มิเกล อาร์เตต้า พาทีมเฉือนชนะทีมแกร่งจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 ด้วยฟอร์มการเล่นที่แตกต่างกันมากระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลัง

"ครึ่งแรกกับครึ่งหลังมันต่างกันชัดเจน เหมือนเรามี 2 ทีม ใน 32 นาทีแรก เราแย่งบอลชนะได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น"

อาร์เซน่อล ไม่ได้เล่นแย่เพราะการจัดตัว อาร์เตต้า เน้นมากกับรายการนี้เพราะเป็นโอกาสที่จะลุ้นความสำเร็จได้ นอกจากนี้ยังเคยเป็นกัปตันทีมได้แชมป์ในปี 2014 ซึ่งเป็นแชมป์รายการแรกของสโมสรในรอบ 9 ปี นั่นคือความทรงจำที่ดีที่เขาอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้ง

อาร์เตต้า เปลี่ยนทีมเพียง 4 ตำแหน่งจากนัดล่าสุด ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ลูคัส ตอร์เรยร่า, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ และ แบรนด์ เลโน่ ได้โอกาสพักและถูกแทนที่โดย ร็อบ โฮลดิ้ง, รีสส์ เนลสัน, มัตเตโอ เก็นดูซี่ และ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ 

เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์มากทีเดียวเพราะหลายสื่อคาดกันว่ากุนซือมือใหม่จะปรับทีมไม่ต่ำกว่า 8 ตำแหน่ง 

การเล่นยังคงเป็นระบบ 4-2-3-1 โดยที่ถ่าง โซคราตีส ออกไปเล่นเป็นแบ็กขวาจำเป็น คู่เซนเตอร์ใช้ ร็อบ โฮลดิ้ง กับ ดาวิด ลุยซ์ ส่วนแบ็กซ้ายเข็น เซอัด โคลาซินัช ลงเล่นอีกนัด

เมซุต โอซิล ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ มี รีสส์ เนลสัน กับ นิโกล่าส์ เปเป้ ขึ้นริมเส้น มิดฟิลด์คู่กลางใช้ กรานิต ชาคา กับ มัตเตโอ เก็นดูซี่

ส่วน ลีดส์ ยูไนเต็ด ของ มาร์เซโล่ ก็มาแบบผิดพลาดไม่ต่างกันเพราะปรับแค่ 4 ตำแหน่งทั้งที่หลายคนมองว่าเปลี่ยนยกชุดแน่เพราะเน้นในลีกที่มีลุ้นแชมป์มากกว่า

ไม่เพียงการจัดตัวที่เซอร์ไพรส์แต่การเล่นยังทำให้หลายคนคาดไม่ถึงเช่นกันเพราะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าราวกับว่าเป็นทีมระดับพรีเมียรืลีก ขณะที่ อาร์เซน่อล คือทีมจากลีกแชมเปี้ยนชิพ 

ลูกทีมของ บีเอลซ่า ยืนตำแหน่งกันดีมาก ปิดเกมตรงกลางอาร์เซน่อลได้เกือบทุกจังหวะด้วยการให้คนประกบติด ชาคา และ เก็นดูซี่ 

เมื่ออาร์เซน่อล ต่อบอลตรงกลางไม่ได้ เกมรุกก็ขึ้นหน้าลำบาก จังหวะวางยาวขาดความแม่นยำ พอจะออกด้านข้างก็ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก

เปเป้ กับ เนลสัน โดนรุม 2-3 คนตลอดเวลาได้บอล ตัวช่วยอย่าง เซอัด โคลาซินัช สลัดหลุดเติมเกมได้บ้าง แต่ฝั่งขวาอย่าง โซคราตีส ขึ้นไม่ได้เลย 

เมื่อ ลีดส์ สามารถปิดเกมรุกของ อาร์เซน่อล ก็สามารถเล่นเกมรุกของตัวเองได้อย่างที่ต้องการ พวกเขาเปิดฉากลุยทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่ามาเยือนทีมที่อยู่ในลีกสูงกว่าและมีดีกรีเป็นแชมป์รายการนี้มากสุด 13 สมัย

ทีมดังจาก เอลแลนด์ โร้ด เล่นแบบมั่นใจเหลือเกิน มีชีวิตชีวา กล้าทำชิ่ง 1-2 ในพื้นที่สุดท้าย และสามารถเล่นงานแนวรับอาร์เซน่อลได้ทุกทิศทาง

สถิติในครึ่งแรกจึงเป็น ลีดส์ ที่เหนือกว่าชัดเจนทั้งการครองบอล 63 %, ผ่านบอล 289 ครั้ง และได้โอกาสยิง 15 ครั้ง ปล่อยให้อาร์เซน่อลได้ผ่านบอลเพียง 174 ครั้งและโอกาสง้างเท้าส่องหยุมหยิม 3 ครั้งถ้วน 

ลูกน้องของ บีเอลซ่า น่าจะขึ้นนำไปก่อนอย่างมากหากจังหวะจบเฉียบขาดกว่านี้ แต่ทีมปืนใหญ่ก็ต้องขอบคุณ เอมิ มาร์ติเนซ ที่ช่วยเซฟไปหลายครั้ง 

ทีมปืนใหญ่ เป็นรองทุกอย่าง สิ่งเดียวที่เท่ากันคือตัวเลข "0-0" บนสกอร์บอร์ด

ทว่าในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล กลับทำในสิ่งที่ต่างจากครึ่งแรก และต่างจาก 3 นัดแรกในลีกยุค อาร์เตต้า คือสามารถงยกระดับการเล่นได้อย่างที่แฟนบอลต้องการ 

อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ เปิดเผยหลังว่าช่วงพักครึ่ง มิเกล อาร์เตต้า โมโหลูกทีมสุดขีดและจัดหนักไปหลายชุดจนทำให้นักเตะตื่นตัวและฮึดมากขึ้นใน 45 นาทีหลัง

"เขาตะคอกไปหลายครั้ง เขาไม่พอใจเพราะเราเองก็รู้ว่า ลีดส์ จะต้องเล่นแบบนี้ เราไม่ใส่ใจสิ่งที่เขาพูด แต่ครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้น ขอบคุณ รีสส์ (เนลสัน) สำหรับประตู" 

ลากาแซ็ตต์ ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมนัดนี้ มีส่วนในประตูเดียวของเกมจากการเปิดบอลไปติดกองหลังก่อนเด้งเข้าทาง เนลสัน และเขายังได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากบีบีซีด้วย

ขณะที่ อาร์เตต้า ก็ยอมรับว่าผิดหวังผลงานลูกทีมในครึ่งแรกอย่างมาก "ขอบคุณพระเจ้าที่เรารอดมาได้ ผมไม่พอใจเลยกับฟอร์มในครึ่งแรก ถ้าคุณไม่มีความพร้อมที่ดีในการเจอกับ ลีดส์ แล้วล่ะก็ คุณก็จะโดนเล่นงานได้อย่างง่ายดาย"

"ผมได้ดูการเล่นของ ลีดส์ หลายครั้งและพวกเขาก็เล่นงานคู่แข่งในทุกๆ 3 วัน ดีแล้วที่นักเตะของผมได้เรียนรู้และเจอปัญหาเองในสนาม"

"ท้ายที่สุดแล้วเราก็เปลี่ยนทัศนคติ ความมุ่งมั่น และระบบการเล่นในช่วงพักครึ่ง จนทำให้ในครึ่งหลังเราต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง"

หลังถูกเฉ่งยับในพักครึ่ง ผู้เล่นอาร์เซน่อลกลับมาลงเล่นครึ่งหลังในแบบที่ต่างออกไป แต่ละคนขยับตัวเพื่อเปิดพื้นที่ในการจ่ายบอลให้กันและกันมากขึ้น แดนหน้าทำกันเร็ว สลับกับอาศัยความขยันและความสามารถเฉพาะตัวที่ดีกว่าให้เป็นประโยชน์ 

การได้ประตูนำใน 10 นาทีแรกของครึ่งหลังช่วยได้มากเพราะเหมือนทำให้ ลีดส์ เสียขวัญกำลังใจไปเลยเพราะมีโอกาสมากมายแต่ทำไม่ได้ แถมยังมาเสียประตูไปก่อน

สถิติครึ่งแรก และครึ่งหลังที่ต่างกันมาก

อาร์เซนอ่ล เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ โอกาสได้ประตูที่ 2 มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะโดนตีเสมอ ขณะที่ ลีดส์ มีเสียวเป็นระยะจากการเล่นสวนกลับ แต่ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก 

มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ยอมรับหลังเกมว่า "การคอนโทรลเกมก็เปลี่ยนไป ครึ่งแรกเราเพรสซิ่งกองหลังคู่แขงได้และโจมตีรวดเร็ว แต่เราไม่สามารถทำแบบนั้นในครึ่งหลัง"  

จากที่ได้ยิงจนเมื่อยขาในครึ่งแรก ลีดส์ ได้โอกาสอีกเพียง 3 ครั้งในครึ่งหลัง ส่วน อาร์เซน่อล เปลี่ยนจากตัวเลข 3 เป็น 13 หลังใน 45 นาทีสุดท้าย 

อาร์เซน่อล ประคองตัวเข้ารอบจนได้ด้วยการเล่นในครึ่งหลังที่เหมือนเป็นคนละทีม พวกเขาทำให้เห็นถึงทิศทางที่ดีและรู้จักปรับเปลี่ยนความคิดและวิธีการที่ผิดพลาดในครึ่งแรก 

ในแง่ผลการแข่งขัน อาร์เซน่อล ได้ในสิ่งที่ต้องการเพราะเป็นการชนะ 2 นัดติดได้เป็นครั้งแรกในยุค อาร์เตต้า และครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

แต่แน่นอนว่า อาร์เตต้า ได้เห็นอีกปัญหาของทีมที่ต้องหาทางแก้ไขต่อไป การเล่นต้องเต็มร้อยตั้งแต่วินาทีแรกและสม่ำเสมอกว่านี้ 

ไม่ใช่คนละครึ่งก็เหมือนคนละทีม เพราะคงไม่ใล่ทุกครั้งที่สามารถทำครึ่งหลังให้ออกมา "ปัง" แบบนัดนี้ได้