:::     :::

อีกเฮือก กับ "มาโน โพลกิง"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทรู แบงค็อกฯ เป็นหนึ่งในสโมสรที่ใช้เม็ดเงินแต่ละปี ไม่แพ้สโมสรอื่นในไทยลีก

การมีประธานที่พร้อมเปย์ไม่อั้นอย่าง ขจร เจียรวนนท์ ทำให้หน้าตาทีมของ “แข้งเทพ” ในช่วง 4-5 ฤดูกาลหลัง อุดมไปด้วยแข้งดีกรีทีมชาติ รวมถึงผู้เล่นนอกโปรไฟล์ดีอยู่ในทีม

เมื่อรวมกับผลงานในช่วงหลัง นั่นจึงทำให้แบรนด์ของ ทรู แบงค็อกฯ ถูกยกเป็น “บิ๊กทีม” ที่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์มาตลอด แบบที่สื่อเองไม่กล้ากาชื่อทิ้ง

แต่ “ตลกร้าย” ที่หลอกหลอน แบงค็อกฯ มาตลอดคือ เขายังไม่เคยหยิบแชมป์ใด ๆ ได้เลยทั้งสิ้นในรอบ 4-5 ปีหลัง

โทรฟี่บนลีกสูงสุดใบเดียวที่สโมสรคว้าได้คือ แชมป์ไทยลีกเมื่อปี 2006 ในสมัยที่สโมสรยังชื่อ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และไม่มีซุปตาร์ประดับทีมสักคนด้วยซ้ำ

หันไปมองบรรดาบิ๊กทีมรอบข้าง ในรอบ 4-5 ฤดูกาลหลังไม่ว่าจะเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงรายฯ, การท่าเรือ เอฟซี หรือ เอสซีจี เมืองทองฯ ทีมเหล่านี้ต่างพุ่งชนความสำเร็จในแง่ของโทรฟี่แล้วทั้งสิ้น

หากในโลกฟุตบอลที่สโมสรใช้เม็ดเงินทุ่มจ่ายเพื่อ “แลกความสำเร็จ” แบงค็อกฯ อาจเป็นเพียงสโมสรเดียว ที่ยังไม่มีวันนั้น

นั่นทำให้แฟนบียู เริ่มมีเสียงต่อต้านสโมสรแล้วว่า การตีดสินใจให้งาน มาโน โพลกิง ต่อเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน คือสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เขาคือคนที่เก่ง แต่ใช่สำหรับ แบงค็อกฯ หรือเปล่า ?




ย้อนกลับไปช่วงเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา คุณขจร เคยออกแถลงการณ์ผ่านแฟนเพจสโมสร ถึงอนาคตของ มาโน โพลกิง มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นท่านประธานให้เหตุผลที่มีน้ำหนักพอว่า การเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

พร้อมกันนี้จะพิจารณาเฮดโค้ชวัย 43 ปี อีกทีหลังจบฤดูกาล และมีสัญญาใจกันไว้ว่า ถ้าจบซีซั่น มาโน โพลกิง ไม่สามารถพา แบงค็อกฯ หยิบโทรฟี่ใด ๆ ได้เลย ต้องแสดงความรับผิดชอบ

ใช่ ทรู แบงค็อกฯ จบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 ของตาราง ขณะที่ฟุตบอลถ้วย 2 รายการอย่าง เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ก็ไปได้เพียง รอบตัดเชือก และ รอบก่อนรองชนะเลิศ

แต่ตัดภาพมาปัจจุบันขณะ มาโน โพลกิง ยังคงนำคุมทีมซ้อมด้วยความมุ่งมั่นเช่นเดิม

ทุกอย่างในรั้ว “แข้งเทพ” ยังคงเดิม อาจมีเปลี่ยนผ่านบ้าง คงเป็นเพียง โรดริโก สกินเนียร์ นักกายภาพบำบัดบราซิล ที่เจ้าตัวไปคว้ามาทำงานร่วมกัน

ขณะที่การเสริมทัพผู้เล่นในฤดูกาลนี้ ถือว่าเงียบผิดปกติ ต่างจากปีก่อน ๆ เข้าใจว่าทีมเองน่าจะยังยึดแข้งชุดเก่าไว้เกือบหมด และเติมเต็มในจุดที่ต้อง “เกา” เท่านั้น เพราะถึงเวลานี้มีเพียง ฮาจิเมะ โฮโซไก ที่เปิดตัวกับทีมอย่างทางการ

ถึงตรงนี้คนที่น่าจะกดดันกว่าใคร หรือล้มสะดุดไม่ได้อีกแล้วคงเป็น มาโน โพลกิง

ผู้เขียนเชื่อว่านี่อาจเป็น “ความเชื่อใจ” ครั้งสุดท้ายที่ คุณขจร มอบให้กับ มาโน่ กลับกันหากเป็นสโมสรอื่น เชื่อได้เลยว่าเก้าอี้ของเขาจะปลิวไปตั้งแต่ไก่โห่ ทว่าไม่ว่าด้วยเหตุผลใด คุณขจร ยังเลือกให้เขาไปต่อ

แต่หากยังวนลูปเดิม ครั้งนี้คงต้องแยกทางตามวิถีลูกหนังอาชีพแน่นอนแล้ว เกิดขึ้นเร็วหรือช้า ให้ผลงานภาคปฏิบัติ เป็นตัวพิสูจน์

หว่านพืชย่อมหวังผล กับโลกลูกหนังคงเช่นเดียวกัน การเทเม็ดเงินหนัก ๆ มาตลอด 5-6 ปี (แม้อาจจะเป็นเศษเงิน) หากไม่มีความสำเร็จจับต้องได้ให้เชยชม

การเปลี่ยนผ่าน คงไม่ใช่เรื่องแปลก


คำค้นหา : BUFC TrueBangkok Thaileague1
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด