:::     :::

เสียหายกว่าที่คิด

วันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
7,179
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แฟนๆ ลิเวอร์พูลคิดว่าจุดสุดท้ายของทีมชุดนี้จะไปจบอยู่ที่ตรงไหนครับแชมป์เดียวที่โหยหามานาน หรือ ดับเบิ้ลแชมป์ หรือหลายๆ คนอาจจะหวังไปไกลกว่าสุดท้ายแล้วลิเวอร์พูลชุดนี้อาจจะคว้าได้ถึง ทริปเปิ้ล แชมป์เสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อผลการแข่งขัน F.A. Cup นัดล่าสุดที่ผ่านมาแบบนั้น ก็ดูเหมือนว่าอะไรๆ มันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้วล่ะครับ

โรเตชั่นเป็นเหตุ


          ปฏิเสธไม่ได้ครับ ว่าเป้าหมายหลักของลิเวอร์พูลในปีนี้คือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ก่อน และเป้าหมายรองลงมาอาจจะเป็น UCL และที่เหลือคือโบนัส ดังนั้นเราจึงเห็นว่าเจอร์เก้น คล็อปป์เลือกที่จะพักผู้เล่นตัวหลักในเกม  F.A. Cup ที่พบกับชูร์วสบิวรี่ แต่ก็ยังส่งผู้เล่นชุดใหญ่บางคนที่ห่างหายจากการลงสนามไปนานให้ลงมาเคาะสนิมเรียกความฟิต และเรียกหาฟอร์มเก่าๆ ให้กลับคืนมาให้เร็วที่สุด เราจึงเห็นฟาบินโญ่ , เดยัน ลอฟเรน , โชเอล มาทิป ที่ห่างหายไปเพราะอาการบาดเจ็บได้ลงสนามมาในเกมนี้ และยังมี ทาคุมิ มินามิโนะ กับ ดิว๊อก โอริกี้ และอาเดรียนลงสนามมาประคองเด็กๆ ชุดเยาวชนที่ส่วนใหญ่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง เคอร์ติส โจมส์ หรือ ฮาร์วี่ เอลเลียต , เปรโดร ชิริเบย่า เมื่อมองรายชื่อเผินๆ แบบนี้ก็อาจจะมองว่าชุดนี้ดูดีกว่าชุดที่เอาชนะเอฟเวอร์ตันเมื่อรอบก่อนหน้านี้ได้เสียอีก แต่เมื่อลงสนามไปแล้ว หลายๆ อย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดเลยครับ



เริ่มสวย จบห่วย

          เริ่มต้นมา ดูเหมือนว่าเกมนี้จะเป็นของลิเวอร์พูลโดยไม่ยากครับ เมื่อลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำเร็วจากการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมและการจบสกอร์อย่างคมกริบของเคอร์ติส โจนส์ที่นับวันดูจะดีวัน ดีคืนเสียจริงๆ แต่นั่นเป็นเพราะตอนที่เริ่มเกมนั้นระดับชั้นของผู้เล่นลิเวอร์พูลเหนือกว่าผู้เล่นชูร์วสบิวรี่ อย่างเห็นได้ชัดเจนนี่แหละครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรื่อยๆ ผู้เล่นชูร์วสบิวรี่เริ่มจะปรับตัวได้ เราก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำเกมได้ดีไมไ่ด้ด้อยไปกว่าทางฝั่งแชมป์โลกเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ด้วยความเป็นทีมเล็กก็เลยยังจัดการกับจังหวะสุดท้ายได้ไม่ดีเท่าที่ควรแค่นั้นเอง ประกอบกับทางฝั่งหงส์แดงนั้นได้อาเดรียนที่เกมนี้เหนียวหนึบเหลือเกินช่วยไว้ได้อยู่หลายจังหวะ จึงทำให้ลิเวอร์พูลยังได้เปรียบอยู่จนจบครึ่งแรก



          ครึ่งหลังมายิ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะอยู่ๆ ชูร์วสบิวรี่ก็ทำเข้าประตูตัวเองดื้อๆ ทำให้ลิเวอร์พูลนำห่างเป็น 2-0 แต่พอเป็นแบบนี้ชูร์วสบิวรี่ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วครับ พวกเขาเปิดเกมรุกใส่ลิเวอร์พูลอย่างดุดัน และเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผู้เล่นลิเวอร์พูลหลายๆ คนที่ห่างสนามไปนาน ความฟิตและการร้างสนามไปของพวกเขาเริ่มส่งผลให้เห็นแล้ว เราจะเห็นได้ว่าผู้เล่่นหลายๆ คนในทีมชุดใหญ่กลับเล่นพลาดง่ายๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้เล่นอย่างฟาบินโญ่ ลอฟเรน หรือ มาทิป ต่างผลัดกันทำพลาดแบบไม่น่าเชื่อ และบรรดาเด็กๆ ที่นัดก่อนโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมก็ดูเหมือนจะสติแตกไปด้วย เมื่อโดนกดดันมากๆ ก็ทำพลาดให้เห็นจนได้ โดยเจ้าแบ็กซ้ายดาวรุ่งอย่างยาสเซอร์ ลารูซี่ก็ไปทำฟาล์วในเขตโทษดื้อๆ ทำให้ทีมเสียจุดโทษจนโดนยิงประตูไล่มาง่ายๆ เสียอย่างนั้น และหลังจากนั้นก็ดูจะเสียขบวนและสติแตกและสุดท้ายก็โดนบดจนเสียประตูตีเสมอให้กับชูร์วสบิวรี่ตีเสมอจากเจสัน คัมมิ่งส์ ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาอย่างง่ายๆ จนเจอร์เก้น คล็อปป์ทนไม่ไหวต้องเอาตัวจริงอย่างซาล่าห์ และฟีร์มีโน่ลงมาช่วงท้ายเกมหวังว่าจะยิงประตูชัยให้ได้จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลารีเพลย์อีก แต่สุดท้ายก็จบไปด้วยผลเสมอกัน 2-2 ต้องกลับไปเตะรีเพลย์กันอีกครั้งที่แอนฟิลด์ซึ่งดูเผินๆ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่จริงๆ แล้วมันกลับเลวร้ายกว่าที่คาดไว้เยอะจริงๆ ครับ



เบรคหนีหนาวทำพิษ

          ในปีนี้พรีเมียร์ลีก จัดโปรแกรมให้แต่ละทีมมีช่วงพักเบรคหนีหนาวด้วยนะครับ ซึ่งแต่ละทีมก็จะได้พักสลับๆ กันไป ลิเวอร์พูลนั้นไปตรงกับสุดสัปดาห์ของวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ และจากผลเสมอกับชูร์วสบิวรี่ในนัดนี้ก็ทำให้คู่นี้ต้องหาผู้ชนะด้วยการไปเตะนัดรีเพลย์ ซึ่งโปรแกรมนัดรีเพลย์ทุกนัดจะเตะกันในระหว่างสัปดาห์ของวันที่ 3-7 กุมภาพันธ์ และมันก็ไปคาบเกี่ยวกับช่วงพักของ ลิเวอร์พูล พอดี ซึ่งก็น่าจะคาดเดาได้ไม่ยากว่าเอฟเอนัดไม่ได้คิดถึงตรงจุดนี้มาก่อนเลยทำให้มีปัญหาในเรื่องของโปรแกรมการแข่งแบบนี้ ซึ่งคล็อปป์เองก็ยืนกรานว่านักฟุตบอลระดับทีมชุดใหญ่สมควรที่จะต้องได้พักหลังจากกรำศึกมาอย่างต่อเนื่อง และเขาก็จะทำเหมือนเกมลีก คัพตอนที่เขาไปแข่งรายการแชมป์สโมสรโลก นั่นหมายความว่า เขาจะไม่มาคุมทีมในนัดรีเพลย์ และจะส่งผู้เล่นที่เป็นชุดเยาวชนลงแข่งในนัดดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งผลในเกมนั้น ทุกคนก็น่าจะจำได้ว่าลิเวอร์พูลชุดเด็กน้อยโดนถล่มแหลกไป 5-0 จากแอสตันวิลล่า นั่นก็ทำให้แฟนๆ น่าจะเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะระดับชั้นของชุดเล็กกับชุดใหญ่นั้นมันห่างกันมากมายจริงๆ นัดรีเพลย์อาจจะพอหวังได้มากกว่านิดหน่อยเพราะทีมระดับลีกวันแบบนี้ ความห่างชั้นอาจจะไม่มากเท่าไร แต่แค่นี้ก็ทำให้ความฝันของแฟนๆ ที่หวังเอาไว้สูงก็แทบจะดับสลายไปแล้ว




          งานนี้ไม่รู้ว่าจะโทษใครมากกว่ากัน ระหว่างเอฟ เอที่จัดโปรแกรมไม่ได้เรื่อง หรือคล็อปป์ที่จัดทีมแบบไม่เน้นในถ้วยนี้จนเกิดความเสียหายที่เกินคาดขนาดนี้ แต่ก็นั่นแหละครับ ยังไงเป้าหมายหลักของลิเวอร์พูลก็ไม่ใช่ เอฟ เอ คัพ หรือ ทริปเปิ้ลแชมป์อะไรนั่นอยู่แล้ว การไม่มีโปรแกรมมาให้เสียสมาธิแบบนี้ อาจจะทำให้ลิเวอร์พูลมุ่งมั่นกับเป้าหมายหลักให้เต็มที่มากกว่าเดิมก็ได้  ยังไงถ้วยที่แฟนๆ และทีมต้องการที่สุดยังไงก็ต้องเป็น พรีเมียร์ลีก มากกว่า เอฟ เอ คัพอยู่แล้ว จริงไหมล่ะครับ
    


  




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด