:::     :::

9 นักเตะ ที่ผลงานทีมชาติดีกว่าสโมสร

วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
11,002
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การเล่นฟุตบอลมีหลากหลายหน้าที่

การเป็นนักฟุตบอลมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็รับใช้สโมสร และบ้างก็รับใช้ทีมชาติของตัวเอง อย่างไรก็ตาม การเล่นฟุตบอลต่างสถานะ อาจนำมาซึ่งฟอร์มการเล่นที่แตกต่างกัน

ช่วงนี้ เราจะพาไปพบกับ "9 นักเตะ" ที่โชว์ฟอร์มในนามทีมชาติ ยอดเยี่ยมกว่าตอนที่เล่นให้กับสโมสร ผ่านการเลือกของโฟร์โฟร์ทู สื่อฟุตบอลชื่อดังของต่างประเทศ ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้น เราไปติดตามกัน 

เอดูอาร์โด้ วากาส (ทีมชาติชิลี)

ถือเป็นกองหน้าจอมพเนจรรายหนึ่งเลย สำหรับวาร์กาส ที่ลงเล่นมาหลายสโมสร ในหลายประเทศ แม้ว่าผลงานในนามสโมสรจะอยู่ในขั้นไม่น่าพอใจ ทว่าผลงานในนามทีมชาติชิลี กลับยอดเยี่ยมเอามากๆ โดยเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมชาติคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2015 และ 2016 ซึ่งทั้งสองครั้ง เขาจบด้วยการเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ โดยปัจจุบัน เขาลงเล่นในนามทีมชาติแตะหลัก 90 เกม และยิงไป 38 ประตู 


ลูคัส โพดอลสกี้ (ทีมชาติเยอรมัน)

เราอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก หากจะบอกว่าโพดอลสกี้ ล้มเหลวกับการเล่นให้บาเยิร์น มิวนิค กับอาร์เซน่อล รวมถึงการเป็นตำนานของทีมท้องถิ่น ที่เขาเติบโตมาอย่างเอฟซี โคโลญจน์ อย่างไรก็ตาม เขาถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติเยอรมัน ที่ยอดเยี่ยมสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งโพลดี้ ยึดครองสถิติอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของทีม "อินทรีเหล็ก" ทั้งในส่วนของการลงสนาม และการยิงประตู (130 เกม / 49 ประตู) ซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 


อันเจลอส ชาริสเตอัส (ทีมชาติกรีซ)

โชว์ฟอร์มได้เป็นที่น่าจดจำ สำหรับการพาทีมชาติกรีซ คว้าแชมป์ยูโร 2004 โดยเฉพาะการยิงประตูชัยในเกมนัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะทีมชาติโปรตุเกส 1-0 การยิงรวม 25 ประตู ส่งผลให้เขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ของทีมชาติกรีซ ขณะที่ผลงานในระดับสโมสรที่พอจะเป็นรูปธรรมหน่อยคือกับทีมแวร์เดอร์ เบรเมน (แชมป์บุนเดสลีกา กับเดเอฟเบ โพคาล) ขณะที่การเล่นกับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม , เฟเยนูร์ด, เนิร์นแบร์ก, เลเวอร์คูเซ่น และชาลเก้ กลับไม่เป็นที่น่าจดจำ

ฟาบิโอ กรอซโซ่ (ทีมชาติอิตาลี)

เชื่อว่ายังไม่มีใครลืมประตูออกนำนาที 119 ช่วยให้ทีมเอาชนะทีมชาติเยอรมัน ในฟุตบอลโลก 2006 รอบรองชนะเลิศ ก่อนที่พลพรรค "อัซซูรี่" จะก้าวไปเป็นแชมป์เวิลด์ คัพ เป็นผลสำเร็จ โดยเขาที่รับหน้าที่เป็นคนสังหารจุดโทษชี้ชะตาแชมป์เป็นคนสุดท้ายด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาเล่นทีมไม่ใหญ่มาโดยตลอด ก่อนที่หลังจบฟุตบอลโลก เขาจะย้ายไปอินเตอร์ มิลานโอลิมปิก ลียง และยูเวนตุส ตามลำดับ ทว่าชื่อของเขาก็ไม่ค่อยโดดเด่นเท่ากับการเล่นทีมชาติ


