:::     :::

10 Candidates DOF ที่ยูไนเต็ดควรจ้างมาทำงานอย่างแรง

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
4,403
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การซื้อขายที่พังพินาศตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะสามารถแก้ไขให้มีทิศทางที่แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทันที หากแมนยูแต่งตั้งDOFขึ้นมาสำเร็จ

มากพอๆกับการที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นถวิลหาการจากไปของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชื่อของเดวิด กิลล์ก็ควรที่จะถูกกล่าวถึงด้วยมากเช่นกันในสภาวะสโมสรเช่นนี้..

มือขวาของเฟอร์กี้ผู้นี้ กิลล์ลาออกจากการเป็นChief Executiveในปี2013 และยูไนเต็ดก็แทบจะเสียเปรียบในตลาดนักเตะตลอดเวลาทำการซื้อขายนับตั้งแต่นั้น ซึ่งในตลาดที่บ้าคลั่งรุนแรงของยุคสมัยนี้ มันจึงเป็นเวลาที่สโมสรต้องตามยุคสมัยใหม่นี้ให้ทันโดยการแต่งตั้งผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ (หรือที่เราเรียกสั้นๆติดปากว่าDOF หรือ director of football) และนี่คือสิบรายชื่อแคนดิเดทผู้เป็นตัวเลือกที่สโมสรควรพิจารณา


1.Edwin van der Sar

ง่ายๆเลย นี่ตำนานแมนยูผู้ซึ่งเซฟจุดโทษในแชมเปี้ยนส์ลีก2008ที่มอสโคว และทำให้เราได้ชูถ้วยแชมป์ยุโรปสมัยที่3ได้สำเร็จ รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกถึง4สมัยกลับมาสู่โอลด์แทรฟฟอร์ด หนึ่งในโกลที่เก่งที่สุดคนนึงตลอดประวัติศาสตร์ฟุตบอลของโลกนี้  ดัตช์แมนผู้นี้ปัจจุบันกลับไปอยู่ที่อัมสเตอร์ดัม สโมสรในวัยเด็กของเขาที่อาแจ็กซ์ในฐานะ CEO

ฟานเดอร์ซาร์เป็นผู้ดูแลเด็กรุ่นใหม่เจนใหม่ของอาแจ็กซ์ขึ้นมาอย่างเช่น แฟรงกี้เดอยอง หรือดอนนี่ฟานเดอบีค กองกลางที่เพิ่งรีวิวไป ฟานเดอซาร์ทำให้สโมสรของเขาแข็งแกร่งอย่างมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวในการสร้างนักตะยังบลัดที่แข็งแกร่งขึ้นมาเอง และนี่คือสิ่งที่แฟนปีศาจแดงคงอยากจะเห็นอะไรแบบนี้เข้ามาที่แมนเชสเตอร์

น้าซาร์เพิ่งจะเซ็นสัญญาใหม่กับอาแจ็กซ์ไป แต่โอกาสในการปลุกผีแมนยูขึ้นมาก็น่าสนใจสำหรับเขาในฐานะแคนดิเดทที่เด่นมากๆคนนึงในตำแหน่งนี้กับแมนยูซึ่งจะช่วยได้มากกับการที่เขาทำงานเป็น marketing director (ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด) มาก่อนซึ่งเป็นสิ่งที่แมนยูกำลังตามหาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา


2.Paul Mitchell

พอล มิทเชลเป็นมิดฟิลด์ที่เคยเล่นให้กับวีแกน และเอ็มเคดอนส์ ถูกยืมตัวห้าครั้งในช่วงอาชีพของเขา แถมยังไม่เคยยิงประตูได้เลยก็ตามที แต่หลังจากแขวนสตั๊ด งานของเขาน่าสนใจมาก

