:::     :::

คุยกับครอบครัวอักษรศรี : ชีวิตลูกหนังของ "ปาแป็ง-โชแป็ง"

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
9,477
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับศึกเอเอฟซี ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 แม้ทีมชาติไทยจะไปไม่ถึงฝั่งฝันสำหรับตั๋วโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย แต่สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือผลงานความทุ่มเทของทัพ "ช้างศึก" ชุดนี้ที่ฝากความประทับใจเอาไว้มากมาย หนึ่งในนักเตะที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือแบ็กซ้ายอย่าง "โชแป็ง" ทิตาธร อักษรศรี ฝาแฝดคนน้องที่เคยถูกคลื่นคีย์บอร์ดวิจารณ์อย่างหนักในช่วงซีเกมส์ แต่เขาใช้เวลาเพียงเดือนเศษเท่านั้นในการพิสูจน์ตัวเองเปลี่ยนคำด่าให้กลายเป็นคำชม สิ่งแวดล้อมและทัศนคติแบบไหนที่หล่อหลอมความคิดของเด็กหนุ่มวัย 23 ปีผู้นี้ มารู้จักเขาให้มากขึ้นจากที่ผมมีโอกาสได้คุยกับครอบครัวอักษรศรี ทั้งคุณพ่อ จารึก,คุณแม่ สุนันทา, "ปาแป็ง" ทิตาวีร์ และ "โชแป็ง" ทิตาธร ผ่านบทความถาม-ตอบชิ้นนี้กัน

แมน : สวัสดีครับ พอดีผมไปอ่านเจอบทความที่ ไปป์ (พี่ชายคนโตของครอบครัวอักษรศรี) เขียนถึงการที่น้องโชแป็งถูกคนด่าอย่างหนักในช่วงซีเกมส์ และเล่าถึงเบื้องหลังว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านการต่อสู้มาเยอะ เลยอยากมาคุยเพื่อเขียนเป็นคอลัมน์ถามตอบหน่อยครับ 

ทิตาธร : ได้เลยครับพี่

แมน : ไปป์เขาเขียนบทความดีเลยนะ เอาดีทางการเป็นนักเขียนได้เลยนะเนี่ย 

ทิตาธร : พี่ไปป์เขาหัวดีครับ ตอนเรียนแกก็เรียนเก่งอยู่แล้ว

แมน : บ้านนี้มีพี่น้องกี่คนนะครับ เป็นผู้ชายหมดเลยหรือเปล่า

ทิตาธร : 4 คนครับ ผู้ชายหมดเลย

แมน : ก็คือมี ไปป์(ทิยัชชา), ปั๊ม (ทัตพิชา) ที่เป็นผู้รักษาประตูอยู่สุโขทัย, ปาแป็ง (ทิตาวีร์) แล้วก็โชแป็ง (ทิตาธร)


ทิตาธร : ใช่ครับ จริงๆ พี่ไปป์ก็เคยเตะบอลเล่นตำแหน่งกองหน้าครับ แต่แกไปบาดเจ็บหนักซะก่อนเลยเลิกเล่นไป

แมน : พี่ไปป์ เคยเล่นในระดับไหนครับ อยู่กับสโมสรไหนหรือเปล่า

ทิตาธร : เคยเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนของเมืองทองครับ

แมน : ถ้าไม่เจ็บซะก่อนก็น่าจะมีโอกาสขึ้นมาเล่นอาชีพได้เหมือนกันนะ

คุณแม่ : พี่ไปป์เขาเก่งนะคะ แล้วเขาหัวดีด้วย ตอนนี้เขาก็ไปเอาดีทางด้านการเรียนการทำงานแล้ว


แมน : สูงเท่าไหร่กันนะครับ สองพี่น้อง

ทิตาวีร์-ทิตาธร : 184 ครับ

แมน : เคยเห็นแต่ก่อนผมสั้น ไม่เคยแยกออกเลยว่าคนไหนเป็นคนไหน ถ้าไม่ได้ไว้ผมคนละทรงแบบนี้ คนอื่นต้องดูยังไงถึงจะรู้ว่าใครคือ ปาแป็ง-โชแป็ง

