สิ้นสุดความทรมานสำหรับแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังทีมจัดการคว้าตัว บรูโน่ แฟร์นันเดส มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย
จากช่วงซัมเมอร์ยืดเยื้อมาจนถึงตลาดหน้าหนาว จากทำท่าว่าจะล่มสุดท้ายก็ยังได้ตัวมาครอบครองในที่สุด ช่วยให้เหล่าสาวก "เร้ด เดวิลส์" ได้เฮฮากันบ้าง หลังผลงานในฤดูกาลนี้ทำเอาหัวใจห่อเหี่ยวไปตามกัน
บางคนสงสัยว่าตำแหน่งในกันแน่ที่เป็นพื้นที่ถนัดของสตาร์ทีมชาติโปรตุเกส? มิดฟิลด์ตัวรุก, มิดฟิลด์ตรงกลางสนาม หรือเป็นหน้าต่ำ
หากมองจากการยืนตำแหน่งที่ผ่านกับต้นสังกัดเก่าอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ชัดเจนว่าเขายืนอยู่ในในตำแหน่งกองกลางตัวรุก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถถอยลงไปยืนในตำแหน่งกองกลางด้วยเช่นกัน
ถ้าทีมเล่นในระบบ 4-2-3-1 บรูโน่ จะเล่นตรงกลางของสามประสานหลังกองหน้าตัวเป้า แต่หากทีมเล่นในระบบ 4-3-3 เขาก็จะลงมายืนอยู่ในตำแหน่งกองกลางไม่ว่าจะฝั่งซ้ายหรือขวาก็ตาม
เรียกได้ว่าสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งเป็นประโยชน์กับทีมอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่หากมองจากสถิติตัวเลขต้องบอกว่า บรูโน่ คงจะถนัดที่จะขึ้นไปเล่นเกมรุกมากกว่า, 32 ประตูจาก 53 เกมเมื่อซีซั่นที่แล้ว รวมถึง 15 ประตูจาก 28 เกมในซีซั่นนี้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจน
กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังเจอปัญหาบาดเจ็บของกองกลางอย่าง ปอล ป็อกบา และ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ นั่นทำให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส อาจจะต้องแบกภาระทันทีที่ก้าวลงสู่สนาม
เรื่องบ้างที่เหล่าสาวกปีศาจแดงคาดหวังจากการมาของ บรูโน่ แฟร์นันเดส กับสิ่งที่เขาทำมาตลอดการค้าแข้งกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ย่อมอยากให้มันเกิดขึ้นในรั้วโอลโด์ แทรฟฟอร์ดเช่นกัน
ความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามอย่างหนักที่จะเซ็นสัญญากับ บรูโน่ แฟร์นันเดส มาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์จนกระทั่งสมหวังในที่สุด
อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดนายใหญ่ชาวนอร์เวย์ให้พยายามดึงสตาร์วัย 25 ปีรายนี้มาร่วมทีมให้ได้
ในฐานะกัปตันทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งที่มีอย่างชัดเจนในตัวของ บรูโน่ นั่นก็คือความเป็นผู้นำ และถึงแม้จะเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ "ปีศาจแดง" แต่ด้วยทีมเต็มไปด้วยแข้งพลังหนุ่ม เท่ากับว่าเขาไม่ได้เป็นนักเตะที่ด้อยไปกว่าใครเลย
และด้วยจำนวนประตูรวมถึงแอสซิสต์ในการค้าแข้งในโปรตุเกส ทำให้เขามีอิทธิพลอย่างสูงกับการเล่นของทีม เป็นที่นับหน้าถือตาของนักเตะน้อยใหญ่ในทีมจนได้รับหน้าที่กัปตันทีมทั้งที่เพิ่งย้ายมาเล่นกับทีมไม่นาน
สิ่งที่สำคัญในตัว บรูโน่ ก็คือมีความดุดันแต่ถ่อมตัว เขามีความมั่นใจในการเล่นของตัวเอง ที่สำคัญคือแข้งทีมชาติโปรตุเกสมีทัศนคติการเล่นที่ไม่ยอมแพ้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยูไนเต็ดขาดหายไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
จริงอยู่ที่ ปอล ป็อกบา มีคุณสมบัติเหมาะสม แต่การมีปัญหาเรื่องย้ายทีมทำให้ความสำคัญถูกลดทอนลงไป รวมถึงแฟนบอลไม่ชอบหน้า ยังไม่รวมถึงโอกาสที่จะโดนขายออกจากทีมให้สิ้นเรื่องไปหลังจบซีซั่นนี้
ยังไง บรูโน่ แฟร์นันเดส จะได้เป็นแกนหลักของทีม อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว แต่เราอาจจะได้เห็นเขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทีมได้เช่นกัน
ความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่น
บรูโน่ แฟร์นันเดส เป็นนักเตะที่สร้างทำประตูถึง 239 ครั้ง มากที่สุดในช่วงเวลาของเขาในโปรตุเกส ผ่านบอล 1,364 คร้งในพื้นที่สุดท้าย, ผ่านบอลทะลุช่อง 17 หน รวมถึงแอสซิสต์ 28 ครั้ง ถือเป็นตัวเลขที่สุดยอดทีเดียว
สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสมีสไตล์ที่คล้ายกับ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งทั้งคู่มีทีเด็ดอยู่ที่การผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายรวมถึงจังหวะจ่ายบอลทีเด็ดทีขาด หรือจะการวางบอลข้ามฟาก กำหนดทิศทางการเล่นของทีม
บรูโน่ กำหนดจังหวะการเล่นของทีม การจ่ายบอลทั้งสั้น-ยาว, การเปลี่ยนการเล่นของทีม, เล่นชิ่ง 1-2, ด้วยการผ่านบอลที่แม่นยำถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในการเล่นเกมรุกอย่างมหาศาล
หลังจากให้ลองเล่นในระบบมิดฟิลด์ในแผน 4-3-3 ในที่สุด สปอร์ติ้ง ลิสบอน ปรับให้นักเตะเล่นเป็นตัวฟรี กลายเป็นได้สิ่งที่ดีที่สุดจากแข้งรายนี้จนพังตาข่ายและแอสซิสต์เป็นกอบเป็นกำให้กับสโมสร รวมถึงกำหนดจังหวะช้า-เร็วของทีม
ที่สำคัญนั่นคือตำแหน่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถวิลหามาตลอดฤดูกาลนี้ เมื่อตัวที่มีอยู่อย่าง เจสซี่ ลินการ์ด รวมถึง อันเดรียส เปเรยร่า หรือแม้แต่ ฆวน มาต้า ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง นำมาซึ่งเสียงเรียกร้องให้ทีมหาแข้งในตำแหน่งนี้ให้ได้
3 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ จากการลงสนามรวมกัน 29 เกมของ 3 แข้งในตำแหน่งหมายเลข 10 ในซีซั่นนี้ ถือเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเป็นนักเตะของ "ปีศาจแดง"
บรูโน่ จะเป็นคำตอบของนักเตะในตำแหน่งเกมรุกของทีม รวมถึงเมื่อ ปอล ป็อกบา กลับมา ทั้งคู่น่าจะประสานงานกันได้เป็นอย่างดีด้วยเซนส์บอลที่ทันกันอยู่นั่นเอง
ฟอร์มถล่มประตู
32 ประตูจาก 53 เกม แถมยังมีอีก 18 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่แล้วหากบอกออกมาแบบนี้คงไม่มีใครคิดว่านี่จะมาจากนักเตะในตำแหน่งกองกลาง
ระยะเวลา 2 ปีครึ่งในฐานะนักเตะของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน, บรูโน่ แฟร์นันเดส ทำไปทั้งสิ้น 64 ประตูจาก 137 เกม ไม่ใช่แค่ส่งบอลสู่ก้นตาข่าย เขายังมีทีเด็ดที่การยิงไกลจากนอกกรอบ ทั้ง 39 ลูกที่เกิดขึ้นในเกมลีกมีอยู่ 9 ลูกที่มาจากรอกกรอบ
หลายครั้งหลายหนในซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้ ซึ่งเมื่อเจาะไม่เข้าแฟนบอลย่อมคาดหวังจากการยิงไกลนอกกรอบ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไรนัก
สิ่งที่ยอดเยี่ยมของ บรูโน่ ก็คือการเล่นด้วยเท้าทั้งสองข้าง แถมทำได้ดีทั้งสองฝั่งซะด้วยสิ ซึ่งการเล่นที่รวดเร็วของเขาน่าจะไปได้สวยกับการประสานงานกับทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่มีความเร็ว หากมองตามหน้าเสื่อก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี
เฟลิเป้ ดิอาส บรรณาธิการของ โอ โชโก สื่อในโปรตุเกสพูดถึง บรูโน่ ว่า "เรากำลังพูดถึงกองกลางตัวรุกที่ยิง 32 ประตู, แม้ว่าจะเกิดขึ้นในลีกโปรตุเกสและในยูโรปา ลีก, ซึ่งไม่ได้เป็นที่ดึงดูดอะไรมากนัก แต่คุณก็ไม่อาจปฏิเสธพรสวรรค์ของเขา"
"เขามีความสามารถในการพังประตู, ในชีวิตนักข่าว 20 ปี, ผมไม่เคยเห็นกองกลางคนไหนยิงประตูแบบนั้นมาก่อน, มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ"
"โอเค, เรากำลังพูดถึงฟุตบอลของโปรตุเกสและในยูโรปา ลีก, แต่เมื่อคุณสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมในสังเวียนที่ลงสนาม, นี่คือนักเตะระดับท็อป"
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา, เราได้เห็นนักเตะมีชื่อย้ายมาเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ดอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย หรือ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ได้รับการคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยความล้มเหลวไป
กับ บรูโน่ แฟร์นันเดส แน่นอนว่าเขาได้รับความคาดหวังอย่างสูง ในช่วงเวลาที่สโมสรกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวกลับมา นั่นอาจะต้องใช้เวลากันอยู่บ้างเพื่อให้เข้าใจการแข่งขันของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เกมในวันเสาร์นี้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน อาจจะเป็นไปได้ที่เขาจะมีชื่ออยู่ในทีม และถึงแม้ว่าจะได้ลงสนามก็คงจะไม่อาจเป็นตัดชี้วัดความสำเร็จได้
ให้เวลาได้ปรับให้เข้ากับเกมของอังกฤษรวมถึงเพื่อนร่วมทีม ด้วยศักยภาพในตัวที่มีน่าจะช่วยทีมได้อย่างมากเลยทีเดียว
