แต่แม้จะเหนียวแน่น และแข็งแกร่งสักเพียงไหน ทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ก็ไม่สามารถหยุดหนึ่งในคู่หูอันเบ่งบานคู่ใหม่ในพรีเมียร์ลีกเวลานี้ได้

    มันเหมือนกับการประสานงานด้วยกระแสจิตเดียวกันจากคู่หูดูโอ้ซึ่งกำลังทำบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษขึ้นมา

    มันทำให้เราคิดถึงคู่หู ดไวท์ ยอร์ค และ แอนดี้ โคล, เดนนิส เบิร์กแคมป์ กับ เธียร์รี่ อองรี รวมทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ขึ้นมาในทันใด

    เวลานี้สายตาทั้งหมดต่างจับจ้องไปที่ ราอูล ฮิเมเนซ และ อดาม่า ตราโอเร่ แล้ว

    ปัจจุบัน วูล์ฟส์ กลายเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม โดยกุนซือที่ยอดเยี่ยม และพวกเขาก็ลงเล่นไปมากกว่าใครเพื่อนในฤดูกาลนี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่พวกเขาจะมีความเหนื่อยล้าเกิดขึ้น

    กระนั้น พวกเขาก็ยังคงเป็นทีมหน้าเดิมๆ เกือบจะทุกสัปดาห์

    เอาจริงๆ ก็ไม่มีทีมไหนที่สามารถต่อกรกับ ลิเวอร์พูล ได้มากไปกว่าพวกเขาแล้วในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งจากทั้ง 2 เกมที่พบกัน ทัพหมาป่าควรจะต้องมีอย่างน้อยก็หนึ่งคะแนนในกระเป๋าด้วย

    โอเค ฮิเมเนซ อาจเป็นโฟกัสหลักก็จริง แต่หากไม่มี ตราโอเร่ แล้ว หัวหอกเม็กซิกันก็คงลดความอันตรายลงไปเยอะในฤดูกาลนี้ เรียกได้ว่าเขาเหมือนเติมอาวุธชิ้นสำคัญให้น่ากลัวมากยิ่งขึ้น

    ฮิเมเนซ เหมือนรู้ว่ามันกำลังจะถึงเวลาที่ ตราโอเร่ จะต้องวิ่งตัดหลังแบ็กซ้ายขึ้นไป

    ขณะที่ ตราโอเร่ เองก็รู้ว่าเพื่อนของเขาจะไปซุ่มรออยู่ตรงไหน และบรรจงส่งมอบลูกไปอย่างสุดเพอร์เฟ็คท์

    ทุกอย่างมันเปล่งประกายอย่างมากในซีซั่นนี้ เมื่อทั้ง ฮิเมเนซ และ ตราโอเร่ ประสานงานกันจนพาทีมส่องตาข่ายได้ถึง 8 ประตูในพรีเมียร์ลีก มากกว่าคู่พาร์ทเนอร์อื่นๆ

    เราต่างรู้กันอยู่แล้วว่า ฮิเมเนซ นั้นเก่งกาจเพียงใดจากผลงานตั้งแต่ฤดูกาลก่อน แต่กลายเป็น ตราโอเร่ ที่ปรับปรุงฟอร์มขึ้นมาอย่างน่าตกใจ ซึ่งเวลานี้ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่ามันน่าสยดสยองเพียงไหน

    หากนับรวมกับจำนวนแอสซิสต์เข้าไปด้วย ก็มีเพียงคู่ระหว่าง เควิน เดอ บรอยน์ กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นที่ทั้งยิง และจ่ายให้กันมากกว่าคู่ของ ตราโอเร่ และ ฮิเมเนซ ในซีซั่นนี้

    แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งสถิติที่น่าทึ่งของ ตราโอเร่ เมื่อเขากลายเป็นนักเตะที่โดนคู่แข่งทำฟาวล์ไป 27 ครั้งในฤดูกาลนี้

    ขอย้ำว่าคนๆ เดียวต้องทำให้คู่ต่อสู้ตัดฟาวล์ถึง 27 ครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้บ่อยหรอก

    อีกอย่างในเกมที่แพ้ หงส์แดง 1-2 แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ได้ชื่้อว่าเป็นแบ็กซ้ายอันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีก หรือแทบจะของโลกด้วยในปัจจุบันต้องปวดหัวมากแค่ไหนในการเผชิญหน้ากับ ตราโอเร่ เราทุกคนก็ได้เห็นกันไปแล้ว

    แทบจะไม่มีใครที่สามารถหยุด ตราโอเร่ ได้ และนั่นมันทำให้ ฮิเมเนซ เคลื่อนที่ได้แบบตามใจชอบโดยไม่ต้องโดนประกบติดแค่คนเดียว

    ดาวเตะเชื้อสายมาลีวัย 24 ซึ่งมีดีกรีทีมชาติสเปนชุดยู-21 ไม่ได้เพียงแค่กระชากด้วยความเร็ว และครอสบอลเท่านั้น เขาไม่ได้เป็นแข้งประเภทนั้นอีกต่อไปแล้ว เขามีส่วนร่วมกับเกมมากกว่าที่ใครหลายคนสามารถจินตนาการไว้ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนี้

    ในเกมกับ ลิเวอร์พูล ตราโอเร่ เฉิดฉายอย่างมากร่วมกับคู่หูคนเก่ง โดยมีเพียง อาลีสซง เบ็คเกอร์ เท่านั้นที่หยุดยั้งการมีชื่อบนสกอร์บอร์ดของเขาได้

    ลูกตีเสมอนี่คือสิ่งที่ชัดเจน ฮิเมเนซ เลี้ยงบอลผ่าน โรเบิร์ตสัน และรอจังหวะเพื่อเล่นกับ ตราโอเร่ ซึ่งทะลุกับดักล้ำหน้ามาทางกราบขวา ตราโอเร่ จัดการเปิดบอลเข้ากลาง และ ฮิเมเนซ ซึ่งอยู่ที่จุดนัดพบอย่างรู้อกรู้ใจก็จัดการส่งบอลตุงตาข่ายเข้าไป

    นี่คือลายเซ็นเฉพาะตัวของพวกเขา ซึ่งเราก็ยังไม่ได้เห็นคู่ไหนที่ดูโดดเด่นเท่านี้เลยนับตั้งแต่ที่ทั้งสองจับคู่กันติดในครั้งแรก

    แน่นอนด้วยฟอร์มขนาดนี้ทำให้ทั้ง ฮิเมเนซ และ ตราโอเร่ จะกลายเป็นแข้งเนื้อหอมที่ทีมอื่นๆ ต้องรุมตอมประจำซัมเมอร์นี้แน่

    ตราบใดที่ หยิน - หยาง ไม่สามารถแยกจากกัน อนาคตที่สดใสในถิ่นมิดแลนด์กำลังรอคู่หูดวงใหม่อยู่เบื้องหน้า

    ถามจริง แล้วไอ้สองคนนั่นมันต้องย้ายทีมเพื่อ?

    พาสต้า