มิทเชลในเริ่มแรกมาเป็นหัวหน้ารีครูทที่เอ็มเคดอนส์ก่อนที่เซาธ์แธมตันจะมาแย่งตัวไป เขาติดตามเมาริซิโอ พอเช็ตติโนไปที่สเปอร์ด้วยและเป็นหัวหอกในการนำเซ็นนักเตะอย่าง เดเล่ อัลลี่ คีราน ทริปเปียร์ นาธาเนียล ไคลน์ และโทบี้ อัลเดอไวเรลด์ทั้งหมดนี้ ในช่วงที่เขาทำงานกับสนามพรีเมียร์ลีก

หลังจากที่ความสัมพันธ์กับประธานสโมสรอย่าง แดเนียล เลวี่แย่ลง มิทเชลย้ายไปทำงานกับ RB Leipzig ดูแลเรื่องนโยบายซื้อขายของไลป์ซิกอยู่ เขาถูกเชื่อมโยงกับแมนยูไนเต็ดหนักมากเนื่องจากจมูกดมกลิ่นระดับหมาล่าเนื้อต่อนักเตะพรสวรรค์ดาวรุ่งที่จะได้นำเข้ามาสู่สโมสรแน่นอน ถ้าเราได้ตัวมิทเชลมา

3.Eric Cantona

ตำนานเสื้อบอลคอปกตั้ง, นักแสดง, สมาคมผู้คลั่งใคล้กังฟู, กัปตันฟุตบอลชายหาดทีมชาติฝรั่งเศส และอาจจะเป็นว่าที่ผู้ลงสมัครประธานาธิบดีฝรั่งเศสด้วย(ฮา) เอริค คันโตน่า หรือก็องโตน่าก็แล้วแต่ อาจจะได้เพิ่มตำแหน่ง DOF พ่วงขึ้นมาอีกหนึ่งตำแหน่งบรรดาศักดิ์ของเขาในหน้าวิกิพีเดียก็เป็นได้

เขายังไม่เคยสัมผัสงานในลักษณะนี้ แถมยังบอกว่าเขาจะไม่ทำงานกับพวกเกลเซอร์ด้วย แถมยังวุ่นๆกับงานโฆษณาKronenburgอีกตะหาก (เป็นเบียร์ข้าวสาลีของฝรั่งเศสนะ -ผู้เขียน) แต่ว่าอุปสรรคที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนอย่างคิงเอริค เขามีข่าวเกี่ยวโยงกับตำแหน่งนี้มานานแล้ว และถ้าประสบการณ์การทำงานของเขาในฟิลด์อื่นสามารถมาสะท้อนบางสิ่งที่เป็นความจริงได้ เขาอาจจะทำให้โอลด์แทรฟฟอร์ดกลับมาเข้มแข็งด้วยการกลับมาอยู่เป็นพลังความยิ่งใหญ่ในฉากหลังของสโมสร และไม่ต้องกลายเป็นตัวตลกอีกต่อไป

ความสัมพันธ์อันยาวนานมากๆของเขากับไนกี้อาจจะทำให้มีปัญหากับทีมที่มีอดิดาสเป็นสปอนเซอร์อย่างแมนยู อาจเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันนิดหน่อย

ตำนานเบอร์14แมนยู

4.Jordi Cruyff

พ่อของเขาโยฮัน ครัฟฟ์ ชายผู้ปฏิวัติสองสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปทั้งในและนอกสนามได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ระดับชาติของฮอลแลนด์ ในขณะที่ยอร์ดี้ต้องทำงานอย่างหนักหน่วงที่แบกชื่อตระกูลครัฟฟ์เอาไว้ เขาก็ได้ประสบความสำเร็จในอาชีพด้วยตัวเขาเองแล้วเรียบร้อย

อดีตมิดฟิลด์แมนยูผู้นี้เป็นคนประเภทที่ "ทำได้ทุกอย่างในเรื่องงานหลังฉาก" ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมของเอกวาดอร์ แต่ว่าประสบการณ์ของเขานั้นทำงานเป็นผู้อำนวยการกีฬาที่ AEK Larnaca และก็ มัคคาบี้ เทลอาวีฟ หลังจากที่แทบจะพิชิตวงการฟุตบอลอิสราเอลภายใต้เงื้อมมือเขาได้แล้วนั้น เขารู้จักโอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นอย่างดี และประสบการณ์ทั่วยุโรปของเขาอาจจะได้ใช้งานที่ยูไนเต็ด ภายใต้ชื่อของการเป็น "ครัฟฟ์" นั้น ผลงานถูกคาดหวังสูงด้วยซึ่งมันจะไม่ทำให้ใครผิดหวังอย่างแน่นอน

5.Ole Gunnar Solskjaer

ชื่อของคนที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนยูไนเต็ดคนปัจจุบันก็ถูกนำมาโยงเกี่ยวข้องด้วย แต่ว่ามันก็เมคเซนส์และเป็นแง่ที่ดี

ชายชาวนอร์วีเจี้ยนผู้นี้เข้ามากุมบังเหียนและล้างไพ่สโมสร ปรับปรุงพัฒนาการฝึกซ้อมและเรียกสปิริตกลับมาให้ทีมหลังจากที่มืดมนอยู่สักพักภายในยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ แต่กระนั้นเองโซลชาก็ไม่ค่อยได้รับการสนุนสนุนในการซื้อขายนักเตะสักเท่าไหร่นัก ถ้าทางยูไนเต็ดอยากที่จะเก็บโอเล่เอาไว้กับสโมสร แต่เปลี่ยนผ่านไม่ต้องให้เขาทำหน้าที่โค้ชแล้ว แต่อยู่ในบทบาทอื่นๆ ตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลน่าจะเหมาะสมกับเขาเพราะเขารู้ดีว่าสโมสรต้องการนักเตะแบบไหนคนไหน โดยที่จะเน้นหนักไปที่โพรไฟล์นักเตะ และแพชชั่นกับเกมและต้นสังกัด

โอเล่เองทำงานกับบอร์ดได้ง่าย และการเพิ่มประสบการณ์ตรงนี้เข้าไปในส่วนของการบริหารจัดการของเขากับเรื่องราวนอกสนาม ซึ่งเขายังเป็นโค้ชหนุ่ม แถมยังเป็นที่จดจำในฐานะตำนานของแมนยูไนเต็ดทั้งคู่ด้วยแล้วนั้น ชื่อของเขาจึงถูกเชื่อมโยงกับตำแหน่งนี้ไปด้วยนั่นเองไม่ว่ามันจะทำให้เขายอมยกธงในการเป็นโค้ชอย่างเดียวหรือไม่ก็ตามที


6.Michael Zorc

Zorc อยู่กับดอร์ทมุนด์ตั้งแต่อายุ15ในปี 1978 และก็อยู่ที่นั่นตลอดมา แรกเริ่มในฐานะกัปตันทีมที่รับใช้สโมสรยาวนานที่สุด และหลังจากนั้นก็ในตำแหน่งsporting director ที่เริ่มทำงานตั้งแต่1998นับตั้งแต่เขาแขวนสตั๊ด

ดอร์ทมุนด์ในยุคของ Zorc นั้นได้มีการลงทุนจ่ายหนักๆในช่วงแรกของยุค2000s เพิ่งหาความสำเร็จให้สโมสร จึงทำให้เกิดปัญหาการเงินกับDer BVBแห่งนั้นในที่สุด บาเยิร์นเอาชนะพวกเขาไปแค่แต้มเดียว และซอร์กปรับเปลี่ยนกลวิธีหลังจากนั้น ซึ่งปีหลังที่ผ่านๆมานี้ ความสำเร็จมันสะท้อนผ่านการดูแลการจัดซื้อนักเตะ ทำให้พวกเขามีแต่ตัวดีๆอย่าง ซานโช่ อุสมาน เดมเบเล่ มัทส์ ฮุมเมลส์ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้เป็นต้น

