ถือเป็นการคว้าชัยที่สำคัญและมาจากทีมหัวตารางซึ่งนอกจากจะทำให้ ปิศาจแดง ได้ 6 แต้มเต็ม แต่มันยังเพิ่มความมั่นใจในทีม และที่สำคัญคืออารมณ์ของแฟนบอลที่หันเหกลับมาในทิศทางที่ดีกว่าที่ผ่านมา

ไม่เพียงจะมีความสุขกับผลการแข่งขัน แต่ผลงานที่นักเตะแสดงออกมาทำให้เหล่าสาวก เร้ด อาร์มี่ พอใจเป็นที่สุด โดยเฉพาะการเล่นเกมรุกที่ดุดันรวดเร็วซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจะได้เห็น

ทั้งสองเกมที่ผ่านมาแนวรุกของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สามารถป่วนแนวรับคู่แข่งได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะเกมครึ่งแรกที่ เอติฮัด สเตเดียม ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าความเร็วของ มาร์คัส แรชฟอร์ด, แดน เจมส์ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จะเล่นงานแผงหลัง เรือใบสีฟ้า จนหัวหมุน

นั่นคือรูปแบบการเล่นที่ โซลชา ต้องการมาโดยตลอด ในการเดินหน้าบุกใส่คู่แข่งและอาศัยความเร็วรวมไปถึงการต่อบอลที่รวดเร็วเพื่อทลายกำแพงของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมันได้ผลดีในสองเกมที่ผ่านมา

ด้วยการเล่นที่ไม่ได้อาศัยจังหวะการเล่นที่มากมายเพียงแต่ใช้ความแน่นอนและถูกจังหวะในการเข้าทำ จึงนำมาซึ่งชัยชนะที่สวยงาม

แต่ ... 

การเล่นแบบนี้เห็นทีจะใช้ได้ในยามที่เจอกับทีมหัวแถวหรือทีมใหญ่เท่านั้น เพราะฝ่ายตรงข้ามเพิ่มเปิดเกมและให้พื้นที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสสวนกลับและอาศัยความเร็วซึ่งเป็นที่เด็ดของพวกเขาเล่นงานคู่แข่ง

หลักฐานเหล่านี้พิสูจน์ได้ชัดเจนกับการดวลกับสโมสรใหญ่ๆ ซึ่งมันเกิดขึ้นตั้งแต่การมาของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ยามเจอกับทีมใหญ่มีชื่อ ปิศาจแดง มักจะทำผลงานได้ดีและทำประตูได้เสมอ สิ่งเหล่านี้ถูกพิสูจน์มาแล้วหลายเกม ทว่าพวกเขากลับมีปัญหาอย่างมากยามเจอกับทีมที่อ่อนชั้นกว่าหรือเกมที่พวกเขาต้องทำเกมบุกใส่ฝ่ายตรงข้าม

หลายครั้งที่ต้องเห็นถึงความไร้จินตนาการในการเปิดแนวรับฝ่ายตรงข้าม บ่อยครั้งที่ต้องอึดอัดกับเกมรุกที่ไม่ปะติดปะต่อและยากเหลือเกินในการทลายแนวรับคู่แข่ง

เชื่อว่าแฟนบอล ปิศาจแดง คงเห็นไม่ต่างกันยามที่ลูกทีมของ โซลชา ต้องเล่นในรังหรือออกไปเยือนทีมเหล่านี้ และนี่คือปัญหาที่ โซลชา พยายามหาทางออกรมไปถึงแก้ไขให้ดีขึ้น ซึ่งตัวกุนซือนอร์เวย์เองก็ทราบดีว่าเป็นงานสำคัญที่เขาและทีมงานต้องเร่งหาทางออก 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปลุกเร้าให้นักเตะรู้สึกเหมือนว่าทุกๆสนามที่พวกเขาลงไปคือเกมสำคัญและเป็นการเล่นเหมือนเกมนัดสุดท้าย ลงสนามไปด้วยจิตใจมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ลงไปพร้อมความเชื่อมั่นในผลงานและการเล่นของทีม

นั่นคือสิ่งที่เราเห็นมาตลอด 2 เกมกับ สเปอร์ส และ ซิตี้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการนำสภาพจิตใจและความเช่นนั้นลงไปในสนามยามที่เจอกับทีมที่เล็กกว่า

เรื่องของสภาพจิตใจและความคิดคือสิ่งที่ผู้จัดการทีมหรือกุนซือต้องค่อยบ่มเพาะและใส่ลงไปในนักเตะ ซึ่งหาดูจากบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมาของ โซลชา เราจะเห็นได้ว่าพัฒนาการของปิศาจแดงดีขึ้นอย่างน่าพอใจ

นักเตะเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของการลงสนาม ความสำคัญของการเล่นเพื่อสโมสร ซึ่งก้าวต่อไปที่ถือว่าสำคัญอย่างมากคือการทำให้ได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆเกมไม่ว่าจะต้องดวลกับใครก็ตาม

"มันเป็นผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เป็นไปตามรูปแบบของผม ผมชอบที่เด็กๆเดินเกมไปข้างหน้า" 

"อาจจะมีหลายครั้งที่เราไม่สามารถเก็บบอลเอาไว้ได้อย่างที่เราควรจะทำ แต่เรากำลังพัฒนาตลอดเวลา และเด็กๆกำลังจดจำกับประสบการณ์ที่ได้รับมา"

ประสบการณ์จากความผิดหวัง จากความผิดพลาดในอดีต เริ่มก่อตัวกลายเป็นบทเรียนที่สำคัญเพื่อให้นักเตะในทีมได้เรียนรู้ ซึ่งถือว่าส่งผลกับทีมเพราะทุกคนเปิดใจและพร้อมพัฒนาตนเองให้ดีกว่าที่ผ่านมา

ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาทำเพื่อตนเองเท่านั้น มันคือการพัฒนาเพื่อก้าวต่อไปของสโมสร เป็นพัฒนาการที่จะทำให้ทีมนี้เติบโตต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น

สิ่งที่ผิดพลาดในอดีตหากเรามองมันว่าคือประสบการณ์และนำมาเรียนรู้แก้ไข เชื่อว่าสิ่งที่ดีกว่าจะตามมา รวมไปพึงการทำงานของ โซลชา และทีมงานที่ยังคงเชื่อมั่นกับการเดินทาวของพวกเขาว่ามาถูกทิศและสมควรจะเป็นเช่นนี้

ก้าวต่อไปที่สำคัญคือการสานต่อการทำงานเช่นนี้ ใส่อารมณ์ความรู้สึกถึงความสำคัญลงไปในทีม เล่นด้วยอารมณ์ที่มั่นคงไม่ว่าจะดวลกับใครก็ตาม จงมองว่าทุกๆเกมคือเกมที่ต้องชนะหากไม่ใช่เพื่อตนเองก็เพื่อคนที่หนุนหลังพวกเขา

โซลชา เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสภาพจิตใจและความรู้สึกเช่นนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ช่วงที่เป็นนักเตะภายใต้การทำงานร่วมกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งมันต่อยอดมาจนถึงในช่วงที่เขามารับงานนายใหญ่ ปิศาจแดง ด้วยตนเอง

อย่างที่เรียนไป งานสำคัญของโซลชานอกจากผลงานในสนามแล้วสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคอการปลูกฝังความคิดของผู้ชนะ ความคิดที่ไม่ย่อท้อและมุ่งมั่นในการคว้าชัย เพราะนี่คือปัจจัยสำคัญของทีมที่จะประสบความสำเร็จ

ในวันที่ทีมเล่นไม่ดี แต่ก็ยังสามารถเอาตัวรอดออกมาได้ด้วยการเอาชนะ นั่นคือสิ่งที่ขาดหายไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

หรืออาจจะรวมไปถึงการรักษาสภาพจิตใจและความมุ่งมั่นในเกมที่ไม่เป็นไปตามที่นักเตะคาดหวัง ในเกมที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ แต่พวกเขาก็ยังคงเดินหน้าบุกจนกระทั่งได้ผลที่ต้องการ

นี่คือสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวและปลูกฝัง เวลาที่ โซลชา ต้องการอย่างมาก ซึ่งอาจจะสวนทางกับปัจจัยภายนอกที่เร่งเร้าอยากให้ทีมกลับมาโดยเร็วที่สุด