ทิตาวีร์ : รูปร่างเราจะต่างกันนิดหน่อยครับ น้องจะตัวบางกว่าผมหน่อยนึง

ทิตาธร : หรือถ้าคนที่คุ้นเคยกัน เขาจะดูที่ไฝตรงจมูกครับ ผมจะมีไฝเล็กๆ อยู่ตรงนี้ (ชี้ให้ดู)


แมน : โอเค ดีแล้วล่ะที่ไว้ผมคนละทรงกัน 555 ขอถามคุณพ่อหน่อยครับ ว่าตั้งชื่อปาแป็ง กับ โชแป็ง นี่มีที่มาจากอะไร 

คุณพ่อ : ปาแป็งนี่ผมชอบ ฌ็อง ปิแอร์ ปาแป็ง กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสครับ ส่วนโชแป็ง นี่รู้สึกว่าจะเป็นกวีเอกของฝรั่งเศสนะ (เฟรเดริก โชแป็ง คีตกวีชื่อดังชาวโปแลนด์)

ทิตาวีร์ : เป็นนักเปียโนพ่อ 

คุณแม่ : ใช่ค่ะ เป็นนักเล่นเปียโน

แมน : นี่ถ้ามีแฝด 3 อีกคนน่าจะต้องชื่อ ลูแป็ง นะครับ 555 ตั้งชื่อลูกว่าปาแป็ง นี่สงสัยต้องอยากให้ลูกชายเป็นกองหน้าแน่เลย

คุณพ่อ : (ยิ้ม) 555 ครับ จริงๆ ไม่ได้คิดไว้เลยครับว่าเขาจะเล่นตำแหน่งไหน

แมน : เห็นว่าที่บ้านเรียกชื่อกันว่า โช๊ กับ แป๊ง ใช่มั้ยครับ

คุณแม่ : ใช่ค่ะ คือก็เรียกกันสั้นๆ ว่า แป๊ง กับ โช๊ เพราะพี่เขาก็ชื่อพยางค์เดียวคือ ไปป์ กับ ปั๊ม

แมน : เห็นลูกๆ เตะฟุตบอลทุกคนแบบนี้ คุณพ่อน่าจะเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อนใช่มั้ยครับ เคยเล่นระดับไหนมาบ้าง 

คุณพ่อ : ผมชอบเล่นฟุตบอลครับ แค่ในระดับจังหวัด ไม่ได้เป็นระดับสโมสรอะไร แต่ก่อนก็รวมกลุ่มเล่นกันอยู่ที่ภูเก็ต มีครั้งนึงที่ทีมชาติยุคพี่ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน มาเก็บตัวซ้อมที่ภูเก็ต ก็ได้มาลงทีมกันด้วย ผมโดนพี่ตุ๊กยิงไปหลายลูกเหมือนกันครับ (หัวเราะ)

แมน : แล้วมีวิธีการเลี้ยงดูลูกๆ ยังไงครับ โดยเฉพาะสองแฝด ตอนนี้รูปร่างดีเลย

คุณแม่ : แต่ก่อนเขาตัวเล็กกันมากนะคะ จริงๆ ที่บ้านไม่ใช่คนตัวสูงกันอยู่แล้ว คุณแม่ก็ให้เขากินนมวันละ 2 กล่องใส่กระเป๋านักเรียนเวลาเขาไปซ้อมบอลทุกวัน ให้ไปเข้าฟิตเนส แล้วคุณพ่อเขาก็พาไปซ้อมไปคัดตัว ไปสมัครเรียนอคาเดมี่ต่างๆ มาตลอด คุณแม่ก็พาไปสมัครเข้าฟิสเนส จ้างเทรนเนอร์อีก


แมน : เห็นว่าแต่ก่อน โชแป็ง กับ ปาแป็ง เคยเรียนที่กรุงเทพคริสเตียน แล้วช่วงม.ต้นมีเด็กรุ่นน้องที่เข้ามาเรียนแล้วยึดตำแหน่งตัวจริงไป แล้วโค้ชบอกให้เรานั่งดูว่ารุ่นน้องเล่นยังไง ลองเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับ

ทิตาวีร์ : จริงๆ แล้วผมเรียนที่คริสเตียนตั้งแต่อนุบาล ตั้งแต่ประถม จนจบม.ปลาย เลยนะครับ คือที่ รร.ก็จะมีเปิดโครงการรับนักฟุตบอลเข้ามาเรื่อยๆ ตอนที่พวกผมเล่นกันอยู่ช่วงม.ต้น ก็มีเด็กโครงการเข้ามาเป็นรุ่นน้อง แล้วเราก็หลุดเป็นตัวสำรองไป ทีนี้เราก็คุยกับที่บ้านว่าถ้าเราไม่ได้ลงเล่นแบบนี้จะเสียโอกาสในการพัฒนาตัวเองไป คุณพ่อก็เลยพาไปสมัครตามอคาเดมี่ข้างนอก เพื่อฝึกควบคู่กันไปด้วยครับ

ทิตาธร : ก็มีไปแข่งเดินสายอะไรพวกนี้เยอะแยะเลยครับ

แมน : เดินสายแบบไหน ที่เขาไปแข่งล่ารางวัลกันน่ะนะ

ทิตาธร : ไม่ใช่แบบนั้นครับ อันนั้นเป็นอีกแบบนึง แต่ที่ผมไปแข่ง คือเป็นพวกรายการที่เขาจัดแข่งขึ้นมา แล้วอะคาเดมี่ก็ส่งไปร่วมแข่งด้วยเพื่อหาประสบการณ์มากกว่าครับ

แมน : แล้วไปเข้าทีม เทโร ได้ยังไงครับ เขาไปเห็นเราจากไหน

ทิตาธร : จากบอลเดินสายนี่แหละครับ ตอนนั้นโค้ชเก่ง แกเป็นโค้ชอยู่ อาร์แบ็ค ที่ช่วงนั้นเป็นพันธมิตรกับเทโรอยู่ เขาก็ชวนให้ไปเล่นด้วย ตอนนี้โค้ชเก่งไปเป็นโค้ชประตูให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด แล้ว


แมน : ใช้เวลานานแค่ไหนครับ ก่อนขึ้นมาอยู่ในชุดใหญ่ของเทโรได้

ทิตาธร : ผมขึ้นมาช่วงแรกคือปีที่เทโรตกชั้น (2017) แล้วก็ปีที่ผ่านมาในT2ที่กลับขึ้นชั้นมาได้ครับ ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ 3 ที่ได้เล่นชุดใหญ่ให้เทโร พี่แป๊งขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ก่อนผมครับ 

แมน : โชแป็ง กับ ปาแป็ง เคยติดทีมชาติชุดไหนมาก่อนบ้างมั้ย

ทิตาธร : ผมเคยติดชุด 17 ปี กับพวกรุ่นนี้แหละครับ แต่เป็นรายการพิเศษ ไม่ได้เป็นรายการสำคัญอะไร (ซานิค คัพ อินเตอร์ฺเนชั่นแนล ยูธ ซอคเกอร์ ทัวร์นาเม้นต์ ที่เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น)

ทิตาวีร์ : ผมเคยแค่มีชื่อที่ถูกเรียกบ้างแต่พอตัดตัวก็ยังไม่เคยติด เพิ่งมาติดตอนยู-23 ครั้งนี้ครับ

แมน : เคยคุยกับโค้ชอ้น (รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค) แกบอกว่า ปาแป็ง เล่นแบ็คขวาได้ดี แทบจะคล้ายๆ กับที่โชแป็งเล่นแบ็คซ้ายเลย 

ทิตาวีร์ : ใช่ครับ พี่อ้นแกก็จับผมไปเล่นแบ็คขวาบ้าง เซนเตอร์บ้าง


แมน : แล้ว โชแป็ง นอกจากเล่นแบ็คซ้ายแล้ว ตำแหน่งอื่นเคยถูกจับไปเล่นมั้ย

ทิตาธร : จริงๆ แล้วผมเริ่มเล่นเป็นปีกซ้ายมาก่อนนะครับ พอตอนหลังเปลี่ยนมาเล่นแบ็คซ้ายแล้วก็ยืนตำแหน่งนี้ยาวๆ เลย

แมน : คิดว่าตำแหน่งไหนที่น่าจะดีที่สุดสำหรับเรา 

ทิตาธร : น่าจะแบ็กซ้ายนี่ล่ะครับ แล้วคอยช่วยเติมเกมบุกขึ้นไป

ทิตาวีร์ : ก็คงเซนเตอร์นี่ล่ะครับ 

แมน : ถาม โชแป็ง ถึงช่วงซีเกมส์ที่ผ่านมาหน่อย คนด่าเราเยอะเลยนะ เราไปอ่านคอมเม้นต์บ้างหรือเปล่าว่าเขาพูดถึงเรายังไง ความรู้สึกตอนนั้นเป็นไง แล้วระบายกับใครบ้างมั้ย

ทิตาธร : เห็นตลอดครับ ก็คิดว่าเราแย่ขนาดที่เขาว่าเลยหรอ ทำไมเราก็แพ้ด้วยกันทั้งทีม แต่คนมาโฟกัสที่ผม คือผมก็รู้ตัวนะว่ายังทำได้ไม่ดีพอ ความรู้สึกก็เฟลบ้างครับ ปรึกษาและระบายกับที่บ้านตลอด กับเพื่อนๆ ในทีมก็คุยกันตลอด เท่ (เจริญศักดิ์ วงษ์กร) ที่เป็นรูมเมทผมช่วงนั้นก็ให้กำลังใจกันครับว่าเราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน

คุณแม่ : น้องเล่นแย่ขนาดนั้นจริงๆ หรอคะ คุณแมนคิดว่าอย่างนั้นมั้ย

แมน : จริงๆ ผมคิดว่าเป็นเรื่องความเข้าใจภายในทีมที่เวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อยนะครับ แล้วมีตัวจากชุดใหญ่้เข้ามาเสริมด้วย อาจจะเพราะสนามหญ้าเทียมที่ไม่ได้มาตรฐาน, การแข่งวันเว้นวัน แล้วก็ต้องเจอคู่ต่อสู้ที่ตั้งรับลึกแล้วรอสวนกลับด้วยความเร็ว การสอดซ้อนตำแหน่งกันเวลาที่ โชแป็ง ขึ้นไปเล่นเกมรุกมันยังไม่ค่อยดีนัก แค่ผมว่าสิ่งที่อยากชมก็คือน้องเขาสามารถกลับมาพิสูจน์ตัวเองได้เร็วมากกว่า


คุณแม่ : ที่บ้านก็คอยให้กำลังใจเขาค่ะ ว่าเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น โช๊ต้องไม่ท้อนะ 

แมน : การตอบโต้ที่ดีที่สุดคือในสนามฟุตบอลครับ ไปตอบโต้วิธีอื่นมีแต่เสีย เพราะเราอยู่ในที่แจ้ง คนที่ด่าเราเขาไม่แสดงตัว แต่พวกนี้เวลาเจอเราเขาก็เข้ามาขอถ่ายรูป ไม่กล้าด่าเราต่อหน้าหรอก เออแล้วที่เจอหนักสุดเขามาด่าเราว่าไงบ้าง

ทิตาธร : มีส่งข้อความมาในไอจีครับ มาบอกว่ายังมีหน้าติดทีมมาอีกหรอ ทำไมไม่ถอนตัวไป มีด่าหยาบคายด้วยครับ แต่ผมดูโปรไฟล์แล้วเขาเอารูปคนอื่นมาใช้ ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปครับ

แมน :  พวกอวตารอีกแล้ว พี่ก็โดนด่าประจำอะพวกนี้ 555

ทิตาวีร์ : ผมก็โดนครับ มีมาด่าว่า กล้าติดมาทั้งพี่ทั้งน้องเลยหรอ แค่น้องติดคนเดียวก็แย่แล้ว  

แมน : โชแป็งคุยกับปาแป็งเรื่องนี้ตลอดใช่มั้ย

ทิตาวีร์ : ใช่ครับ เราคอยช่วยเหลือให้กำลังใจกันมาตลอดอยู่แล้ว ปกติเราแทบจะตัวติดกัน ชอบอะไรก็ชอบเหมือนๆ กัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าว,ไปเที่ยว เล่นฟิตเนส ก็ไปด้วยกันตลอด  

แมน : ชอบอะไรเหมือนๆ กันนี่ สเป็คผู้หญิงเหมือนกันด้วยมั้ยเนี่ย เคยชอบผู้หญิงคนเดียวกันบ้างมั้ย มีแฟนกันหรือยังเนี่ย 555

ทิตาวีร์-ทิตาธร : (ยิ้มเงียบแล้วหันมองหน้ากัน)

แมน : โอเคๆ วันนี้คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วย เรื่องนี้เอาไว้เล่าหลังไมค์แล้วกัน 555 เห็นว่า โชแป็ง เคยบาดเจ็บหนักตอนนั้นเจ็บตรงไหนนะ อ่านที่ ไปป์ เขียนจำได้ว่า ปาแป็ง พูดกับน้องว่าทำไมต้องเป็นน้อง ทำไมไม่เป็นเราที่บาดเจ็บแบบนี้

ทิตาธร : ผ่าตัดหัวเข่าครับ 

ทิตาวีร์ : สงสารน้องครับ ไปเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลแล้วมันก็รู้สึกว่าทำไมเขาต้องเป็นคนที่บาดเจ็บหนักๆ อยู่คนเดียวตลอด

แมน : การผ่าตัดที่หัวเข่านี่ถ้าเป็นสมัยก่อนกลับมายากเลยนะ แต่ก็มีนักเตะดังๆ หลายคนที่ผ่านจุดนั้นมาได้ อย่าง ฐิติพันธ์, สารัช, ธนบูรณ์ ก็เคยเจ็บเข่าต้องผ่าตัดพักยาวมาแล้วทั้งนั้น

ทิตาวีร์ : ใช่ครับ สมัยนี้การแพทย์ก้าวหน้าขึ้นมาก เจ็บหนักๆ ก็ยังมีโอกาสกลับมาเล่นฟุตบอลได้

แมน : ตอนซีเกมส์ โชแป็ง โดนด่าหนักมาก พี่มองว่ายังโชคดีนะที่มีรายการแข่งต่อเนื่องให้ได้พิสูจน์ตัวเองทันที นี่ถ้าเว้นช่วงไปยาวๆ เราอาจจะโดนด่าไปอีกนานเลย เออแล้วมีวิธีรับมือกับเสียงวิจารณ์ยังไง ที่บ้านได้ให้คำแนะนำน้องมั้ยครับ 

คุณแม่ : คุณแม่ก็อ่านแล้วก็ยอมรับว่ามีโกรธเหมือนกันนะคะ บางทีเปิดโทรศัพท์ดูก็ตอบโต้อยู่ในใจ แต่ก็บอกโช๊ว่าอย่าไปตอบโต้เขานะ ไว้ไปพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นดีกว่า 

ทิตาธร : ผมรู้สึกว่าคำวิจารณ์พวกนี้เราไม่ควรเก็บมาคิดครับ แล้วเลือกฟังวิจารณ์ที่เป็นประโยชน์กับเราหรือมาจากคนที่เขารักและเป็นห่วงเราจริงๆ ดีกว่า ผมก็คุยกันกับเพื่อนๆ ในทีมครับว่าเรามีจุดบกพร่องตรงไหนกันบ้าง เราต้องซ้อนกันเคลื่อนที่กันยังไง 

แมน : คิดว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลงานในชิงแชมป์เอเชีย ต่างกับซีเกมส์แบบหน้ามือเป็นหลังมือ

ทิตาธร : พวกเราต้องการพิสูจน์ตัวเองมากๆ ครับว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คนเขาด่า แล้วเราเป็นเจ้าภาพด้วย เราอยากทำให้ทุกคนเห็น อีกอย่างเรามีเวลาอยู่ด้วยกันกับโค้ชมากขึ้นด้วยครับ 

แมน : โชแป็งได้เล่นทุกนัดเลยเนอะ 4 เกมในครั้งนี้ ไม่ถูกเปลี่ยนตัวออกเลย ส่วน ปาแป็ง มาลงเล่นตัวจริง 2 เกมหลังเนอะ ที่ยืนคู่กับเหน่ง (ศฤงคาร พรหมสุภะ)


ทิตาธร : น่าจะมีแค่ 3 คนครับที่ลงตลอด ก็คือ ผม, ไอซ์ (กรพัฒน์ นารีจันทร์) แล้วก็ เหน่ง (ศฤงคาร)

แมน : แบงค์ ศุภณัฐฎ์ เหมือนตา ด้วยมั้ง

ทิตาธร : แต่แบงค์จะมีถูกเปลี่ยนตัวออกอยู่บ้างครับ

แมน : ขอถามถึงแต่ละเกมที่ผ่านไปหน่อยนะ เกมแรกกับ บาห์เรน ที่เราชนะเขา 5-0 คิดไว้มั้ยว่ามันจะออกมาขาดขนาดนี้

ทิตาธร : คิดว่าชนะได้ครับ แต่ไม่คิดว่าจะชนะขาด เรานำเขาเร็วด้วย และเขาดูจะใจร้อนพยายามเอาคืนให้ได้เร็ว มันก็เลยเข้าทางเรา 

แมน : เกมกับ ออสเตรเลีย ที่โดนแซงแพ้ไป 1-2 ครึ่งหลังพวกเราหมดแรงกันจริงๆ ใช่มั้ย

ทิตาธร : ไม่เชิงนะครับ ตอนแรกที่เรานำเขา 1-0 เราเล่นได้ดีกว่า และตามแผนของโค้ชก็คือเราต้องยันสกอร์นำเอาไว้ได้จนจบครึ่้งแรก แต่พอไปโดนเขาตีเสมอเป็น 1-1 สถานการณ์มันเปลี่ยนไป เขาสามารถเล่นในเกมของเขาได้ ถ้าครึ่งหลังเริ่มด้วยการที่เรานำอยู่ ผมก็เชื่อว่าเกมมันจะไม่ออกมาเป็นแบบนั้น

แมน : พอมาถึงเกมเจอ อิรัก นิชิโนะ เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริง 7 คนเลย เอาจริงๆ ประหลาดใจมั้ย

ทิตาธร : ไม่นะครับ เพราะพวกเราซ้อมด้วยกันอยู่ รู้ว่าแต่ละคนฝีเท้าไม่ต่างกันมาก อยู่ที่โค้ชจะเลือกใช้ใครมากกว่า และโค้ชก็คงเห็นว่าพวกที่ลง 2 นัดแรกแทบไม่ได้พักเลย และเราก็ได้เห็นแล้วว่าไม่ว่าใครลงสนามทุกคนก็พยายามเต็มที่ไม่แตกต่างกันครับ

แมน : เกมที่แพ้จุดโทษซาอุฯ รู้สึกยังไง

ทิตาธร : เสียดายมากครับ เพราะมันไม่เคลียร์ เรามีความรู้สึกว่าทุกคนสู้กันอยู่และยังมีโอกาส แต่ก็มาถูกตัดสินให้เราตกรอบแบบนี้ 

แมน : เห็น ปาแป็ง ร้องไห้หนักเลย หลังจบเกม สำหรับ ปาแป็ง หลังจากเกมนั้น ยังติดตามดูบอลรายการนี้อยู่มั้ย


ทิตาวีร์ : ไม่ได้ตามอีกเลยครับ ผมมีความรู้สึกว่าไม่อยากไปรับรู้อะไรอีกแล้ว

ทิตาธร : เราขอเลือกจดจำแต่สิ่งดีๆ เพื่อเป็นประสบการณ์ในครั้งต่อไปดีกว่าครับ อะไรที่มันเป็นความรู้สึกไม่ดีก็ปล่อยให้มันเป็นบทเรียน

แมน : นิชิโนะ เขาร้องไห้ด้วยหรือเปล่าครับ ตอนที่ไทยตกรอบ

ทิตาวีร์ : ไม่ร้องนะครับ แต่เขาบอกว่า ไว้โอกาสหน้าเรามาร่วมงานกันใหม่นะ

แมน : โห เจ๋งอะ คือพี่ชอบ นิชิโนะ ที่เขามีวิธีการจัดการที่ดี การที่แพ้แล้วเสียใจมันเป็นเรื่องปกติ โค้ชหลายๆ คนอาจจะร้องไห้มีความรู้สึกร่วมกับทีม มันก็เป็นคาแร็คเตอร์อีกแบบ แต่การที่เขาพูดแบบนี้ นั่นคือการให้กำลังใจที่ดีที่สุดเลยนะ ว่าเขาคอยดูพวกเราอยู่ และครั้งต่อไปมันคือทีมชาติชุดใหญ่นะ ไม่แน่เหมือนกัน มีนาคม นี้ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ อินโดนีเซีย ทั้ง ปาแป็ง กับ โชแป็ง อาจจะมีชื่อติดชุดใหญ่ด้วยก็ได้

ทิตาวีร์ : ยังไม่ได้คาดหวังอะไรไว้ขนาดนั้นครับ

แมน : การตั้งเป้าหมายให้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมากนะ เราสองคนกำหนดเป้าหมายอะไรไว้กับตัวเองบ้าง

ทิตาวีร์ : ตอนนี้ก็คงโฟกัสไปที่สโมสรก่อน เพราะลีกใกล้จะเปิดแล้วครับ แล้วในอนาคตก็อยากติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครับ


ทิตาธร : ผมก็อยากติดทีมชาติครับ แล้วก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปเล่นต่างประเทศบ้าง

แมน : ข่าวที่ว่า ชิมิสึ เอสพัลส์ มาทาบทามไปเล่นเจลีก นี่เป็นความจริงมั้ย

ทิตาธร : จริงครับ เห็นพี่แมน (ธัญญะ วงศ์นาค) แกคุยกับทางผู้ใหญ่ของทางญี่ปุ่น มา 2 ครั้งแล้วว่าทางญี่ปุ่นเขาอยากให้ผมไป ล่าสุดคือหลังเกมT2 ที่ผมเจอกับ ศรีสะเกษ เมื่อปีที่แล้ว เขาก็เข้ามาดูเกมด้วยครับ 

แมน : โอกาสน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้มั้ย

ทิตาธร : ผมยังไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ครั้งก่อนที่เขามาคุย ผมเดานะ ว่าเขาน่าจะพาผมไปร่วมฝึกซ้อมหรือไปเล่นในทีมสำรองของเขามากกว่า น่าจะไม่ได้เอาไปเล่นในเจลีกเลย

แมน : พี่ว่าตอนนี้ โชแป็ง ต้องเล่นในไทยลีกอีกสักปีก่อน แล้วขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ หลังจากนั้นเขาอาจจะมองเราอีกแบบ นั่นคือต้องไปเล่นเจลีกเลย เพราะเขาต้องการทำตลาดที่บ้านเราอยู่แล้ว ตอนนี้แฟนคลับเพิ่มขึ้นเยอะเลยมั้ย

ทิตาธร-ทิตาวีร์ : เยอะนะครับ มีเข้ามากันเยอะเลย

แมน : คิดว่าตอนนี้ตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์แล้ววางตัวยากขึ้นมั้ย

ทิตาวีร์ : ไม่นะครับ เรายังไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์หรอกพี่

แมน : โอเคครับ ไว้โอกาสหน้ามาคุยกันใหม่นะ ขอบคุณมากครับ


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด