เป็นครั้งแรกที่พรีเมียร์ลีกมีช่วงหยุดเบรกระหว่างฤดูกาลซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับทุกทีมที่กรำศึกกันมาหนักหลายเดือนนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา

ในช่วงพักเบรก มิเกล อาร์เตต้า มีภารกิจให้ทำหลายอย่างก่อนกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมพรีเมียร์ลีกเปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือ นิวคาสเซิ่ล วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 

และนี่คือ 3 ภารกิจเร่งด่วนในช่วงเบรกหนีหนาว

1. ประเมินศักยภาพ 2 แข้งใหม่

อาร์เซน่อล ปิดตลาดเดือนมกราคมด้วยการได้ 2 ผู้เล่นใหม่มาร่วมทีมคือ ปาโบล มารี เซนเตอร์แบ็กชาวสเปนของ ฟลาเมงโก้ และ เซดริก โซอาเรส แบ็กขวาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน

ปาโบล มารี กำลังเร่งทำความฟิตเพราะย้ายมาในช่วงที่เพิ่งจบฤดูกาลกับ ฟลาเมงโก้ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สภาพความฟิตจึงเหมือนนักเตะช่วงปรีซีซั่นซึ่งต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการเรียกความฟิตและลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่

ส่วนในรายของ เซดริก โซอาเรส มีอาการบาดเจ็บติดตัวจากการลงเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตันก่อนย้ายมา ตอนนี้กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงยิม และน่าจะกลับมาลงสนามซ้อมได้หลังเบรกทีมชาติ

ในช่วงนี้ อาร์เตต้า และสตาฟฟ์โค้ชต้องประเมินสภาพร่างกายและความฟิตของทั้งคู่อย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าจะพร้อมช่วยทีมได้เมื่อไหร่ และช่วยได้อย่างไรในช่วงที่โปรแกรมเริ่มชุก

หลังพักเบรก อาร์เซน่อล มีคิวต้องลงเล่นทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้ายพบ พอร์ทสมัธ และ ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายที่จะพบ โอลิมเปียกอส 

ปาโบล มารี ปราการหลังคนใหม่

2. ลดข้อผิดพลาด

ในช่วงที่ผ่านมา หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ อาร์เซน่อล มีผลงานไม่ดีเช่นเดียวกับไม่สามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้คือ ความผิดพลาดของตัวเอง

นับเฉพาะในยุคของ มิเกล อาร์เตต้า ก็มีหลายนัดที่ อาร์เซน่อล เล่นพลาดเองจนถึงขั้นเสียประตูให้คู่แข่งไม่ว่าจะเป็นเกมลีกที่แพ้คาบ้านต่อ เชลซี 1-2 และอีกนัดที่พบเชลซีซึ่งเสียทั้งจุดโทษและใบแดง ยังดีที่ช่วยกันสู้จนได้ผลเสมอ 2-2 กลับออกมา

ความผิดพลาดของตัวเองเหล่านี้คือสิ่งที่ อาร์เตต้า ต้องวิเคราะห์และหาทางจัดการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก หรือเกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะความผิดพลาดเองแบบนี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายจนเสียประตู แต่ยังบ่อนทันกำลังใจผู้เล่นในทีมอีกด้วย 

อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ต้องเค้นฟอร์มออกมาให้ได้

3. เกมรุกต้องเฉียบกว่าเดิม 

ในช่วงแรกที่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีม ภารกิจสำคัญคือปรับปรุงเกมรับที่หละหลวมและเสียประตูง่ายซึ่งผ่านมาถึงตรงนี้ถือว่าทำได้ดีพอสมควรแม้จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอยู่บ้าง

ตลอด 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ อาร์เซน่อล เสียเกิน 1 ประตูต่อนัดเพียง 2 นัดที่พบ เชลซี และเก็บคลีนชีตได้ 3 นัด ที่เหลือเสียนัดละ 1 ประตู

ภารกิจใหม่ในตอนนี้จึงเป็นเกมรุกที่ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมาก

อาร์เซน่อล ทำประตูในลีกได้เพียง 32 ประตูจาก 25 นัด ไม่ถึงครึ่งของ แมนฯ ซิตี้ ด้วยซ้ำ ขณะที่ประตูได้-เสียก็ติดลบที่ 2 

นอกจาก ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่นำดาวซัลโวของทีม 14 ประตูในลีกแล้ว คนที่เหลือไม่มีใครยิงได้เกิน 5 ประตูเลย 

ทีมปืนใหญ่มีตัวรุกชื่อดังหลายคนทั้ง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, เมซุต โอซิล และ นิโกล่าส์ เปเป้ รวมถึง โอบาเมย็อง แต่สถิติการทำประตูยังถือว่าน้อยเกินไป เช่นเดียวกับการสร้างสรรค์เกมที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้

อาร์เซน่อล เสมอในลีกไปแล้ว 13 นัด มากกว่าทุกทีมซึ่งด้วยการที่เกมรุกไม่เฉียบขาดมากก็คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้พลาดชัยชนะที่น่าจะทำได้ในหลายต่อหลายนัด

อาร์เตต้า รู้ดีว่าตอนนี้ทีมมีปัญหาเกมรุกและต้องพยายามปรับแก้ให้ได้โดยเฉพาะในรายของ ลากาแซ็ตต์ ที่ช่วงหลังฟอร์มตกชัดเจนและยิงประตูไม่ได้มา 2 เดือนแล้ว 

---

ทั้งหมดนี่คือภารกิจเร่งด่วนในช่วงพักเบรกที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องพยายามปรับเปลี่ยนเพื่อพาทีมกลับสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้งเช่นเดียวกับรักษาความหวังลุ้นพื้นที่ยุโรปให้ได้