วันนั้นคือปฐมบทการเปลี่ยนโลกลูกหนังของ ธีราทร บุญมาทัน ไปตลอดกาล
แบ็กซ้ายหมายเลข 1 ทีมชาติไทย กอบโกยโทรฟี่นับไม่ถ้วนในประเทศ กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เอสซีจี เมืองทองฯ ชูถ้วยไทยลีกไปถึง 5 สมัย เอฟเอคัพ 4 สมัย ลีกคัพ 6 สมัย โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 3 สมัย พระราชทานถ้วย ก. 5 สมัย และ แม่โขงคลับ 2 สมัย
เรียกว่าฉากชีวิต อุ้ม อิ่มเอมกับความสำเร็จจนเป็นเรื่องปกติ
แม้จะมีกราฟชีวิตที่ดี ฝังด้วยความทรงจำลูกหนังมากมายในบ้านเกิด หากแต่สิ่งที่ ธีราทร มีเหมือนพ่อค้าแข้งอาชีพไทยคนอื่นคือ ขอออกไปเดินตามฝันในแดนอาทิตย์อุทัยกับ เจลีก สักครั้ง
กอปรกับช่วงเวลาดังกล่าว คือขวบวัยที่พีกสุดในชีวิตอาชีพนักฟุตบอลของ “อุ้ม” การออกจากบ้านเกิดไปตะบันฝันบนเวทีลูกหนังผืนใหม่ คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว
24 มกราคม 2018 เอสซีจี เมืองทองฯ ตัดสินใจปล่อย ธีราทร ย้ายซบ วิสเซล โกเบ เจ้าบุญทุ่มแห่งจังหวัดเฮียวโงะ ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล
บ้านหลังใหม่ในภูมิภาคคันไซของ “อุ้ม” นอกจากจะพบกับกลิ่นไอลูกหนังที่ต่างจากเดิม เจ้าตัวยังได้เล่นเคียงข้างผู้เล่นระดับโลกอย่าง ลูคัส โพดอลสกี และ อันเดรส อิเนสตา ได้แสดงฝีตีนให้เห็น
แม้จะเป็นเพียงเวลาระยะสั้นแค่ 1 ฤดูกาล แต่ ธีราทร ก็ลงสนามช่วยทีมถึง 35 นัด จากทุกรายการ ทำไป 4 แอสซิสต์ และติดทีมยอดเยี่ยม เจลีก อีก 2 หน
ถนนเจลีกสำหรับ ธีราทร เหมือนจะจบลงเพียงแค่ 365 วัน หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่โกเบ และคล้ายว่าต้องกลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง
แต่เป็น โยโกฮามา เอฟ มารินอส ที่กำลังหาแบ็กซ้ายคนใหม่แทน เรียวสึเกะ ยามานากะ ที่ย้ายไปร่วมทัพ อุราวะ เรดส์ ตัดสินใจยืมตัว ธีราทร มาร่วมทัพ ด้วยสัญญายืมตัวอีก 1 ฤดูกาล
บ้านหลังใหม่ในคานางาวะ ภายใต้การคุมทีมของ อันเก ปอสเตโคกลู เฮดโค้ชเลือดจิงโจ้ ไม่ใช่งานง่ายของ ธีราทร สำหรับการเริ่มต้น การปรับตัวเข้ากับแท็คติกการเล่นทีม คืออุปสรรค จนทำให้ช่วงแรก “อุ้ม” ถูกดรอปเป็นเพียงตัวสำรองบ่อยครั้ง
แต่ท้ายสุดหลัง ล้ม ลุก คลุก คลาน ปรัยตัวสู้กับความกดดันต่าง ๆ จนชนะใจโค้ชได้ ธีราทร กลับมาเป็นตัวหลักใน 11 คนแรกอย่างแข็งขัน และแทบไม่เสียตำแหน่งแบ็กซ้ายไปให้ใครอีก
นอกจากเกมรุกที่ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ดี เกมรับ อุ้ม ยังลงมาช่วยได้หลายหน เป็นส่วนสำคัญอย่างลงตัว กดไป 3 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ ท้ายสุดรางวัลความอดทนส่งให้ อุ้ม กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ที่คว้าแชมป์เจลีก
อย่างที่เกริ่นไป การเปิดประตูไปหาผู้บริหาร เมืองทองฯ วันนั้น จึงพูดได้ว่าเป็นการเปิดประตูใบใหม่ของ ธีราทร
2 ปี สำหรับคนทั่วไป อาจเปลี่ยนใครบางคนได้ไม่มากในการเติบโตชีวิตการงาน
2 ปี สำหรับคนทั่วไป อาจยังทำให้ใครบางคนลืมรักเก่าไม่ได้
แต่ 2 ปีในโลกลูกหนังสำหรับ ธีราทร เปลี่ยนชีวิตเขาไปมากมาย ทั้งการเติบโตทางสรีระร่างกาย การมองโลก ทักษะฟุตบอล และสภาพจิตใจ
แม้ระหว่างทางจะ “ไม่ง่าย” ต้องสู้กับตัวเอง คู่แข่ง หรือคำสบประมาท แต่เมื่อวิ่งฟันฝ่ามาถึง “ปลายทางฝัน”
นี่อาจเป็น 1 วันใน 2 ปี ที่ ธีราทร บุญมาทัน มีความสุขกับมันที่สุด
** ภาพประกอบคอลัมน์ / J.LEAGUE Photo
