ด้วยบุคลิกของการเป็นผู้นำ รวมไปถึงผลงานและความมุ่งมั่น โซลชา จึงตกลงมอบตำแหน่งผู้นำทีมให้กับแนวรับวัย 26 ปีไปรัยช่วงต่อจาก แอชลี่ย์ ยัง ที่ย้ายไปร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้นำของทัพ ปีศาจแดง อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหนนี้ถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะมีไม่น้อยที่เชียร์ ดาบิด เด เคอา รับช่วงต่อ และหลายคนก็มองว่ามือกาวชาวสเปนที่อยู่มานานสมควรได้ไปครอง
แต่นั่นคือการตัดสินใจของผู้จัดการทีมที่คลุกคลีกับผู้เล่นอยู่ทุกวัน ซึ่งแน่นอนว่าเขาทราบว่าใครมีบุคลิกและคุณสมบัติที่เหมาะสมในการจะนำทีมคนหนุ่มทีมนี้ต่อไป
หยุดเรื่องราวที่ว่าใครสมควรจะได้ปลอกแขนกันไปดีกว่า เพราะตอนนี้ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว เอาเป็นว่ามาลองอ่านความเห็นของกัปตันทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเขารู้สึกอย่างไรหลังได้รับหน้าที่ทรงเกียรตินี้
แฮร์รี่ คุณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งบนโลกใบนี้ มันทำให้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?
"มันเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่มากที่ได้มาเป็นกัปตันทีมของสโมสรที่ทรงเกียรติแห่งนี้ สำหรับผมมันเป็นความรู้ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังต้องทำงานหนักต่อไป และผมจะทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อไป ทั้งในและนอกสนาม เพื่อให้สโมสรแห่งนี้ประสบความสำเร็จ"
การได้รับความเชื่อใจจากผู้จัดการทีมให้ทำหน้าที่นั้น หลังจากเพิ่งย้ายมาร่วมทีมเพียง 5 หรือ 6 เดือนเท่านั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก ...
"ใช่ ก็อย่างที่คุณพูด ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้เพียง 5 หรือ 6 เดือน และได้รับความเชื่อใจจากเขาที่มาจากช่วงเวลาเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกยอดเยี่ยมอย่างมาก มันทำให้ผมมีความมั่นใจยามลงสนามและทิศทางที่ผมปฏิบัติ ทั้งในและนอกสนามคือสิ่งที่สำคัญโดยเฉพาะในฐานะกัปตันทีม และมันเป็นสิ่งที่ผมมองไปข้างหน้า แต่เหมือนที่ผมเคยพูดไป ระหว่างที่ผมอยู่ที่นี่สิ่งสำคัญคือความสำเร็จของสโมสร"
ฤดูกาลนี้คุณได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมหลายครั้ง แล้วคุณเป็นกัปตันทีมประเภทไหน? คุณเป็นคนที่เน้นการพูดหรือเป็นผู้นำ?
"มันเป็นสิ่งที่เติบโตขึ้นในการเล่นของผมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมพูดคุยในสนามและผมต้องการทำมันมากขึ้น มันเป็นสิ่งที่ผมพยายามพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บางทีคุณสามารถไปถามจากคนอื่น ๆ ได้ ... ผมพูดคุยอย่างมากในสนาม ผมคาดหวังมาตรฐานที่ดีจากทุก ๆ คน และผมต้องการจากนักเตะที่อยู่รอบ ๆ ตัวผมอย่างมาก ผมมั่นใจว่าพวกเขาทุกคนจะถูดแบบเดียวกัน แต่สำหรับผมแล้วมันเกี่ยวกับการสนใจในผลงานของตนเองอย่างเต็มที่ และในตอนนี้ (มันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ผมเริ่มต้น) คือการทำให้มั่นใจว่าทีมประสบความสำเร็จ"
ในช่วงเวลาที่คุณมาอยู่ที่นี่ คุณเริ่มเข้าใจถึงความเป็นอริกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล หรือไม่?
"แน่นอน ผมรู้ถึงความเป็นอริกันตั้งแต่ก่อนจะย้ายมาที่นี่ พวกเขาเป็น 2 สโมสรที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นทีมที่ต่อสู้ในพื้นที่หัวตารางมานานหลายปี มันเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ เกมสำคัญ และมันเป็นหนึ่งในเกมที่เรามองหา"
ครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะใน แอนฟิลด์ เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคุณทำประตู (ตีเสมอให้ เลสเตอร์) ได้ นั่นคือความทรงจำที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณหรือไม่?
"ใช่ ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม การทำประตูที่ แอนฟิลด์ และคว้าผลการแข่งขันในตอนที่ผมอยู่กับ เลสเตอร์ มันเป็นประตูที่สำคัญและเป็นสิ่งที่ผมจำได้ดี มันเป็นสถานที่ที่ยากในการไปเยือน แต่ก็อย่างที่ผมพูดไป เป็นสิ่งที่ผมมองหา"
ประสบการณ์ที่ แอนฟิลด์ เป็นอย่างไร?
"ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงที่ทำผลงานได้ดีและคว้าชัยชนะมาได้มากมาย เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องจากในการต่อกรกับทีมที่แข็งแกร่ง เราเคยเจอกับพวกเขามาแล้วในช่วงต้นฤดูกาล และพวกเรารู้สึกเราว่าจะคว้าชัยมาครอง แม้ว่าผลเสมอจะเป็นผลการแข่งขันที่ยุติธรรมหลังจากเราเสียประตูช่วงท้ายเกม เรารู้ว่าจะเจอบรรยากาศที่น่าพรั่นพรึงในการออกไปเยือน แอนฟิลด์ แต่กองเชียร์ของเราก็ตามไปด้วย และพวกเขาจะร้องเพลงด้วยเสียงที่กึกก้องและภาคภูมิใจ หวังว่าพวกเขาจะมอบบางสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุข"
ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล สิ่งนั้นทำให้คุณมั่นใจก่อนลงสนามในวันอาทิตย์นี้หรือไม่?
"ใช่ มั่นทำให้เรามีความมั่นใจ แต่ในฐานะทีมเรามีความมั่นใจไม่ว่าจะลงเล่นนัดไหนก็ตาม เราเสมอ ลิเวอร์พูล และเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ดังนั้นเรามีความมั่นใจว่าเราสามารถคว้า 3 แต้มไม่ว่าจะเป็นเกมแบบไหน และนั่นคือสิ่งที่เราจะทำในวันอาทิตย์นี้"
กองหน้าทั้ง 3 คนของพวกเขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แล้วจากมุมมองของกองหลัง จะมีความท้าทายมากแค่ไหนในการที่จะดวลกับพวกเขา?
"พวกเขาเป็นชั้นยอด แต่เราก็ต้องดวลกับนักเตะชั้นยอดในพรีเมียร์ลีกทุก ๆ สัปดาห์ พวกเขาทำผลงานยอดเยี่ยมและเล่นประสานกันได้ดีที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งมันยากในการหยุดพวกเขา แต่มันคือความท้าทายที่เรากำลังมองไปถึง และถ้าเราเล่นด้วยทักษะที่ดีที่สุดของเรา เราจัดการกับตัวเองและทีมของเรา ซึ่งผมมั่นใจว่าพวกเขาจะกังวลกับเรื่องนี้"
ฤดูกาลนี้ มาร์คัส, เมสัน และ อ็องโตนี่ ทำประตูรวมกันได้ 39 ลูก ซึ่งมากกว่าแนวรุกทั้ง 3 ของ ลิเวอร์พูล นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพในแนวรุกใช่หรือไม่?
"แน่นอน แนวรุกของเราทำประตูได้มากมายและผมมั่นใจวาสพวกเขาจะนั่งในห้องแต่งตัวและคิดหาวิธีหยุดพวกเรา และเราก็จะพยายามหยุดพวกเขาเช่นกัน มันจะเป็นการดวลของทีมที่ดีของสองทีม ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงที่ดีหลังจากกลับมาคว้าชัยได้ 2 นัด และเรากำลังมองไปถึงเรื่องนั้น"
เราไม่เสียประตูจากการลงเล่น 3 ใน 4 เกมหลังสุด คุณมีความมั่นใจแค่ไหนในการลงเล่นร่วมกับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ รวมไปถึงฟูลแบ็กหนุ่มทั้งสองคนที่กำลังทำผลงานได้ดี?
"เราแก้ปัญหาได้ดีใน 2 เกมหลังและไม่เสียประตู แบรนดอน ได้ลงสนามและทำได้ดีจริงๆ ทาง อารอน ทำได้ดีตลอดฤดูกาลและแข็งแกร่งมาก ผมกับ วิค กำลังทำผลงานร่วมกันและเรากำลังเข้ากันได้ดี เราเริ่มทำความเข้าใจกันจากเกมอื่นๆ ผมคิดว่าในฐานะแนวรับเรามีความแข็งแกร่ง แม้ว่าเราจะเสียประตูมากมายจากลูกตั้งเตะ ดังนั้นเราต้องการปรับในจุดนั้น แต่เราไม่ค่อยเสียโอกาสในเกมและมันเป็นสิ่งที่เราต้องพัฒนาต่อไปและมั่นใจว่าเราจะไปถึงจุดนั้น"
คุณได้ลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทุก ๆ เกม และได้รับบาดเจ็บระหว่างฤดูกาล ทั้งนี้ผู้จัดการกล่าวถึงคุณเป็น "นักรบ" สำหรับคุณแล้วมันสำคัญอย่างไรที่ได้ลงสนามในทุก ๆ เกม แม้ว่าคุณจะไม่ฟิตเต็ม 100 ก็ตาม?
"มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการลงมือทำและเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจอย่างมาก ผมต้องการลงเล่นในทุก ๆ เกม แน่นอนว่าการลงเล่นทุก ๆ นัดในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นเรื่องยากทั้งกับร่างกายและจิตใจ เพราะมันมีหลายเกม โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม และคุณได้เห็นคนอื่น ๆ มีอาการบาดเจ็บ บางครั้งคุณต้องลงเล่นพร้อมอาการเหล่านี้ ต้องระวัง ลงสนาม และผ่านมันไปให้ได้ มันเป็นเรื่องที่สำคัญผมจริงๆ ผมต้องการอยู่ในทีมทุก ๆ เกม ถ้าเป็นไปได้"
