:::     :::

ซูเปอร์เอเย่นต์ "มิโน่ ไรโอล่า"

วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,775
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วงการลูกหนังมีเงินสะพัดมากมายมหาศาล

โดยเฉพาะในแง่ของการซื้อ และขายนักเตะ ที่ราคามีความบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งดูจากการย้ายทีมที่ทำลายสถิติกันมากมาย แน่นอนว่า บุคคลที่เป็นฟันเฟืองสำคัญ และอยู่เบื้องหลังการซื้อขายเหล่านั้น นั่นคือ "เอเย่นต์"

หากเอ่ยถึงหนึ่งในเอเย่นต์ลูกหนัง ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในโลกของฟุตบอล คงหนีไม่พ้นชื่อของ "มิโน่ ไรโอล่า" ที่เป็นซูเปอร์เอเย่นต์ชาวอิตาเลี่ยน

เขามีนักเตะระดับโลกอยู่ในความดูแลอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทาง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ปอล ป็อกบา, มาไธจ์ เดอ ลิกต์, มาริโอ บาโลเตลลี่, มาร์โก แวร์รัตติ, จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ฯลฯ

ช่วงนี้ เราไปดูประวัติความเป็นมาเป็นไปของเขากัน โดยว่ากันว่า นี่คือเอเย่นต์ที่กุนซือดังบางคนเกลียดเข้าไส้ จากการพยายามเล่นสงครามประสาท และปั่นสถานการณ์บางอย่าง แต่สำหรับนักเตะ ที่คือเอเย่นต์ที่หลายคนอยากให้เข้ามาดูแลผลประโยชน์

จากการเปิดเผยของ "ฟอร์บส" ... ปัจจุบันไรโอล่ามีนักเตะที่เป็นลูกค้าอยู่ในมือเกือบ 70 คน ตลอดอาชีพเอเย่นต์ของเขา ผ่านการเซ็นสัญญานักเตะมูลค่ารวมทะลุหลัก 600 ล้านเหรียญฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยส่วนแบ่งในการซื้อขายเหล่านั้น จำนวนเงินเกินกว่า 60 ล้านปอนด์ โดนดูดเข้ากระเป๋าเขาแบบเหนาะๆ

ชื่อของไรโอล่า ถือว่าคร่ำหวอดในวงการเอเย่นต์นักฟุตบอลมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น เขาเกิดที่เมืองซาแลร์โน่ ประเทศอิตาลี ในช่วงปี 1967 หลังจากนั้น ครอบครัวได้ตัดสินใจอพยพไปยังอาเล็ม เมืองเล็กๆที่แทรกตัวอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่งผลให้เขาได้รับสัญชาติดัตช์ โดยปริยาย สถานที่แห่งนั้นเอง ทำให้เขารู้จักกับการทำธุรกิจเป็นครั้งแรก

ครอบครัวของเขา เริ่มต้นจากการเปิดร้านขายพิซซ่า จนสามารถต่อยอด และขยายสาขาออกไปถึง 11 สาขา จากการที่ธุรกิจมีกำไรไหลมาเทมา ทำให้ครอบครัวของเขา กลายเป็นคนมีเงินขึ้นมาในชั่วพริบตา อย่างไรก็ตาม ไรโอล่า ก็ต้องปากกัดตีนถีบ และเริ่มต้นจากศูนย์มาเช่นเดียวกัน

ไรโอล่า เริ่มต้นจากการเป็นเด็กล้างจาน บางครั้งก็สลับหน้าที่ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ ช่วยให้เขาได้เรียนรู้งานจากแง่มุมธุรกิจ จากการที่พบเจอกับลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ ส่งผลให้สามารถพัฒนาด้านการสื่อสารอย่างน่าชื่นชม จนพูดได้หลากหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาฮอลแลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, โปรตุเกส, สเปน, อิตาลี และเยอรมัน 

ในวัยเพียง 19 ปี ไรโอล่า ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว เขาก่อตั้งบริษัทนามว่า "อินเตอร์เมซโซ่" คอยรับหน้าที่ สำหรับการหาช่องทางให้บริษัทจากเนเธอร์แลนด์ เข้าไปทำธุรกิจในอิตาลี พร้อมกันนี้ เขายังเข้าไปจับธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ด้วย ผลสุดท้าย เขานำความรู้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจมาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เขารักมากที่สุดอย่าง "ฟุตบอล"

นอกจากหัวทางด้านการค้าแล้ว เขาเป็นนักศึกษาด้านกฏหมายอีกด้วย ก่อนจะตัดสินใจพักการเรียน เพื่อมารับหน้าที่ประธานฝ่ายเทคนิคของทีมเอฟซี ฮาร์เล็ม จนกระทั่งปี 1992 ไรโอล่า และบริษัทของเขา ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการหันมารับงานด้านฟุตบอลมากขึ้น ในฐานะเอเย่นต์ของนักเตะ ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

งานแรกในชีวิตของไรโอล่า คือการเข้าไปดูแล "ไบรอัน รอย" อดีตดาวรุ่งของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่ย้ายไปร่วมทีม ฟอจจา ในลีกอิตาลี นอกจากรับหน้าที่เอเย่นต์แล้ว เขายังเป็นคนที่ซื้อใจคนเก่งมากด้วย ในกรณีการย้ายทีมของรอย เขายอมลงทุนเดินทางไปใช้ชีวิตกับนักเตะที่อิตาลี กินระยะเวลายาวนาน เกินกว่าครึ่งปีเลยทีเดียว

หลังจากนั้น ไรโอล่า เริ่มที่จะสร้างชื่อ จนกลายเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะในวงการลูกหนังของประเทศอิตาลี หลายการย้ายตัวมากมาย มีเขาเป็นเบื้องหลังสำคัญ หนึ่งในนั้นคือ "พาเวล เนดเวด" ที่โยกย้ายทีมจากลาซิโอ มายัง ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวมหาศาลในช่วงเวลานั้น ประมาณ 41 ล้านยูโร

สถิติที่น่าสนใจบอกว่า ลูกค้าที่ ไรโอล่า สามารถกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าของตัวเองมากที่สุด นั่นคือ "ซลาตัน อิบราฮิโมวิช" ที่การย้ายทีมรวมกันทุกครั้ง ทะลุหลัก 100 กว่าล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อย

นี่ยังไม่รวมในรายของ "ปอล ป็อกบา" ที่เขากลายเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ ให้นักเตะย้ายหนีจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อมาร่วมทีมยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว ก่อนย้ายกลับมาถิ่นเดิม ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในเวลานั้น ที่ราว 105 ล้านยูโร นี่คือเหตุผลที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของ "ปีศาจแดง" เกลียดเขาอย่างเข้าไส้

ไรโอล่า บอกว่า หลักการทำงานของเขาง่ายมาก นั่นคือการให้นักเตะเข้าถึงขีดจำกัดด้านความสามารถของตัวเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การสบประมาทซลาตัน โดยบอกตั้งแต่การเจอหน้าครั้งแรกว่า ซลาตัน เป็นกองหน้าที่อ่อนด้อยเรื่องการยิงประตู และมีสถิติที่ห่วยแตก จนอดีตดาวยิงทีมชาติสวีเดน ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่ดีขึ้น จนสามารถก้าวมาเป็นหนึ่งในยอดกองหน้าตัวเป้าของโลกใบนี้

ไรโอล่า ทิ้งท้ายถึงปรัชญาการทำงานว่า เขาทำการส่งต่อแนวความคิดจากนักเตะภายใต้ความดูแลเป็นทอดไป โดยกล่าวว่า สิ่งที่เขาเรียนรู้จาก พาเวล เน็ดเวด เขาจะส่งต่อให้ ซลาตัน ก่อนที่ สิ่งที่เขาเรียนรู้จาก ซลาตัน เขาก็สอนให้กับป็อกบา ซึ่งไรโอล่า บอกว่านักเตะที่มีเขาเป็นเอเย่นต์ จะมีทัศนคติที่มีแต่คำว่า ชนะ ชนะ และชนะเท่านั้น

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด