:::     :::

เชียงราย : ปรัชญาลูกหนังที่ "น้อยแต่มาก"

วันจันทร์ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2563 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
4,760
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้มีการเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่การเป็น "แชมป์เก่า" ทำให้พวกเขายังคงถูกจับตา

การเปลี่ยนผ่านกุนซือ ผู้เสกแชมป์ไทยลีกสมัยแรกในประวัติศาสตร์จาก ไอลตัน ซิลวา มาเป็น มาซามิ ทากิ โผล่มาพร้อมคำถามที่ว่า เฮดโค้ชโนเนมเลือดซามูไร จะจับกว่างโซ้งตัวนี้เดินในทิศทางใด

ในปีที่ “ความคาดหวัง” สูงขึ้นจากเดิม และต้องลงเล่นในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก

ตลาดซื้อขายเมืองเหนือปีนี้ค่อนข้างเงียบ สโมสรเลือกเก็บผู้เล่นหลักไว้กับทีมเกือบทั้งหมด มีเพียง วิลเลียม เอ็นริเก ที่ถูกปล่อยออกไป ทว่าก็ได้คนใหม่อย่าง มาอิลซอน ฟาเรียส เข้ามา

ขณะที่ ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, ถิรายุ บรรหาร หรือ ธัชนนท์ นคราวงศ์ อาจเป็นเพียงแข้งป้ายแดงที่เสริมมา เพื่อเพิ่มขนาดทีม ที่มีโปรแกรมอัดมามาขึ้นในฤดูกาลนี้ พร้อมคอยซับพอร์ตกำลังหลัก




ผู้เขียนมีโอกาสชมเกม ลีโอ ปรีซีซั่น 2020 และ ออมสิน ไทยแลนด์แชมป์เปียนส์คัพ ของ สิงห์ เชียงรายฯ 3 นัดที่ผ่านมา พบว่า พวกเขาแทบไม่มีการเปลี่ยนทีมจากซีซั่นที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก

ผู้เล่นเก่ายังคงลงสนาม ขณะที่รายใหม่คอยเป็น “อะไหล่” เปลี่ยนผ่านตามแท็คติกไป

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปของ สิงห์ เชียงรายฯ ในปีนี้เห็นจะเป็นรูปแบบการเล่นมากกว่า

มาซามิ พยายามใช้ทัวร์นาเมนต์ก่อนเปิดซีซั่น “ทดลอง” แท็คติกทีมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 3-4-3, 3-5-2 หรือล่าสุดที่เปลี่ยนมาเล่น 4-4-2

ข้อดีของทีมชุดนี้คือ ไม่ว่าจะถูกเปลี่ยนผ่านเล่นด้วยระบบใด นักเตะมีความเข้าใจในแบบแผนเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้คือผลพลอยได้ที่ทีมชุดนี้ฝ่าฟันร่วมกันมานานหลายฤดูกาล

ไม่มี “ซุปตาร์” ประดับทีม หรือมีคีย์แมนคนสำคัญคอยกำหนดเกม ทั้ง 11 คนรับรุกพร้อมกันอย่างเป็นระบบ สู้ด้วยแท็คติกมากกว่าความสามารถเฉพาะตัว

ตั้งรับเหนียวแน่น รอสวนกลับตามแท็คติก เคลื่อนที่ไปตามจังหวะเกม เล่นบอลน้อยจังหวะ ไม่ซับซ้อน เกมรุกมีบอลยาวสั้นสลับกันอย่างแม่นยำ รวดเร็ว ใช้การเล่นน้อยจังหวะที่สุด และจบด้วยการทำประตู

สิ่งเหล่านี้คือภาพชัดเจนที่เปลี่ยนไปของ เชียงรายฯ จากซีซั่นก่อน  




แนวรับ ไม่ว่าจะเล่นแบบหลัง 3 หรือ 4 วินัยทั้งแผงยังคงดี คอยซับพอร์ตช่วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ศราวุธ อินทร์แป้น, บรินเนอร์ เอ็นริเก, ชินภัทร ลีเอาะ หรือ ธนะศักดิ์ ศรีใส

แบ็กซ้ายขวา ยี่ห้อ สุริยา สิงห์มุ้ย อาจไม่หวือหวา แต่คลาสสิก เกมรับยังแกร่งไว้ใจได้ คอยช่วยเพื่อนได้อย่างดี ขณะที่ฟากขวา ไม่ว่าจะถ่าง ชินภัทร หรือ โชติภัทร พุ่มแก้ว มาเล่นยังคงรักษาวินัยเกมรับได้ แม้เกมรุกยังมีจุดต้องปรับจูนอยู่บ้าง

แดนกลาง 3 อีซ้ายอย่าง อี ยองแร, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล และ ศิวกรณ์ เตียตระกูล เล่นร่วมกันได้อย่างลงตัว ทั้งรุกและรับ ถ่างออกไปเป็นตัวริมเส้น หรือ สวิตซ์บอล ทั้งหมดสามารถทดแทนได้อย่างดี ที่สำคัญบอลยาว-สั้น ทั้งสามคนแม่นยำราวจับวาง จุดนี้คือสิ่งที่ผู้เขียนมั่นใจว่า แดนกลาง เชียงรายฯ ดีกว่าทุกทีมในไทยลีก




ขณะที่ตัวรุกดูเหมือน ชัยวัฒน์ บุราณ จะพบบทบาทใหม่ในการเป็นกองหน้าคู่กับ บิลล์ โรซิมาร์ คนหนึ่งบนวัย 35 ปี ยังเลี้ยงกินตัวไปกับบอลได้ดี อันตรายในกรอบเขตโทษ “ช้าแต่ถึก” ส่วนอีกรายมีความเร็ว ถ่างไปเล่นริมเส้นได้ สอดเข้าเขตโทษดี มีอีซ้ายคอยตะบัน  

ปรีซีซั่นที่ผ่านมา แท็คติกของ มาซามิ ทากิ ค่อย ๆ ทำให้ สิงห์ เชียงรายฯ สมบูรณ์ในอีกแบบ ลงตัวมากยิ่งขึ้น อาจจะไม่ได้เล่นเกมรุกสะเด่าเหมือนปีผ่านมา ทว่าเป็นเพอร์เฟกต์เกม ที่ได้ผลการแข่งขันตามต้องการ

ปัญหาเดียวของ สิงห์ เชียงรายฯ ในเวลานี้อาจเป็น “ผู้เล่นใหม่” ว่าจะ “ปรับตัว” ให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีม และแบบแผนได้เร็วช้าแค่ไหนเท่านั้น

หากจัดการปัญหานี้ได้ก่อนเปิดซีซั่น การที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อกฯ หรือ การท่าเรือ จะมาท้าแย่งแชมป์จาก สิงห์ เชียงรายฯ

บอกเลยว่า…ไม่ง่าย


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด