:::     :::

"ผมอยากเล่าที่มาที่ไปชื่อเล่นของผม" Sergio Romero

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,215
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ผู้รักษาประตูมือ1.5ของแมนยูไนเต็ดคนนี้มีชื่อเล่นว่าอะไร มีที่มาที่ไปยังไง และเรื่องราวครอบครัวอันอบอุ่นของเขา นี่คือเรื่องราวที่น่าประทับใจของโกลที่แฟนผีรักที่สุดอีกคนหนึ่ง

-ให้ผมเล่าที่มาชื่อเล่นของผมหน่อยนะ- Sergio Romero

"ผมคิดว่าผมถูกเรียกชื่อเล่นๆว่า Chiquito (ชิกิโต้) หรือว่า Chiqi ซึ่งเป็นภาษาสเปนแปลว่ากระจ้อย จิ๋ว ตั้งแต่วันแรกกับสโมสรเริ่มต้นของผม Racing Club ที่อยู่ในอาร์เจนติน่า คือนักเตะในนั้นมีคนนึงที่ชื่อว่า Lisandro Lopez ได้พูดขึ้นตอนที่ผมเข้าไปอยู่ที่นั่นว่า "นี่นักเตะใหม่ของเรา  เจ้าตัวจิ๋ว[Chiquito] Romero" และนั่นแหละนับแต่นั้นมาทุกคนบนโลกก็รู้จักผมในนาม Chiquito เลย"

Lisandro คนที่ตั้งชื่อเล่นให้กับRomero

"ตอนที่ผมเป็นเด็กผมมีชื่อเล่นอื่นนะ  ในอาร์เจนติน่าเรียกว่าเป็น "ชื่อพิเศษ" ซึ่งที่นั่นผู้คนรู้จักผมตอนที่ผมเล่นให้สโมสรอื่นตอนเด็กๆ ตอนนั้นผมมีชื่อพิเศษว่า Checho (เชโช) แต่ว่า ตั้งแต่ปี2004เรื่อยมามันก็กลายเป็นชิกิโต้ และทุกๆคนก็รู้จักผมในชื่อนั้นแหละรวมถึงเพื่อนร่วมทีมที่นี่ด้วยที่ยูไนเต็ด"

"ไม่แปลกเลยที่นักเตะอย่างฆวน มาต้า กับ อังเดร เอเรร่าจะเรียกชื่อเล่นนี้กับผมซึ่งผมชินแล้ว ซึ่งใครตัวเล็กกว่าผมมากๆ หรือว่าความสูงต่างกันเยอะนั้นผมก็มักจะเรียกพวกเขาว่า "เจ้าเด็กน้อย" เรียกแบบเป็นมิตรหน่อยนะ ดังนั้นพอเป็นแบบนี้ชื่อเล่นผมมันก็ดูธรรมดาๆมากเลย มันไม่ได้กวนใจอะไรผมมากนัก ซึ่งในความเป็นจริงผมชอบนะเวลาใครมาเจอผมแล้วพูดว่า เฮ้ว่าไงชิกิ หรือ ไง ชิกิโต้  มันน่ารักดีนะ"

บอยแบนด์แหลงสแปนิช

"บางทีคุณอาจจะรู้แล้ว ผมมีพี่ชายอยู่สามคน มาร์โก้เป็นคนโตสุด เขาเป็นพ่อคนแล้วและก็ทำงานหนักมาก ถัดมาก็เป็นออสการ์ และเขาก็เป็นคนทำงานหนักด้วยเช่นกัน และพวกเขาอาศัยอยู่ในอาร์เจนติน่า และก็มีลูกๆแล้วเช่นกัน ส่วนดีเอโก้คนถัดมาเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลอาชีพ และเขาสูงที่สุดในบรรดาเราสี่คนเลย สูง2.07เมตร (6ฟุต8นิ้ว) ใช่ ฟังไม่ผิดหรอก 207 เซ็นติเมตรน่ะ!"

"มาร์กอสสูงรองลงมาอยู่ที่ 195เซ็นติเมตร ออสก้าร์มาเป็นอันดับสามที่ 194 เซ็นติเมตร ส่วนผมตัวเล็กสุดในบ้าน สูงแค่ 192 เซ็นแค่นั้นเอง ในความเป็นจริงพวกเรามีสายสัมพันธ์กันใกล้ชิดมากในบรรดาพี่น้อง พวกเรามีอะไรก็พูดคุยบอกกล่าวกันตลอดเวลา ถึงแม้ว่าผมจะมาอาศัยอยู่ในอังกฤษพวกเราก็ยังติดต่อกันเป็นประจำ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตาม เวลาที่แต่ละแมตช์แข่งเสร็จและเป็นนัดที่ผมได้ลง พวกเขาจะโทรมาหาผมและบอกว่า ดูผมลงเล่นแล้วเป็นยังไงบ้าง เขาเห็นอะไร

และตอนที่ผมไม่ได้ลงสนามพวกเขาสงสารผมนะ แต่พี่ๆก็ยังคงหวังว่าผมจะได้โอกาสลงสนามบ้างในไม่ช้า"

Sergio Romero และท่าเดียวกันกับพี่ของเขาในรูปล่างๆถัดลงไป

"ดีเอโก้มีโอกาสได้เล่นบาสเก็ตบอลที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐFlorida ซึ่งเป็นอะไรบางอย่างที่มาร์โก้กับออสก้าร์ไม่ได้มีเรื่องราวแบบนี้ ตอนพวกเรายังเด็กๆ เราอยู่ในอาร์เจนติน่าภาคเหนือในจังหวัด Missiones ในบ้านเกิดของผม"

"แม้ว่าทั้งมาร์โก้กับออสก้าร์จะไม่ได้มีโอกาสอยู่ในเมืองใหญ่ๆที่พวกเขาอาจจะได้โอกาสเล่นกีฬา แต่ว่าดีเอโก้ตอนเขาอายุ16ปีนั้นเขาย้ายไปอยู่เมืองอื่นซึ่งใหญ่กว่า และเป็นเมืองที่มีทีมบาสเก็ตบอลระดับอาชีพอยู่ ดังนั้นดีเอโก้จึงเป็นคนเดียวที่ได้เล่นบาสระดับอาชีพ ในขณะที่มาร์กอสกับออสก้าร์ลงเล่นแค่ระดับสมัครเล่นเท่านั้น"

"พวกเราสี่พี่น้องไม่มีใครชอบความพ่ายแพ้เลย เราเล่นบาสเราก็จะอยู่ข้างเดียวกันหมด บางทีก็เล่นโดยแบ่งกันไปอยู่คนละข้างกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมกระชับมิตรกันระหว่างเพื่อนๆ และไม่มีใครอยากแพ้ ดังนั้นถ้าเวลาเผชิญหน้ากันเองกับพี่น้องของผมตอนพวกเขาอยู่ทีมอื่น และถ้าจำเป็นต้องอัดเขาให้ร่วงผมก็จะทำ เพราะผมอยากชนะ!"


"นั่นคือเรื่องของสภาวะจิตใจของการแข่งขันที่เราแชร์กัน ถ้าพี่ของผมอยู่ข้างเดียวกันและผมจำเป็นต้องป้องกันเขา ผมก็จะกันเขา  เรามีเจตจำนงเพื่อที่จะชนะ แต่ถ้าใครจัดเราสี่พี่น้องอยู่รวมทีมกัน ร่วมกันเพื่อนคนอื่นๆในข้างเดียวกันนี้ คุณจะมีทีมที่เจ๋งมากๆ และเราห้าคนจะแสดงความสามารถในเชิงบาสให้เห็นกันเลยทีเดียว"

"เอาตรงๆเลยนะ ในหมู่ครอบครัวเราสี่คน เป็นออสก้าร์ที่เล่นบาสเก่งที่สุด เขาอ่านเกมขาดหมด แต่ดูดีเอโก้ตอนนี้ เขาพัฒนาขึ้นมาและเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ทักษะทุกอย่างที่เขามีในการเล่นบาส เราทั้งหมดดีใจกับเขามากและผมก็พยายามจะดูเขาเวลาลงเล่นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดี๋ยวนี้หาเกมดูได้ง่ายบนอินเตอร์เน็ต ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาลงเล่นและเราสามารถโทรไปหาได้ตอนนั้นช่วงเช้าๆของวัน ดังที่ผมอาศัยอยู่ในอังกฤษ คุณจะเห็นผมนั่งหน้าคอมไม่ก็ทีวีเสมอ เพื่อที่ผมจะรายงานเขาได้ว่าผมดูเค้าเล่นเป็นยังไงบ้าง"


"เป็นก้าวสำคัญที่ใหญ่มากสำหรับเค้าที่ไปอยู่อเมริกา แต่ว่า ดังที่เขาได้กล่าวเอาไว้กับครอบครัวเราว่า มันเป็นก้าวสำคัญมากๆและเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่สำหรับเค้าที่จะขึ้นไปสู่จุดนั้นของชีวิต เขายังเป็นเด็กหนุ่มน้อยอยู่ ถ้าผมจำไม่ผิดตอนนั้นเขาน่าจะอายุไม่ถึง16เลยมั้ง แต่เขามีโอกาสนั้นแล้ว และกระทั่งพูดภาษาอังกฤษยังไม่ได้เลย พูดได้ก็แค่ภาษาแม่ที่เป็นภาษาสเปนเท่านั้นเอง เขาตอบรับโอกาสอันท้าทายนั้นที่จะย้ายไปอยู่US. เขาเข้าคลาสภาษาอังกฤษเพื่อฝึกพูด และเขาพูดเก่งมากตอนนี้ เก่งกว่าผมอีก เขาทุ่มเทอุทิศตัวเองมาก เพื่อที่จะเล่นบาสของอเมริกา เขาเรียนรู้และพัฒนาอย่างมากในฐานะผู้เล่นกีฬาบาสเก็ตบอล"

"ในบรรดาเรื่องที่ดีที่สุดเหล่านั้น เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วย ดังนั้นเขามีความทรงจำดีๆอย่างมากที่ฟลอริด้าซึ่งที่นั่นมีความหมายกับเขามาก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังมีความทรงจำดีๆที่Jon Morris College เช่นกันที่เป็นสถานที่แรกที่ไปอยู่หลังจากย้ายไปอเมริกาโดยที่ยังพูดภาษาเขาไม่ได้ เขาใช้เวลาอยู่ที่Jon Morrisอยู่สองปี และสามปีกับมหาวิทยาลัยรัฐFlorida สำหรับพวกเราแล้วมันเป็นเรื่องที่ดีมาก และกับความภูมิใจที่สุดก็คือการได้เห็นเขาไปได้ดีที่USนี่แหละ มันเหลือเชื่อมากที่ได้เห็นเขาลงเล่นเกมเหล่านั้นในสีเสื้อของบาสเก็ตบอลอเมริกัน ซึ่งก็เฉกเช่นที่เราเองทุกคนก็ชอบดูกีฬาในอเมริกาอยู่แล้ว มันจึงเป็นความภูมิใจอย่างแท้จริงเลย"

Diego Romero และท่าเดียวกันกับน้องชายของเขาในรูปข้างบนๆ

"ผมได้ไปดูเขาเล่นสดๆด้วย พวกเราไปที่นั่นตอนที่ดีเอโก้เทิร์นโปรและนั่งชมเกมของเขา ในความจริงแล้ววันนัั้นพ่อกับแม่ และพี่น้องทั้งหมดไปดูเขาลงเล่น เหมือนสมัยตอนที่เขาเล่นในเมืองที่ครอบครัวเราอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด ดังนั้นทุกๆเกมที่ดีเอโก้ลงเล่น พวกเราครอบครัวไปดูเขาเสมอ  ตอนที่เราเด็กๆเราไปที่คอร์ทบาสเพื่อดูดีเอโก้เล่นและผมก็ไปตอนที่มีเวลา เพราะวันก่อนหน้าวันแข่งเขา ผมก็ไปด้วยเพื่อช่วยเขาฝึกซ้อม ซ้อมยิงบ้างอะไรบ้างเล็กน้อย หรือว่าบางทีก็ในวันที่เป็นแมตช์เดย์ ผมจะไปตอนช่วงเช้าๆแล้วก็ชู้ตเล่นกับเขานิดๆหน่อยๆ"

"ผมชอบบาสมากๆ เป็นกีฬาที่โปรดปรานอันดับสองรองจากฟุตบอลเลย อย่างน้อยที่สุดในฐานะที่เป็นผู้รักษาประตู ในเรื่องราวที่การเล่นโกลเป็นสิ่งที่ทำให้ผมสนใจในฟุตบอลได้ เวลาที่ผมไปBuenos Airesเพื่อลงเล่นกับRacing Club ผมอายุ15และผมจำได้ว่าอยู่ที่Racingอยู่ประมาณสองเดือนได้ตอนนั้น พ่อโทรเข้าเครื่องมาและพูดว่า โค้ชทีมบาสอาชีพในบ้านเกิดซึ่งเป็นทีมที่พี่ผมเล่นอยู่ Club Gimnasia y Esgrima de Comodoro Rivadavia ได้สอบถามว่าผมจะเริ่มเล่นบาสเก็ตบอลเมื่อไหร่"

"ตอนนั้นพ่อของผมพูดว่า ฟังนะ พวกเขาต้องการตัวลูกไปเล่นบาสที่นั่น แต่ว่าลูกได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตแล้วที่ย้ายไปอยู่เมืองใหญ่อย่างบูเอโนสไอเรสและเล่นฟุตบอลกับRacing Club ดังนั้นมันเป็นการตัดสินใจของลูกนะ และขึ้นอยู่กับลูก ไม่ว่าจะอยากกลับไปเพื่อเล่นบาสที่นั่น หรือจะเดินต่อไปในเส้นทางฟุตบอลก็ตาม"

แน่นอน ผมตัดสินใจที่จะอยู่กับฟุตบอลต่อ


"การจะไปเล่นฟุตบอลเพื่อเป็นผู้รักษาประตูมันก็มีอะไรคล้ายๆกับเล่นบาสหลายอย่างเหมือนกันเช่น โกลจะต้องออกมาเพื่อที่จะตัดบอลโด่งจากลูกครอส โกลจะต้องเล่นโดยใช้มือเหมือนกัน ต้องอ่านทิศทางเคลื่อนที่ของบอลและจังหวะของเกมในช่วงเวลานั้น และนอกจากนี้ยังจะต้องหยุดการเล่นได้เร็วทันทีเหมือนนักเตะoutfieldบนสนาม ดังนั้นมีหลายอย่างมากๆที่พื้นฐานการเล่นบาสมันช่วยผมให้พัฒนาในการเป็นผู้รักษาประตู และพัฒนาการเคลื่อนที่ด้วย"

"ผมไม่เสียใจเลยในการตัดสินใจครั้งนี้ ในขณะที่ก็รู้ดีว่าตัวเองมีความหลงใหลขนาดไหนในการเล่นบาสเก็ตบอล ซึ่งฟุตบอลที่ได้มอบทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้ผมเช่นนี้ ดังนั้นผมจึงมีความสุขมากๆกับการเลือกในครั้งนั้นของตัวเอง"

"ที่ผมได้ตัดสินใจเล่นฟุตบอลต่อ"

-ศาลาผี-


source : https://www.manutd.com/en/printproduct/detail/sergio-romero-explains-why-his-nickname-is-tiny

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด