คล็อปป์-โซลชาตั้งไข่
ระบบการเล่นเมื่อรับไม้ต่อจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เมื่อ ต.ค.2015 ที่เวลานั้น ลิเวอร์พูล ยืน 3-5-2 ถูกปรับมาเป็น 4-2-3-1 แผนโปรดของ เจอร์เก้น คล็อปป์
จากนั้นก็ลองมาหลายสูตร แต่ส่วนใหญ่ฤดูกาลแรกที่แอนฟิลด์ใช้ 4-2-3-1 จนจบ
ภาพรวมทีมดูมีปัญหาหลายจุด จบซีซั่นอันดับ 8 ตารางลีก, ชนะแค่ 13 จาก 30 เกมที่ คล็อปป์ กุมบังเหียน
คล็อปป์เมื่อ ต.ค.2015
แม้ฟุตบอลถ้วยสองรายการอย่าง ยูโรปา ลีก กับ ลีก คัพ ทะลุชิงชนะเลิศแต่ก็ได้แค่พระรองไม่มีคนจำ
มาดูที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กันบ้าง รับงานต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ ธ.ค.2018 แล้วปรากฎว่าภาพรวมแจ่มมาก เก็บแต้มมากสุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดในจำนวน 10 นัดแรกที่นั่งเก้าอี้รักษาการ
หรือหากรวมทุกรายการเฮต่อเนื่อง 8 นัด นับเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ยูไนเต็ด
แนวทางการเสริมทัพคล็อปป์-โซลชา
ซัมเมอร์ 2016 คือตลาดรอบที่เป็น เจอร์เก้น มากที่สุด ระดมสรรพกำลังอันได้แก่ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, โฌแอล มาติป, ลอริส คาริอุส และตัวเด็ดคือ ซาดิโอ มาเน่ เสริมความจี๊ดจ๊าดเกมบุกริมเส้นซึ่งขาดไปก่อนนี้
ระบบ 4-3-3 ถูกติดตั้งทันที มาเน่ เล่นกองหน้าทางขวา, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อยู่ทางซ้าย โดยมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เล่นหอกเป้า ท้าดวลกับ อาร์เซน่อล ได้อย่างเมามันส์
มาเน่กองหน้าสายสปีดช่วงแรกเล่นกองหน้าทางขวา
บทสรุปฤดูกาลนั้น 'หงส์แดง' ได้ชื่อว่ารุกจัด แต่ปัญหาเกมรับมีรอยโหว่ต้องแก้ไข - นำมาซึ่งการใช้เงินแก้อาการในซีซั่นถัดมา เพราะเลือกคว้า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มูลค่าสุดแพง 75 ล้านปอนด์ เมื่อ ม.ค.2018
ตัวเลขกลมๆของ คล็อปป์ ในตลาดซัมเมอร์แรกคือ 70 ล้านปอนด์ นับเป็นครึ่งเดียวจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ประเคนแก่ โซลชา เมื่อซัมเมอร์ 2019
3 แข้งอันได้แก่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อารอน วาน-บิสซาก้า และ แดเนี่ยล เจมส์ มัดรวมกันสูงถึง 145 ล้านปอนด์
โซลชาแก้เกมรับอันดับแรก
เทรนเนอร์นอร์วีเจี้ยนต้องรีบอุดเกมรับเพราะปลายซีซั่น 2018-19 เห็นจุดอ่อน เมื่อแข่งหกนัด โดนล่อถึง 13 สกอร์
ต่อมาคือแท็คติค โซลชา มีใช้บ่อยๆ 2 ระบบคือ 4-2-3-1 เวลาเจอบอลเกรดรอง ส่วน 3-5-2 ใช้ประจำตอนดวลคู่แข่งระดับบิ๊ก
แนวทางคือรับให้เหนียว แล้วปล่อยแนวรุกสปีดเร็วโต้กลับใส่คู่แข่ง ซึ่งภาพรวมออกมาได้ผลดี
สถิติการคุมทีมแบบตัว-ต่อ-ตัว
คล็อปป์ เป็นรองเพราะกว่าจะเฮต้องรอถึง 5 นัด ต่างจาก โซลชา ชนะตลอด 6 แมตช์แรก เป็นเหตุให้บอร์ดบริหาร ยูไนเต็ด มอบสัญญาคุมทีมเต็มเวลาในเดือนมีนาคม 2019 หลังจากรักษาการกว่าสามเดือนแล้วเข้าท่า
แต่พอแต่งตั้งฟูลไทม์ โซลชา ก็ฟอร์มตก บทสรุปคือจบอันดับ 6 ในฤดูกาลที่ผ่านมา ตามหลัง ท็อตแน่ม โควตาชปล.ทีมสุดท้าย 5 คะแนน
เปรียบมวย 43 เกมแรกเหมือนกัน
สรุปผลงานตลอดการคุมทีม 43 นัดแรก
โซลชา/แมนฯ ยูไนเต็ด : ชนะ 21, เสมอ 11, แพ้ 11, ยิงได้ 72 - เสีย 50
คล็อปป์/ ลิเวอร์พูล : ชนะ 22, เสมอ 12, แพ้ 9, ยิงได้ 87 - เสีย 54
อนาคตของทั้ง 2 ผจก.ทีม
โซลชา โดนตั้งคำถามว่าคือคำตอบที่ถูกต้องสำหรับสร้าง แมนฯ ยูไนเต็ด ระยะยาวจริงหรือ เพราะผลงานเหมือนวงจรดีไม่สุด เก่งแต่กับทีมใหญ่-เสียท่าทีมเล็ก, รูปแบบการเล่นไม่ดึงดูด และบางครั้งยึดติดการปั้นแข้งอะคาเดมี่ มากเกินไป
คล็อปป์เซ็นสัญญาใหม่ถึง 2024
ส่วน คล็อปป์ เหมือนเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต หลังจากได้แชมป์ ชปล.ไปแล้วหนึ่งใบ ฤดูกาล 2019-20 ลุ้นปลดล็อคแชมป์ลีกที่รอคอยกว่า 3 ทศววรษ
ไม่แปลกใจทำไมกุนซือดอยช์ ได้สัญญาใหม่ถึง มิ.ย.2024
