระทั่งย้ายมาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 พร้อมการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเป็นระดับโลก จากสรีระ 1.85 เมตร ด้วยสปริงข้อเท้าที่ยอดเยี่ยม, กล้ามเนื้อคอที่แข็งแกร่งและจังหวะการวิ่งทั้งที่เสาแรกและเสาไกลทำให้ดาวยิงชาวโปลเป็นกองหน้าตัวเป้าที่สมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากเทคนิคระดับสูงและความสามารถที่เล่นได้ดีทั้งสองเท้า 

นั่นเป็นคำอธิบายทางพันธุกรรมของครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อของเขา คริซส์ตอฟ เป็นแชมป์ยูโดที่มีชื่อเสียงของประเทศ ขณะที่คุณแม่ของเลวาน อีโวน่า เป็นนักวอลเล่ย์บอลระดับสูง อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้และการกระโดดสู่บุตรชายของพวกเขาด้วย 


เกมที่ บาเยิร์น มิวนิค เปิดสังเวียน'อัลลีอันซ์ อารีน่า'ต้อน ดอร์ทมุนด์ 4-0 เลวานดอฟสกี้ ยิงทีมเก่า 2 ประตู จากการวิ่งโฉบไปที่เสาแรกก่อนโขกตุงตาข่ายเป็นการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ก่อนกองหน้าชาวโปลจะพักบอลด้วยหน้าขาซ้ายจากการเปิดของ โธมัส มุลเลอร์ และสับไกยิงด้วยเท้าขวา ซึ่งเป็นการคอนโทรลบอลและจบอย่างสมบูรณ์แบบ 

เลวานดอฟสกี้ เหมือนได้รับสิทธิพิเศษในการเรียนรู้วิชาลูกหนังจากสองยอดโค้ชอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งช่วยกันนำทีมเสือเหลืองคว้าแชมป์ลีกเมืองเบียร์ 2 สมัยในปี 2011 กับ 2012 ก่อนจะมาทำงานร่วมกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่มิวนิค 

'เป๊ป ทำให้นักเตะทุกคนพัฒนาขึ้น' เลวานดอฟสกี้ กล่าวถึงเทรนเนอร์ชาวกาตาลัน ซีซั่นนี้ กองหน้าชาวโปล ทำผลงานโดดเด่นบนเวทีบุนเดสลีกาหลังกระทุ้ง 16 ประตูจากการลงเล่น 13 เกม ซึ่งมีโอกาสที่จะยิงทำลายสถิติที่อยู่มานานกว่า 47 ปีของ แกร์ด มุลเลอร์ อดีตตำนานลูกหนังของทีมเสือใต้ที่เคยยิง 40 ประตูจากการลงเล่น 34 นัด 


'ผมคิดว่าสถิตินั้นจะอยู่ตลอดไป' คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอทีมเสือใต้พูดถึงสถิติของ มุลเลอร์ ก่อนกล่าวเสริมว่า'โรเบิร์ต จะเป็นคนแรกที่สามารถทำผลงานเทียบเท่า'

ตลอดช่วง 5 ปีครึ่งที่ค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค, เลวานดอฟสกี้ ยิงบนเวทีบุนเดสลีกา 144 ประตูจากการลงสนาม 172 เกม กระทุ้งทุกรายการรวมกัน 218 ประตูจากการลงเล่น 263 นัด 

จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและการสร้างผลงานที่โดดเด่นทำให้ เลวานดอฟสกี้ ตกเป็นเป้าหมายของ เรอัล มาดริด มานานหลายปีและมีโอกาสใกล้เคียงสุดที่จะย้ายซบทีมชุดขาวในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 หลังหัวหอกชาวโปลเลือก ปีนี ซาฮาวี มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนคนใหม่เพื่อดำเนินการในการย้ายไปค้าแข้งกับทัพ'โลส บลังโกส'โดยเฉพาะ 


อย่างไรก็ตาม บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันเสียงแข็งว่าพวกเขาจะไม่ปล่อย เลวานดอฟสกี้ ที่ยังมีสัญญากับทีมเสือใต้จนถึงเดือนมิถุนายน 2023 ออกจากทีม ซึ่งกองหน้าทีมชาติโปแลนด์ยอมรับว่ามันคงสายเกินไปสำหรับการย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด 

'มันสายเกินไปสำหรับผมที่จะเล่นใน เรอัล มาดริด, ผมอายุ 31 ปีแล้ว ผมจะเล่นอีก 2-3 ปีและผมโฟกัสไปที่การคว้าโทรฟี่แชมป์เพื่อ บาเยิร์น ช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่าง ผม และ เรอัล แต่ตอนนี้ผมมีความสุขในมิวนิค ผมเล่นกับหนึ่งในสโมสรดีที่สุดในยุโรป ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทีม ที่นี่ผมมีทุกอย่างที่ผมต้องการ' เลวานดอฟสกี้ เปิดเผยเรื่องข่าวกับทีมชุดขาว 


เลวานดอฟสกี้ เดินทางไปร่วมงานมอบรางวัล'บัลลง ดอร์'ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาได้รับเสียงโหวตอันดับ 8 ขณะที่ เมสซี่ คว้ารางวัลดังกล่าวกลับบ้านเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ปี 2009 แต่ดาวยิงโปลยืนยันว่าไม่รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด

'ผมไม่ได้คาดหวังสูงขนาดนั้น ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกผิดหวัง ผมมีความสุขที่ได้เป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลก มันเป็นเรื่องดีที่จะได้พบพวกเขาในบรรยากาศอื่นมากกว่าบนสนาม ผมยังมีระยะห่างจากรางวัลส่วนตัว' กัปตันทีมชาติโปแลนด์เปิดเผย 


ก่อนจะกล่าวถึง เมสซี่ ที่คว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'สมัยที่ 6 ว่า'แน่นอนว่าเขาเป็นยอดแข้ง ผมพูดได้เพียงว่าของแสดงความยินดีกับเขา'

'มันไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเขา หนึ่งในนักเตะดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น'

'แน่นอนว่า เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่เฉพาะปีที่ผ่านมา แต่เป็นเวลา 10, 15 ปี' กองหน้าทีมเสือใต้กล่าวถึงซุปตาร์บาร์เซโลน่า 


เลวานดอฟสกี้ กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม เขายิง 27 ประตูจากการลงเล่น 21 เกมที่ผ่านมา ซึ่งหัวหอกวัย 31 ปีหวังว่าจะรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเพื่อโอกาสในการประสบความสำเร็จมากขึ้นกับ บาเยิร์น มิวนิค และอาจรวมถึงกับทีมชาติโปแลนด์ที่มีคิวลงทำศึกยูโร 2020 รอบสุดท้ายด้วย 

'ถ้าผมเล่นได้อย่างเฉียบคมต่อเนื่องจนถึงปี 2020 ที่ บาเยิร์น ผมสามารถประสบความสำเร็จมากขึ้น ผมยังอยากทำอะไรบางอย่างกับทีมชาติที่ศึก ยูฟ่า ยูโร 2020 ผมมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่'

นักเตะที่ยิงประตูมากสุดในปี 2019

51 ประตูจาก 54 เกม : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค/โปแลนด์)

46 ประตูจาก 54 เกม : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา)

38 ประตูจาก 56 เกม : ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯซิตี้/อังกฤษ)

37 ประตูจาก 44 เกม : คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ (เปแอสเช/ฝรั่งเศส)

36 ประตูจาก 50 เกม : อัลเฟรโด้ โมเรโลส (เรนเจอร์ส/โคลอมเบีย)

35 ประตูจาก 45 เกม : เอริก ซอร์ก้า (ฟลอร่า/เอสโตเนีย)

35 ประตูจาก 49 เกม : เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน (แมนฯซิตี้/อาร์เจนตินา)

34 ประตูจาก 44 เกม : อันดราช ชโปราร์ (สโลวาน บราติสลาว่า/สโลวีเนีย)

34 ประตูจาก 45 เกม : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส/โปรตุเกส)

34 ประตูจาก 57 เกม : ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล/เซเนกัล)

33 ประตูจาก 45 เกม : คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)

32 ประตูจาก 42 เกม : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส/อังกฤษ)

31 ประตูจาก 45 เกม : แซม คอสโกรฟ (อเบอร์ดีน)

31 ประตูจาก 54 เกม : บรูโน่ แฟร์นานเดส (สปอร์ติ้ง ลิสบอน/โปรตุเกส)

31 ประตูจาก 57 เกม : ดูชาน ทาดิช (อาแจ็กซ์/เซอร์เบีย) 


นักเตะที่ทำประตูมากสุดแต่ละปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 

2018 : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา) 51 ประตูจาก 54 เกม 

2017 : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส/อังกฤษ) 56 ประตูจาก 52 เกม

2016 : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา) 59 ประตูจาก 62 เกม

2015 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด/โปรตุเกส) 57 ประตูจาก 57 เกม

2014 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด/โปรตุเกส) 61 ประตูจาก 60 เกม

2013 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด/โปรตุเกส) 69 ประตูจาก 59 เกม

2012 : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา) 91 ประตูจาก 69 เกม

2011 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด/โปรตุเกส) 60 ประตูจาก 60 เกม

2010 : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา) 60 ประตูจาก 64 เกม

2009 : เอดิน เชโก้ (โวล์ฟสบวร์ก/บอสเนีย) 44 ประตูจาก 55 เกม


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด