ภายในงานเลี้ยงสื่อมวลชน ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท พ่อใหญ่แห่งค่าย "ปราสาทสายฟ้า" หลุดออกจากปากเพียงว่า "ต้องเป็นแชมป์ไทยลีกให้ได้ก่อน" เท่านั้น
ส่วนหนึ่งที่ไม่กล้าออกตัวแรง คงเป็นเพราะผลงานในฤดูกาล 2019 "มือเปล่า" ทุกโทรฟี่
สิ่งที่น่าสนใจคือประธานสโมสร ยังคงเชื่อใจ โบซิดาร์ บันโดวิช ให้คุมทัพต่อ แม้จะซีซั่นจบไปอย่างไม่อภิรมย์นัก เพราะ คุณเนวิน มองว่าปัญหาหลักของ บุรีรัมย์ฯ ภายในปีที่ผ่านมาคือ ผู้เล่นไทยกลายมาแบกทีมแทนตัวต่างชาติ
"กองหน้าต่างชาติพิการแบบนี้ ผู้เล่นโควตาเอเชียเองก็ไม่ได้แตกต่างจากนักเตะไทย" คุณเนวิน กล่าวในงาน ซึ่งเมื่อมองดูจากผลงานแล้ว ผู้เขียนเองเห็นด้วย
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ภาพจำของหลายคนคือมีผู้เล่นต่างชาติเป็น "เดอะแบก" ศักยภาพหรูหรากว่าทีมอื่น แต่ความจริงคือ ดาวซัลโวไทยลีกของ บุรีรัมย์ฯ ในฤดูกาลที่ผ่านมากลับเป็นนักเตะอย่าง สุภโชค สารชาติ ที่ซัดไป 9 ตุง ตามมาด้วย "น้องชาย" อย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา 8 ประตู
ขณะที่นักเตะต่างชาติตัวความหวังอย่าง นาสเซอร์ บาราซิต และ เปโดร จูเนียร์ ทำไปได้เพียง 6 ประตูเท่ากับ อันเดรส ตูเญซ ที่เล่นตำแหน่งกองหลัง (เป็นฤดูกาลแรกที่ไม่มีนักเตะ บุรีรัมย์ ยิงในลีกได้เกิน 10 ประตู)
ส่วนกองกลาง ฮาจิเมะ โฮโซไก แม้จะมีประสบการณ์มากมายในยุโรป ยังไม่สามารถผลิตผลงานได้เท่ากับสมัย โก ซึล-กี และ ยู จุน-ซู อยู่
มากกว่านั้นคือ เมื่อนำผลงานยิงประตูแข้งต่างชาติทั้งหมดในฤดูกาล 2019 ของ บุรีรัมย์ มารวมกันพวกเขาทำได้เพียง 23 ประตู (บาราซิต 6, เปรโดร 6, ตูเญซ 6 ไมกา 1, ปาตินโญ 1, ยอห์นสัน 1, ซวน เชือง 1 และ อิเกรโซ 1)
กลับกันเมื่อย้อนไปฤดูกาล 2018 ดิโอโก ซานโต ทำให้ทีมไปคนเดียวถึง 34 ประตู หรือ ฤดูกาล 2017 ดิโอโก และ ชาคซอน โคเอลโญ ซัดรวมกันไปถึง 60 ประตู
ตัวเลขเหล่านี้บอกถึงมาตรฐานตัวต่างชาติของ บุรีรัมย์ ในปีที่ผ่านมาได้ดี
นับตั้งแต่ปล่อย ดิโอโก ซานโต แลกกับเงินก้อนโตไป "ปราสาทสายฟ้า" ยังไม่สามารถหา "ตัวแทน" ผู้เป็นเครื่องจักรสังหารในแดนหน้าได้เลย ไม่ว่าจะชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหน โปรไฟล์ดี เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก ทั้งหมดต่างนำชื่อมาทิ้งไว้ที่ถิ่นอีสานใต้หมด
แม้จะมีแข้งดาวรุ่งฝีตีนดี ระดับทีมชาติ แต่นั่นยังไม่แกร่งพอที่จะ "ทวงคืนแชมป์" นั่นทำให้ซีซั่นที่จะถึงไม่แปลกที่ บุรีรัมย์ฯ จะพาสเจอไรซ์ผู้เล่นต่างชาติกันใหม่เกือบทั้งหมด
แบร์นาร์โด้ คูเอสตา ดาวยิงวัย 30 ชาวอาเจนไตน์
ริคาร์โด บูเอโน กองหน้าตัวเก๋าบราซิเลียนวัย 32
จอง แจ-ยง มิดฟิลด์ตัวรับ วัย 29 กัปตันทีม โปฮัง สตีลเลอร์สทั้ง 3 คนนี้จะกลายมาเป็นกำลังหลักที่เติมเต็มให้ บุรีรัมย์ ในฤดูกาล 2020 นี่คือไพ่ของ เนวิน ชิดชอบ ในฤดูกาลนี้ที่เปิดมาทวงคืนแชมป์ และสู้ศึก เอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ รอบเพลย์ออฟ
คำถามอยู่ที่ว่าทั้งสามจะเข้ามา "คลิก" ให้ "ปราสาทสายฟ้า" กลับมาน่าเกรงขามตามเดิมได้หรือไม่
เพราะอย่างที่บอกไปแข้งต่างชาติ คือหัวใจสำคัญของทีมมาตลอด ฉะนั้นคนกลุ่มนี้ต้องปรับตัวให้ได้กับแวดล้อมทีม และสร้างความต่างให้ได้มากกว่านักเตะสัญชาติไทยอย่างไร้ข้อแม้
จากสโมสรที่อยู่บนจุดสูงสุดห่วงโซ่ฟุตบอลไทย วันหนึ่งเมื่อร่วงหล่นไป ทำให้ "เนวิน" ต้อง "เนรมิต" และเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง
ส่วนการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะ "ว้าว" หรือ "ว่าว" เหลาคีย์บอร์ดรอชมกัน