ดังนั้นเขาจึงถูกเชื่อมโยงกับยูไนเต็ดในฐานะที่เคยมือเติบใช้เงินทุ่มซื้อมาก่อนก่อนที่จะมีกลยุทธ์ที่เหนียวแน่นในภายหลัง ดังนั้นซอร์กอาจจะใช้ประสบการณ์ของเขาช่วยแมนยูได้จากที่เคยเจอมา

ผู้อำนวยการชาวเยอรมันผู้นี้ถูกรายงานว่าจะออกจากดอร์ทมุนด์ในปีหน้า ดังนั้นแมนยูไนเต็ดอาจจะลองยื่น"ข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธ" ไปให้เขาก็เป็นได้


7.Ralf Rangnick

พื้นเพในเยอรมัน อดีตโค้ชและปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาการกีฬาของRed Bullนั้น ราล์ฟ รังนิกเป็นอีกชื่อที่ถูกนำมาพูดถึงและเชื่อมโยงกับทั้งอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในหลายๆปีที่ผ่านมา ด้วยความสำเร็จที่ปั้นดินเด็กดาวรุ่งให้เป็นดาว สไตล์การโค้ชที่ชัดเจน และการเข้าใจธุรกิจเรื่องนอกสนามเป็นอย่างดี

การที่จะจ้าง ผอ.รังนิกมานั้นจะเห็นประโยชน์ชัดเจนมากๆเพราะเขาเต็มไปด้วยประสบการณ์มากมาย และคอนเน็คชั่นเพียบ ซึ่งถ้าโปรเจ็คของRed Bullเป็นไปได้ด้วยดี เขาอาจจะเข้ามาพัฒนาและติดตั้งระบบหลังบ้านแมนยูให้มันทันสมัยและมีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งเขาเองก็มีประสบการณ์ในด้านการบริหารด้วยหากเกิดเหตุการณ์ที่แมนยูต้องการผู้จัดการทีมชั่วคราวขึ้นมาอีกครั้ง


8.Monchi

Ramon Rodriguez Verdejo หรือMonchi อย่างที่พวกเรารู้จักกันในชื่อนี้ เป็นผู้ปลุกปั้นนักเตะอย่าง แซร์คิโอ รามอส  ดานี่อัลเวส และอีวาน ราคิติชขึ้นมา หลังจากที่สร้างชื่อกับเซบีญ่า และเป็นผู้ช่วยของอูไน เอเมอรี่ในการคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกถึงสามสมัย เขาย้ายไปอยู่กับโรม่าช่วงสั้นๆ จากนั้นได้รับการจีบจากอาร์เซนอลเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา สุดท้ายเขาได้กลับไปสู่เซบีญ่าอีกครั้งจนถึงตอนนี้

มอนชี่ซื้อโดยเน้นด้านปริมาณที่มากๆ จากกลยุทธ์ของเขาเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเดิมพันเซ็นสัญญา มากกว่าที่จะพุ่งเป้าไปเรื่องของพรสวรรค์อย่างเดียวโดยตรง ซื้อให้โดนจุดและระวังไม่ให้ผิดพลาด  ซึ่งวิธีและแผนแบบนี้นั้นไม่ได้เหมาะและไม่เวิร์คกับสโมสรที่มีไซส์ขนาดโรม่า

ดังนั้นมันอาจจะเวิร์คที่แมนยูไนเต็ดก็เป็นได้

เขามีชื่อเกี่ยวพันกับงานนี้และ แน่นอนด้วยคอนเน็คชั่นมหาศาลรวมถึงการที่มีโพรไฟล์ดีในการเป็นกูรูด้านรีครูทเซ็นจ้างนักเตะเข้ามาลงเล่น อาจจะก่อร่างความสัมพันธ์ที่ดีกับสโมสรเราได้ซึ่งมีระบบอะคาเดมี่ที่ดีเยี่ยมอยู่แล้วและมีเครือข่ายแมวมองที่แข็งแกร่ง (ซึ่งขนาดของแมนยูรองรับวิธีการการเหวี่ยงแหของมอนชี่เป็นอย่างดี-ผู้เขียน)

9.Gary Neville

หนึ่งในตำนานตลอดกาลของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แน่นอนไม่ต้องพูดถึงฝีไม้ลายมือและบุคลิกที่โดดเด่นในหน้าที่ของการถ่ายทอดข่าวสารกีฬา ชัดเจนว่าแกรี่ เนวิลล์จะไม่ปฏิเสธสโมสรที่ซึ่งเป็นเหมือนลมหายใจมาตลอดชีวิตของเขา ขณะที่แกรี่ได้วางมือจากการเป็นโค้ชและทิ้งอดีตและงานสายนั้นเอาไว้ที่บาเลนเซีย การจะมาเป็นDOFให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็อาจจะเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

เนวิลล์แสดงออกชัดเจน ใครๆก็รู้กันอยู่แล้วว่ายูไนเต็ดคือหมายเลขหนึ่งในใจของเขาไม่ว่าจะทำอะไร และมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด สิ่งเหล่านี้จึงอาจจะเป็นตัวที่ทำให้เขาได้รับความเชื่อมั่นให้เข้ามาทำงานอย่างความมุ่งมั่น ในระดับเดียวกันกับสิ่งที่สะท้อนออกมาจากตัวเขาเช่นนั้น กับการพิสูจน์ฝีมือของเจ้าตัวในทำงานกับ Sky ที่แกรี่เป็นผู้แสดงออกด้านความคิดและปรัชญาแบบหัวก้าวหน้าให้ได้เห็นนั้น เขาอาจจะสามารถมาเป็นผู้นำในการดำเนินงานหลังฉากของแมนยูได้ อุปสรรคของแกรี่คงจะมีเรื่องที่ว่า ยังขาดประสบการณ์ทางด้านนี้ที่เป็นปัญหาติดขัดอย่างเดียวเท่านั้น

10.Marcel Bout

เป้าหมายคนที่สามที่เป็นดัตช์ในลิสต์นี้นั้น Marcel Bout เองเป็นส่วนหนึ่งของยูไนเต็ดในการเป็นหัวหน้าทีมแมวมองระดับสากลของสโมสรอยู่แล้ว เขาได้ทำงานให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เฟเยนอร์ด และบาเยิร์นมิวนิค มาแซล เบ้าท์เข้ามาอยู่แมนยูในฐานะทีมของ หลุยส์ฟานกัลในปี2014 แต่สุดท้ายแล้วเขายังคงอยู่ที่นี้แม้โค้ชรายนั้นจะแยกทางกับสโมสรไปแล้วในปี2016

เบ้าท์เป็นนักเทคนิควิเคราะห์, เป็นแมวมอง, เป็นหัวหน้าวิเคราะห์แมตช์แข่งขัน และรวมถึงเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม เขารู้จักเกมการแข่งขันอย่างดี รู้จักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดลึกซึ้ง แม้มุมมองจากคนนอกจะบอกได้ยากว่าข้างในเป็นยังไงบ้างเพราะไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่อาจจะพูดได้ว่า การซื้อขายส่วนใหญ่ในยุคหลังจากเดวิด มอยส์ (ยุคLVG Mou Ole) เขามักจะมีส่วนร่วมและได้ออกคำแนะนำในแต่ละดีลเสมอ ถ้าบอร์ดแมนยูต้องการที่จะเลื่อนขั้นตำแหน่งจากคนในองค์กร  เบ้าท์คือคำตอบที่ชัดที่สุด

------------------------

แล้วคุณล่ะ ถ้าเลือกได้..อยากได้ใครในลิสต์นี้มาเป็น Director of Football ให้กับManchester Unitedมากที่สุด

-ศาลาผี-


source : https://www.fourfourtwo.com/features/man-utd-director-football-sporting-ed-woodward-solskjaer-van-der-sar-cantona-cruyff

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด