นั่นคือเรื่องสำคัญโดยเฉพาะนักเตะที่ต้องแบกรับภาระการลงสนาม เพราะมันหมายถึงพวกเขาจะเล่นถึง 18 นัดในรอบ 63 วัน (ซึ่งจะเพิ่มขึ้นไปอีกหากหลุดเข้ารอบที่ 4)
ในมุมของแฟนบอล แน่นอนว่าพวกเขาอยากให้ทีมรักเข้ารอบต่อไปเพื่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ และนั่นคืองานที่ อเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องจัดการในการหมุนเวียนนักเตะตามความเหมาะสมพร้อมกับทำผลงานตามที่แฟนบอลคาดหวัง
เหมือนอย่างเกมที่ดวลกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยปัญหานักเตะกรอบและกรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีอาการป่วยเล่นงาน ส่งผลให้ โซลชา ไม่มีทางเลือกที่ต้องส่งสำรองและดาวรุ่งลงสนามผสมกับแกนหลัก 2-3 ในนัดที่ผ่านมา
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กุนซือชาวนอร์เวย์ต้องปรับนักเตะหลายตำแหน่ง เพราะพวกเขายังคงมีศึกนัดสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรายการ คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศเกมแรกวันอังคารนี้
มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ โซลชา จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญให้เหมาะสม เกมกับ เรือใบสีฟ้า ย่อมสำคัญกว่าการดวลกับทีมหมาป่าจากมิดแลนด์ส เพราะด้วยปัจจัยที่ต้องดวลกับอริร่วมเมือง อีกทั้งมันเป็นเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรกที่เล่นในรัง กุนซือชาวนอร์เวย์จำเป็นที่ต้องเก็บแกนหลักให้พร้อมสำหรับเกมวันอังคารนี้
กระนั้นกลับมีข่าวไม่ดีจากเกม เอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังตัวหลักดันมีอาการเดี้ยงเล่นงาน แม้ว่าบรรดาทีมงานผู้ฝึกสอนพยายามถอดนักเตะออกในช่วงพักครึ่ง แต่กองหลังรายนี้ดื้อดึงลงสนามจนจบเกม
ถือเป็นหนึ่งในข่าวที่ไม่สู้ดีของทัพปิศาจแดงที่ต้องรอลุ้นกันว่า แม็คไกวร์ จะพร้อมรับมือ เรือใบสีฟ้า หรือไม่ เพราะหากไม่พร้อมเราอาจจะได้เห็น ฟิล โจนส์ จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ อีกครั้ง (ตามรายงานเผยว่า เอริค ไบยี่, มาร์กอส โรโฮ และ แอ๊กเซล ตวนเซเบ้ ยังไม่ฟิตเต็ม 100)
นั่นคือเรื่องน่ากังวลของแฟนบอล เรด อาร์มี่ ที่อาจจะได้เห็นสองกองหลังที่ว่าลงสนามรับมือแนวรุก ซิตี้ นอกจากนั้น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ เจสซี่ ลินการ์ด ก็โดนไข้กินไปด้วยทำให้พลาดเกมล่าสุด ก็ยังเป็นอีก 2 รายที่ต้องดูอาการว่าจะดีขึ้นหรือไม่
ในราย ลินการ์ด ไม่ค่อยน่ากังวล เพราะผลงานที่ผ่านมาไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ ผิดกับ มาร์กซิยาล ที่แม้จะลูกผีลูกคน เล่นดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่กับเกมใหญ่เช่นนี้ การมีหัวหอกชาวฝรั่งเศสลงสนามก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สามารถลงไปกดดันแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้ดีกว่า
ส่วนปัญหาที่หนักอกและถือเป็นตำแหน่งที่ดูจะมีปัญหามากที่สุดคงหนีไม่พ้นมิดฟิลด์ตัวกล่าวที่เหลือใช้งานเพียง 3 รายเท่านั้น เพราะ ปอล ป็อกบา กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พักยาวไปแล้ว
จุดนี้คาดว่า เฟร็ด คงกลับมาประจำการตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง หลังจากเป็นเพียงสำรองในเกมที่ดวลกับ วูล์ฟส์ ซึ่งอีกรายที่จะลงสนามก็ต้องเดาว่า โซลชา จะใช้ความเก๋าของ เนมานย่า มาติช หรือ ความสดของ อันเดรียส เปเรยร่า
ยังมีสองดาวรุ่งอย่าง เจมส์ การ์เนอร์ และ ดีแลน เลวิตต์ (ที่เพิ่งหายเจ็บและป่วย) ที่พอเป็นตัวเลือกได้ แต่จากเท่าที่ตามข่าวมาทั้งสองคงไม่มีส่วนกับเกมนี้เพราะ โซลชา ได้วางให้มิดฟิลด์ยังบลัดทั้งสองรายเรียกความฟิตกับทีม ยู-23 ไปก่อน (ซึ่งจะลงสนามดวลกับ เวสต์แฮม ในคืนวันจันทร์นี้)
นั่นคือภาพรวมคร่าวๆ ของสภาพทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนรับมือ เรือใบ ในวันอังคารนี้ ซึ่งเชื่อว่า โซลชา พร้อมจัดทีมที่ดีที่สุดลงสนามเพื่อคว้าผลการแข่งขันที่พวกเขาต้องการก่อนจะออกไปเยือน เอติฮัด ช่วงปลายเดือนนี้
สำหรับแฟนบอล เชื่อว่าจะได้เห็นเกมที่สนุกและมันหยดแน่นอน เพราะทาง ซิตี้ ก็อยากมาล้างอายจากความพ่ายแพ้ในลีก และที่สำคัญพวกเขาก็อยากกุมความได้เปรียบก่อนจะกลับไปเล่นในรังของตนเองเช่นกัน
ด้วยความที่เป็นเพื่อนบ้านที่เห็นหน้าค่าตากันมานาน รวมไปถึงศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ ทำให้เกมนี้คงเดือดไม่แพ้ แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ นัดก่อนๆ และที่สำคัญมันคือการกำหนดชะตาการเข้ารอบชิงชนะเลิศ