อัลยอซ่า อซาโนวิช (ทีมชาติโครเอเชีย)

ถือเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติ ในช่วงปลายยุค 90 เป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ในศึกยูโร 1996 รวมถึงการจบอันดับสาม ในฟุตบอลโลก 1998 ว่ากันว่า เขาอยู่ในระดับความสำคัญที่ใกล้เคียงกับซโวนิเมียร์ โบบัน, โรเบิร์ต โปรซิเน็คกี้, อเล็น บ็อคซิช, ดาวอร์ ซูเคอร์ และโรเบิร์ต ยาร์นี่ แต่ผลงานในระดับสโมสรกลับเงียบไปหน่อย ทั้งการเล่นกับทีมมงต์เปลลิเย่ร์, ดาร์บี้ และนาโปลี 


อันเดอร์ส สเวนส์สัน (ทีมชาติสวีเดน)

ตำนานของทีมชาติสวีเดน ลงสนามในนามทีมชาติ 148 ครั้ง และยิงไป 21 ประตู หนี่งในนั้นคือการยิงใส่ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในศึกฟุตบอลโลก 2002 รวมแล้ว เขาเป็นฟันเฟืองสำคัญของทีมชาติ ผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้ง และยูโร 3 หนด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ผลงานในสนาม เขาลงเล่นทีมไม่ใหญ่มาก ทั้งกับเซาธ์แฮมป์ตัน และทีมที่ปั้นเขามาอย่างเอล์ฟสบอร์ก ที่ผ่านการได้แชมป์ลีก 2 หน

เซรคิโอ โรเมโร่ (ทีมชาติอาร์เจนติน่า)

ฝีไม้ลายมือถือว่ายอดเยี่ยม ปัจจุบัน เขากลายเป็นตัวสำรองกับแมนเชสเตอร ยูไนเต็ด ทว่าในนามทีมชาติอาร์เจนติน่า เขาคือนายทวารตัวหลัก ผ่านการเข้าชิงฟุตบอลโลก 2014 รวมถึงโคปา อเมริกา 2015 และ 2016 สถิติที่น่าสนใจคือ ตลอดกว่าทศวรรษที่ผ่านมา เขามีโอกาสลงสนามในนามทีมชาติ มากกว่าจำนวนนัดที่ลงกับสโมสรเสียอีก


กียาน อซาโมอาห์ (ทีมชาติกาน่า)

นี่คือดาวยิงตลอดกาลของทีมชาติกาน่า จากการยิง 51 ประตู จากการลงสนาม 107 เกม ผลงานที่อยู่ในความทรงจำคือการพาทีมเข้าไปเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลก 2010 ก่อนจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ด้วยการยิงถึง 3 ประตู อย่างไรก็ตาม ผลงานในระดับสโมสรถือว่าไม่สามารถก้าวสู่จุดสูงสุดได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับอูดิเนเซ่, แรนส์, ซันเดอร์แลนด์ สุดท้ายต้องลดระดับลงมาเล่นในลีกเอเชีย 


เมาริซิโอ อิสล่า (ทีมชาติชิลี)

เจ้าตัวมีศักยภาพที่จะก้าวมาเป็นยอดนักเตะระดับโลก เขาแจ้งเกิดกับอูดิเนเซ่ ก่อนจะไปเป็นตัวสำรองที่ยูเวนตุส และถูกผ่องถ่ายไปยังคิวพีอาร์ ขณะที่การค้าแข้งกับโอลิมปิก มาร์กเซย ก็เงียบมาก ทว่าในนามทีมชาติ เขาลงเล่นไปเกินหลัก 100 เกมเป็นที่เรียบร้อย ผ่านประสบการณ์การเล่นฟุตบอลโลก 2 หน นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งในทีมชุดคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2015 และ 2016

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด