โดยเฉพาะผู้ที่มอบหัวใจให้กับ "ฟุตบอล" เพราะมันเป็นเสียงนกหวีดแรก ที่จะบ่งบอกว่า "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
หนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรที่ยิ่งใหญ่สุดของแผ่นดินยุโรป ทั้งติดขอบสนาม หรือหน้าจอโทรทัศน์ ได้ตื่นจากภวังค์ในความมืด
นั่นคือบทเพลงประจำทัวร์นาเมนต์ ที่บรรเลงก่อนที่นักเตะทั้งสองทีมจะเปิดฉากดวลเพลงแข้งกัน ถือเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และติดอยู่ในความทรงจำอย่างแนบแน่น
เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินเพลงประกอบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กันมาหมดแล้ว แต่สำหรับใครหลายคน อาจยังไม่เคยทราบถึงประวัติ และความเป็นมา หรือว่าผู้ที่บรรจงใส่เนื้อร้อง และทำนอง เป็นใครกัน
"UEFA Champions League Anthem" ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1992 ขวบปีที่ศึกยูโรเปี้ยน คัพ ถูกแทนที่ด้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่มาพร้อมกับรูปแบบการแข่งขันแบบใหม่ พร้อมทั้งให้โอกาสสโมสรอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
ส่งผลให้สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ต้องการใช้เพลงประจำการแข่งขันแบบใหม่ เพื่อเป็นการเข้าถึงแฟนบอลในมุมที่แตกต่างออกไป
ซึ่งเนื้อร้อง และท่วงทำนอง ผ่านกระบวนการทางความคิด และเรียบเรียงโดย "โทนี่ บริทเท่น" ชายวัยกลางคนชาวอังกฤษ ที่จบการศึกษาจาก"“โรยัล คอลเลจ ออฟ มิวสิค" สถานศึกษาด้านดนตรีที่เก่าแก่ของประเทศบ้านเกิด
โดยทั้งหมดได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงโบราณอย่าง "Zadok The Priest" ที่กำเนิดขึ้นเมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว พร้อมกันนี้ เพลงยังถูกบรรเลงโดย "โรยัล ฟิลฮาร์โมนิค ออร์เคสตร้า" วงที่มีอายุกว่า 7 ทศวรรษ
พร้อมกับขับร้องประสานเสียงโดย "อคาเดมี่ ออฟ เซนต์ มาร์ติน อิน เดอะ ฟิลด์ คอรัส" ที่มีชื่อเสียงมาตลอดเกือบ 60 ปี แถมยังทำออกมาเป็น 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน ทั้งในภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมัน
บริทเท่น เล่าว่า "ผมภาคภูมิใจกับความนิยมของบทเพลงประจำการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้มันจะไม่ได้เป็นงานที่ยอดเยี่ยมสุด เท่าที่ผมเคยทำมาก็ตาม"
"มันเป็นบทเพลงที่ทรงพลังมาก มันทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างคิดทันทีว่า -ออกไปดูฟุตบอลกันเถอะ-" บริทเท่น บอกต่อว่า "มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เมื่อสเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก ตำนานกองกลางของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ออกมาบอกว่า เพลงนี้ทำให้เขารู้สึกขนลุก และคิดว่ามันเป็นเพลงกีฬาที่ยอดเยี่ยมสุดตลอดกาล ผมได้รับการยกย่องจากตรงนี้"
แม้เพลงจะออกมาแบบ 3 ภาษา แต่ความหมายของทุกเวอร์ชั่นก็เหมือนกันหมด โดยสื่อความโดยรวมว่า ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นการแข่งขันที่ออกแบบมาเพื่อทีมที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ยังเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นการเผชิญหน้ากันของทีมระดับแชมเปี้ยน จึงไม่น่าแปลกใจว่า แทบทุกคนที่มีส่วนร่วมกับทัวรนาเมนต์นี้ จะมีความรู้สึกดีๆกับตัวบทเพลง
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะคนสำคัญของเรอัล มาดริด ยอมรับว่า เขาหลงใหลบทเพลงนี้เป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยสร้างความฮึกเหิม และพลังแฝงในการลงไปฟาดฟันกับคู่แข่ง
จึงไปน่าแปลกใจที่กล้องโทรทัศน์ที่คอยทำหน้าที่ถ่ายทอดสด เคยจับภาพ "CR7" เปล่งเสียงร้องเพลงดังกล่าว ก่อนเริ่มเกมการแข่งขันมาแล้ว
ขณะที่ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ของบาร์เซโลน่า ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบเพลงนี้เป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นการลั่นระฆังว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กำลังรออยู่ในไม่กี่อึดใจ มันยังช่วยบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ ว่านี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ไม่เหมือนใคร
โดยจอมทัพทีมชาติอาร์เจนติน่า บอกว่า "เมื่อคุณก้าวเท้าลงไปในสนาม และได้ยินเสียงเพลง คุณจะรู้ทันทีว่า นี่คือเกมที่แสนสำคัญ และสุดพิเศษ"
ปิดท้ายที่ซีเนดีน ซีดาน ที่สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งในฐานะของนักเตะ, ผู้ช่วยผู้จัดการทีม และผู้จัดการทีม
เจ้าตัวออกมายกย่องมนต์ขลังแห่งตัวโน๊ตเช่นกันว่า "เมื่อหูของคุณได้สัมผัสกับท่วงทำนองของเพลงนี้ คุณจะหลงในมนต์เสน่ห์ของมันทันที คุณจะได้เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง"
