วันนี้ในที่สุดก็ถึงเวลาที่รอคอย และผมรอที่จะเขียนถึงมาสักพักใหญ่ๆแล้วนับตั้งแต่มีข่าวว่าสโมสรเราสนใจที่จะเซ็นสัญญายืมตัว Odion Ighalo อดีตกองหน้าวัตฟอร์ด ปัจจุบันมีสัญญากับทีมเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว (Shanghai Greenland Shenhua) นี่คือการรีวิวข้อดีข้อด้อย และวิเคราะห์การเล่นทั้งหมดของนักเตะผู้นี้ ที่ยูไนเต็ดเซ็นสัญญาระยะสั้นเข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ขาดนักเตะแดนหน้า หลังจากที่มาร์คัส แรชฟอร์ดของเราได้เจ็บยาวไป

โอดิออน อิกาโล่ผู้นี้มีอะไรที่น่าสนใจ และสามารถไปลงตรงไหนในสูตรการเล่นของยูไนเต็ด ภายใต้บังคับบัญชาของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาได้บ้าง ไปดูกัน

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อจริง : Odion Jude Ighalo

เกิด : 16 June 1989 อายุ 30 ปี

สัญชาติ : Nigeria

ส่วนสูง 188 เซ็นติเมตร / เท้าที่ถนัด : ขวา

ตำแหน่ง : กองหน้า

นักเตะในดวงใจ : Dwight Yorke & Andy Cole

ทีมโปรด : Manchester United

แค่ภาพนี้ก็ได้ใจแฟนผีชิบหายแล้ว

1.ตำแหน่งการเล่น

ว่ากันด้วยpositionการเล่นของเขานั้น เท่าที่สังเกตแล้ว อิกาโล่เป็นกองหน้าสาย "จบสกอร์" เป็นตัวจบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายที่ดีมากๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ลงมามีส่วนร่วมกับเกมรุกค่อนข้างมาก มีสกิลความสามารถในการพาบอลเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ด้วยตัวเอง และสามารถเล่นร่วมกับคนอื่นได้ดี

ดังนั้นใครที่คาดหวังว่า เขาจะเป็นST แบบTarget Man กองหน้าตัวเป้าค้ำกลางจ๋าๆคล้ายอิบราฮิโมวิช ต้องบอกเลยว่า "ไม่ใช่"

แต่Roleการเล่นที่ดีที่สุดของอิกาโล่คือ Advance Forward หรือแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือ

กองหน้าตัวยิงที่ครบเครื่อง (กองหน้าแอดวานซ์) นั่นเอง

เหตุเพราะว่า อิกาโล่สามารถที่จะรอชาร์จจบสกอร์ และรอที่จะยิง ยิง และก็ยิงอย่างเดียวเป็นหลัก

แต่Advance Forwardนั้นมีความสามารถที่จะ "ลงต่ำ" มาล้วงบอล และมีส่วนร่วมกับเกมได้ด้วย บางครั้งยังสามารถฉีกออกไปเล่นด้านข้างในพื้นที่เปิดได้อีก

ดังนั้นหน้าที่หลักๆของอิกาโล่ที่เราจะคาดหวังได้นั้น  เขาเป็น"กองหน้าตัวยิง" แบบที่เราขาดจริงๆ อันนี้สบายใจได้ แต่อิกาโล่สามารถถอนลงต่ำมาปั้นเกม เลี้ยงเอาชนะคู่ต่อสู้ และไปด้วยตัวเองได้ดีมากๆ  ไม่ใช่รอยิงอยู่แต่ในกรอบเขตโทษอย่างเดียว แถมยังเป็นนักเตะที่มีทีมเวิร์คที่ดี เล่นร่วมกับตัวรุกคนอื่นๆได้อีกด้วยจากการสังเกตวิธีการจ่ายบอลแทงบอลให้เพื่อนฉลาดๆหลายต่อหลายครั้ง

กองหน้าสายยิ้ม ยิ้มหวานพอๆกับบรูโน่และผู้จัดการทีม!

2.จุดเด่น

จุดเด่นในการเล่นของอิกาโล่นั้นมีหลายอย่างมากที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ โดยพิจารณาจากการดูการเล่นของอิกาโล่ตรงๆผ่านหลายคลิป และสิ่งที่เห็นก็ชัดมากๆ สามารถแยกแยะสกิลเด่นของเขาได้หลายข้อดังต่อไปนี้

2.1 การเลี้ยงบอล (dribble)

เป็นสกิลที่โคตรโดดเด่นมากๆของอิกาโล่ นั่นก็คือการเลี้ยงบอล

อิกาโล่เป็นกองหน้าที่เลี้ยงบอลได้ดีมาก เลี้ยงเหนียวติดเท้ายังไม่พอ ยังวิ่งไปกับบอล พาบอลขึ้นหน้าได้ดี ด้วยทักษะและความเร็วที่มี ยามที่เขาได้บอลและมีพื้นที่เปิดให้เล่น ยากมากที่กองหลังคู่แข่งจะสามารถตัว-ตัว เอาอิกาโล่ลงไปได้

2.2 เทคนิค (technique)

ต้องบอกว่า ไม่น่าเชื่อหากดูจากภายนอก นักเตะแอฟริกันแบบนี้น้อยคนนักที่จะมีเทคนิคน่าสนใจ แต่กับอิกาโล่ถือว่าเป็นนักเตะจอมแพรวพราวอีกคนนึงที่มี "ทริค" ในการเอาชนะคู่แข่งเยอะมาก ซึ่งผมเชื่อว่าในสนามเขาจะต้องเอามันมาใช้ให้แฟนบอลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เห็นแน่ๆ เพราะมันคือธรรมชาติการเล่นของเขา

2.3 ความเร็ว (Speed / Pace)

ถ้าเป็นศัพท์ของนักวิ่งเพซมันคือความเร็วที่เป็นปริมาณนาทีต่อการวิ่ง1กิโล แต่ในโลกของสแตทนักฟุตบอล paceก็คือตัวที่ใช้ดูว่า นักฟุตบอลคนนั้นวิ่งเร็วรึเปล่า นั่นเอง ซึ่งก็ต้องบอกว่า อิกาโล่เป็นกองหน้าที่เร็วมากคนนึง  อาจจะไม่ถึงขนาดระดับตัวจี๊ด แต่ที่แน่ๆความเร็วก็ไม่น่าจะแพ้นักเตะแนวรุกคนอื่นๆของเราที่มีอยู่แล้วอย่าง หมากแรชเจมส์ มากนัก

เอามาเข้าทีม ก็กลมกลืนเข้ากับฟร้อนท์ทรีของทีมเราเลย ความเร็วใกล้เคียงกันมาก

ข้อนี้มันดีตรงที่ เขาสามารถปรับตัวเข้ากับแผนการเล่นที่โอเล่วางเอาไว้ และใช้กับนักเตะเหล่านี้ได้แบบไม่มีรอยต่อเลย เพราะการเล่นในสนามไม่ได้แปลกแยกหรือสไตล์โดดต่างออกไปจนไม่เข้ากับเพื่อน  อันนี้ถือเป็นเรื่องดีมากๆที่อิกาโล่เป็นนักเตะที่มีความเร็ว  ดังนั้นน่าจะเข้ากับปรัชญาที่เน้นความเร็วของแมนยูได้อย่างดี

2.4 ไหวพริบและเซนส์ (Flair)

ข้อนี้เรียกง่ายๆว่า "ความฉลาดในการเล่นสูง" มีไหวพริบที่จะแก้สถานการณ์ตรงหน้าได้ทันท่วงทีและรวดเร็ว มีเซนส์บอลที่ดี เข้าใจเกมและหาทางเอาชนะการโดนประกบติดตรงหน้าได้ดีมากๆ

สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาสามารถพลิกแพลงการยิงได้หลายรูปแบบ ยิงด้วยเท้าซ้ายก็เห็นมีมาแล้ว และเข้าฮอร์สได้หลากหลายรูปแบบมากๆ เรียกง่ายๆว่า "ยิงยังไงก็ได้ขอให้มันเข้า" นั่นแหละมันเป็นมิติที่แมนยูไนเต็ดกำลังขาดเลย และอิกาโล่คือนักเตะคนนั้น  สามารถเอาตัวรอดในพื้นที่แคบได้ตัวเองได้ และยิงได้ทุกรูปแบบ ข้อนี้น่าสนใจมากๆ

ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงเป็น Striker

2.5 ความคล่องตัวและบาลานซ์ร่างกาย (Agility & Balance)

เรื่องนี้สำคัญ หลังจากที่นั่งดูมาหลายต่อหลายคลิปไม่ใช่แค่คลิปเดียว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ไอ้หมอนี่มันคล่องมากๆ เล่นบอลคือ ปึ๊บปั๊บ ปึ๊บปั๊บ ขยับตัวพลิกซ้ายขวาได้ตลอดเวลา  คือโคตรคล่อง คล่องยิ่งกว่าโดนสวนทวารซะอีก(หืม!?) สกิลนี้น่าจะใช้ในพรีเมียร์ลีกที่ประกบติดตัวให้เล่นยากอยู่ทุกนัดได้สบายๆดังที่เจ้าตัวเคยทำมาก่อนแล้ว

ส่วนเรื่องบาลานซ์ร่างกายนั้นถือว่าเยี่ยมยอด ผมเห็นการทรงตัวของอิกาโล่แล้วนึกถึงยางรถยนต์คืนรูป ที่ไม่ว่าจะถูกชนถูกกระแทกยังไง มันจะไม่ค่อยล้ม มักจะประคองตัวแล้วไปต่อได้เสมอ ซึ่งในเคสของบาลานซ์ร่างกายดีนี้มันส่งผลถึงเรื่องของการ "เก็บบอลในแดนหน้า" ให้กับทีมเราได้ดีด้วย

เคยชนปะทะกับทิมโบ้ / สมอลลิ่งมาแล้วสบายๆสมัยเล่นให้วัตฟอร์ดตอนเจอทีมเรา เรียกจุดโทษจากแมนยูก็ทำมาแล้ว

2.6 การครองบอล เก็บบอล พักบอลในแดนหน้า (Ball Control)

นี่คือสิ่งที่แฟนแมนยูถวิลหามาโดยตลอด แต่แม่งไม่มีใครทำได้สักทีในเรื่องของการพักบอลในแดนหน้า ซึ่งกองหน้าคนปัจจุบันอย่าง มาร์กซิยาลที่ดูเหมือนจะดี แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ เสียบอลง่ายอยู่เป็นประจำ จับบอลลั่นเป็นต้น โดนแซะนิดเดียวก็ล้มเสียบอลง่ายๆแล้ว

แต่ดูเหมือนว่า อิกาโล่ จะเป็นเอกอุสายแข็งในด้านนี้อีกคนนึงเลย

ข้อนี้มันเป็นการรวมเอาจุดดีๆของด้านบนๆมารวมกันทั้งหมดในเรื่องของการ ครองบอลในแดนหน้า ซึ่งอิกาโล่เป็นคนที่เลี้ยงบอลดีอยู่แล้วนั้น เขาจึงสามารถคุมและคอนโทรลบอลอยู่กับตัวได้ยอดเยี่ยม

เมื่อมารวมกับ ไหวพริบ+เทคนิค ประกอบกับร่างกายที่แข็งแกร่งสุดๆในทุกๆมัดกล้ามเนื้อ หากใครได้ดูคลิปล่าสุดที่เขาซ้อมบังบอลตอนมาแมนยูแล้ว จะเห็นเลยว่าหมอนี่ใช้ได้จริงๆ เป็นกองหน้าที่พักบอลในแดนบนและพื้นที่final-thirdได้อย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ ไม่กลัวการครองบอลต่อหน้าศัตรูด้วย

นี่แหละที่พวกเรารอคอย

"Ighalo's Gun" ขะ..ข..แข็งแกร่ง!!

2.7 ความแข็งแกร่งทางกายภาพ และร่างกาย (Strength)

ข้อนี้น่าจะเห็นกันชัดๆอยู่แล้ว อิกาโล่นั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อล้วนๆลีนๆเลย ส่วนสูง188cm แต่น้ำหนักราวๆ70kg ไขมันส่วนเกินไม่มีให้เห็น ร่างกายดูฟิตเปรี๊ยะ แม้จะอายุ30แล้ว แต่ก็น่าจะรองรับแรงปะทะในเกมระดับสูงได้อีกราวๆ2ปีเต็มก็ยังไหว ด้วยบอดี้และปัจจัยทางกายภาพของชาวแอฟริกันที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ร่างกายพวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้หากเทียบกับชาติพันธุ์อื่นๆ อิกาโล่จึงเป็นกองหน้าที่แกร่ง และพร้อมฉะกับเหล่ากองหลังพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มสตรีมชัวร์ ไร้กังวลได้

2.8 ความนิ่งในการจบสกอร์ (Composure)

ข้อนี้สามารถครอสกับด้านไหวพริบในข้อข้างบนได้เล็กน้อย มันคือความฉลาดในการยิงที่อิกาโล่สามารถหาทางทำไงก็ได้ให้บอลมันเข้าประตูได้ทุกรูปแบบ ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้นได้ ในจังหวะการยิงประตูอิกาโล่จะต้องมีความ"นิ่ง" ในจังหวะยิงมากพอที่จะบรรจงยิงยังไงก็ได้ให้มันเข้า ไม่ลนลาน ไม่ยิงมั่ว เตะยัดมั่วๆ ซึ่งข้อนี้เป็นเรื่องดี

หากจะให้นับสกิลเค้าตรงนี้ ผมรู้สึกว่าอิกาโล่มีความสามารถของPoacherสายพวกอินซากี้ ชิชาริโต้อยู่ คือทำไงก็ได้ให้มันเข้าๆประตูไป  เพราะดูจากภาคของ "การยิง" (Shooting)ของอิกาโล่นั้น ผมรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นกองหน้าที่ยิงดีอะไรจัดๆ

แต่เขา "ยิงเข้า"

แมนยูในตอนนี้ไม่ได้ต้องการคนยิงดีแล้ว เพราะสกิลShootingเรามี หมาก แรช ที่จังหวะการยิงและลูกยิงมีคุณภาพ แต่สิ่งที่อิกาโล่มี คือด้านที่เราขาด นั่นก็คือ การทำยังไงก็ได้ ไม่ต้องยิงเท่ๆเหมือนไอ้เด็กสองตัวนั้นก็ได้(ฮา) แต่ขอแค่บอลเข้าประตูไปก็พอ

อิกาโล่มีตรงนี้ครบถ้วน และโคตรน่าสนใจจริงๆ เพราะมันเป็นมิติที่เราขาดอยู่อย่างเต็มๆ มีอยู่ในตัวเขามากมายไปหมด แม้กระทั่งลูกยิงแบบเต็มแรงอัดpower ก็สามารถหาได้จากการจบสกอร์ของเขาเช่นกัน

2.9 ความมุ่งมั่นทุ่มเท (Work Rate)

เรื่องนี้ถือเป็นจุดเด่นที่ผมสามารถ "กล้าใส่มาเพิ่มเติมให้ได้เลย"  แม้จะยังไม่ได้ลงสนามให้แมนยู แต่เชื่อเถอะว่า ในฐานะเด็กผีคนนึงอย่างอิกาโล่ แล้วได้มาเล่นให้ทีมในฝันเช่นนี้นั้น บอกได้เลยว่า ถ้าเป็นเรา เราแม่งก็วิ่งลืมตายเหมือนกัน ดังนั้นโอกาสที่เหลือของเขาในอีก3-4เดือนข้างหน้านี้นั้น คงเป็นการตั้งใจพิสูจน์ตัวเอง และถวายชีวิตให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างแน่นอน

ไม่ต้องห่วงว่าอิกาโล่จะเป็นนักเตะที่ลงสนามไปแล้วเล่นแบบไร้ใจ เหยาะแหยะๆ เพราะเรารู้ดีว่า เขายอมละทิ้งการขุดทองในจีน หั่นค่าเหนื่อยตัวเองลงไปสามเท่าตัว เพื่อที่จะได้มาลงเล่นให้ทีมเรา

เชี่ย.. โคตรได้ใจ

ดังนั้น เชื่อขนมกินได้เลยว่า ถึงคราวที่เขาจะได้ลงสนามนั้น อิกาโล่จะต้องงัดเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาใช้อย่างแน่นอน

2.10 ค่าเฉลี่ยในการยิงต่อเกม

เรื่องนี้ถือว่าดีมาตั้งแต่สมัยอยู่กับวัตฟอร์ดแล้วด้วยสถิติ 82นัด ยิงไปถึง33ประตู ค่าเฉลี่ย2.48เกมต่อ1ประตู ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยที่อย่างน้อยๆยิงทุกๆสองนัดกว่า ส่วนช่วงย้ายไปขุดทองที่จีนและก่อนหน้านั้น ทั้งที่เซี่ยงไฮ้เสิ่นหัวและChangchun Yatai ก็ยังมีสถิติการยิงที่ดีเช่นเคยแม้จะต้องย้ายลีกไปเล่นในสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปก็ตามที ดังนั้นอย่างน้อยๆหากอิกาโล่กลับมาเล่นที่พรีเมียร์ลีกในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์แล้วนั้น เชื่อว่าเขาต้องเป็นคนผลิตสกอร์ช่วยทีมเราได้อย่างแน่นอน คือยิงได้แน่ๆแหละไม่มากก็น้อย ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก

2.11 ไม่ต้องปรับตัวกับพรีเมียร์ลีก

ประเด็นนี้สำคัญที่สุด เราไม่จำเป็นต้องห่วงเลยว่า อิกาโล่จะปรับตัวเข้ากับสปีดบอลของพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ เพราะเจ้าตัวเล่นในอังกฤษกับวัตฟอร์ดมาถึงสามปี แถมก่อนหน้านั้นยังมีประสบการณ์มาแล้วทุกลีกไม่ว่าจะเป็นลีกเอิง ลาลีก้า หรือกัลโช่ก็ตามที ประสบการณ์ที่เคยมีมาทำให้แน่ใจได้ว่า อิกาโล่แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายเลย เป็นอีกหนึ่งกองหน้าพร้อมใช้ที่แกะจากห่อ ราดน้ำร้อนแล้วกินได้เลยในทันที

ปะทะกับคู่เซ็นเตอร์ของเราสมัยนั้นสบายๆ

3. ข้อเสีย

แน่นอน เขียนบรรยายจุดเด่นมาขนาดนี้ นี่แม่งเป็นกองหน้าระดับโลกหรือไงกัน? อวยเว่อร์ไปรึเปล่า..

ผมอยากบอกว่า นี่ก็เป็นการนั่งวิเคราะห์ความสามารถ และสกัดเอาข้อดีของเขาออกมาแยกย่อยเป็นเรื่องๆไป จะเห็นได้ว่าสิ่งดีๆของอิกาโล่นั้นมีมากมายหลายด้านอย่างยิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นความสามารถที่สอดรับพอดีกับสิ่งที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้น "กำลังขาดอยู่" พอดี

แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีข้อเสียอะไรเลย ซึ่งมันเป็นปกติธรรมชาติอยู่แล้ว นักเตะทุกคนย่อมมีจุดอ่อนของตัวเองที่ไม่อยากให้คู่ต่อสู้ล่วงรู้

และนี่คือ จุดอ่อนข้อด้อยของอิกาโล่

3.1 ลูกกลางอากาศ

อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้ว ลำพังความสูงนิดเดียวแค่ 188 เซ็นติเมตรนั้นต้องบอกได้เลยว่า "ตัวไม่ใหญ่เลย" จริงๆ เราไม่ได้เห็นการทำประตูจากลูกโหม่งเลยสักลูกในคลิปของอิกาโล่ (ฮาาาาา) และเขาก็คงจะไม่ถนัดลูกกลางอากาศจริงๆ ดังนั้นยังคงต้องรอต่อไปหากแมนยูไนเต็ดอยากจะได้อาวุธบินจากการจู่โจมทางอากาศ คงต้องรอหานักเตะอย่างเฟลไลนี่เข้าทีมมาเพื่อเพิ่มมิติเวลาเจาะไม่เข้า จะได้โหม่งๆยัดๆเข้าไปได้

ดังนั้นสำหรับความหวังที่จะได้กองหน้าโหม่งเก่งๆเวลาอยู่ในกรอบเขตโทษนั้น อิกาโล่ฝากมาบอกว่า

"มึงไปรอป้ายหน้าได้เลยจ้าาาาาาาาาาาาาาาา"

"อ่อนลูกโด่ง ไม่มีผลกับแนวราบจ้าาาาา" ทหารราบนายหนึ่งได้กล่าวเอาไว้

3.2 อายุ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเพราะอย่างที่ทราบกัน เขามีข่าวกับเรามาหลายปีดีดักก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่สมัยยุคลุงหลุยส์นู่นเมื่อ4ปีที่แล้ว ตอนอิกาโล่กำลังพีคๆที่อายุ26 ซึ่งMarcel Bout หัวหน้าฝ่ายglobal scoutยืนยันเองสมัยแกยังเป็นผู้ช่วยของLVGสมัยนู้น

พอมันคลาดกันไป4ปี เขาได้กลับมาในที่สุดด้วยวัย30ปี ซึ่งแม้ว่าร่างกายจะยังฟิตพอจะสมบุกสมบันกับพรีเมียร์ลีกได้อีกหลายปีก็ตามที แต่ก็ถือว่าอายุมากแล้ว คงมาได้แค่หน้าที่ "ประคองทีมผ่านวิกฤตขาดกองหน้าพังประตู" ในช่วงนี้ไปก่อน เพื่อรอเวลาที่ทีมเราจะไปเซ็นสัญญา Striker ระดับท็อปเข้ามาสู่ทีมในอนาคตอันใกล้

ซึ่งครั้งนี้มันเป็นการยืมตัวจึงไม่มีอะไรน่าห่วงเท่าไหร่นัก แต่หากผลงานดีก็อยากจะให้เซ็นถาวรกับแก และใช้งานในลักษณะเดียวกันกับที่เคยใช้กับมาติช แต่อาจจะไม่ได้อยู่กับทีมระยะยาวนั่นเอง

ราศีจับมาก ดูแกร่งสุดๆ

3.3 อื่นๆ

ข้อเสียหนักๆจริงๆก็มีอยู่สองข้อบนที่เป็นจุดด้อยของอิกาโล่ ซึ่ง..โอเค เขาอาจจะไม่ตอบโจทย์กับลูกโหม่ง และตอนนี้ก็ไม่มีใครโหม่งได้เลยถ้าไม่ใช่เตะมุมแล้วแมกไกวร์ขึ้นมาเติมโขก ดังนั้นยูไนเต็ดจึงต้องพยายามปรับสไตล์ในการเข้าทำให้สอดรับกับกองหน้าที่มี  ส่วนอื่นๆที่เป็นจุดที่ไม่เด่นเลยของอิกาโล่นั้นก็น่าจะเป็น การเล่นเกมรับและความดุดันที่อาจจะน้อยไปหน่อย ซึ่งก็ไม่ซีเรียส

(ทำไมกองหน้าต้องเล่นเกมรับด้วยฟะ มันช่วยทีมได้ก็จริงแหละแต่ว่า เดี๋ยวนี้คนเป็นกองหน้าก็ต้องช่วยรับกับทีมด้วยละเนาะ)

นอกจากนี้ก็ต้องคอยดู เรื่องที่น่าสนใจคือเรื่องของการยืนตำแหน่ง (Position) ที่สำคัญมากๆ อย่างที่บอกไปว่า เขาเป็นตัวจบสกอร์ที่ลงต่ำมาล้วงบอลได้ ต้องดูว่าแทคติกการใช้อิกาโล่จะเป็นเช่นไร และหากหมอนี่ยังคงลงต่ำและไม่มาประจำการรอยิงอยู่แดนหน้าละก็ บอกเลยว่าลำบาก ซึ่งน่าจะเป็นต้นเหตุมาจากการสั่งแทคติกของทีมโค้ช มากกว่าความผิดของนักเตะเอง

หวังว่าโอเล่จะให้เขาเน้นการค้ำหน้านะ ไม่ใช่ลงมาล้วงแบบมาร์กซิยาลอีก เสียของ

และส่วนอีกกรณีนึงที่น่าสนใจและสำคัญมากก็คือสกิลการเล่นและเคลื่อนที่ในยามไม่มีบอล  ข้อนี้มันสามารถดูเอาจากคลิปการเล่นที่ตัดออกมาได้ยาก จำเป็นต้องสังเกตกันในสนามเต็มๆอีกทีนึงว่า ทักษะ Off the Ball ของอิกาโล่จะเป็นเช่นไร จะเคลื่อนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ทำให้ทีมได้เปรียบหรือไม่ ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามที่ต้องรอดูต่อไป

ข้อเสียอีกอย่างคือ เสียวเชื้อไวรัสโบโลน่าซะเหลือเกิน .. แหมพูดแล้วเปรี้ยวปาก หิวคาโบนาร่าเลย

4. การมาของอิกาโล่จะเป็นตัวBoost เบิ้ลเครื่องยนต์ของผีแดงให้แรง3เท่า

จากการวิเคราะห์ความสามารถ การเล่น และทักษะสกิลต่างๆของอิกาโล่แล้วนั้น เราก็จะมาพูดถึงความเข้ากันของเขาในการที่จะจัดตัวลงไปสู่แผนของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งจากการที่ดูและวิเคราะห์มาดังกล่าวแล้วนั้น อย่างที่บอกไปว่า ลักษณะของการเล่น และความสามารถทางด้านกายภาพของเขานั้น อิกาโล่เป็นForward/Striker ตัวจบสกอร์ที่มีความเร็วสูง แข็งแกร่ง และไปกับบอลได้ดี มีเทคนิคมากมาย และยิงประตูได้เยี่ยม  ดังนั้นตำแหน่งที่อิกาโล่จะมาลงในแผนการเล่นของโซลชานั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจะมายืนอยู่ตรงปลายยอดของ "หอกแห่งปีศาจแดง" อย่างแน่นอน

อิกาโล่จะมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้าในสูตร 4-2-3-1 ของโซลชาอย่างชัดเจน

ถามว่า ทำไมโอเล่ถึงจะใช้สูตรนี้

นั่นเป็นเพราะว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการปรับแผนการเล่นนั้นเป็นเพราะว่าแรชฟอร์ดมีอาการบาดเจ็บ ดังนั้นเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้เขี้ยวๆและเราไม่มีกองหน้าพอ บางครั้งจึงต้องปรับเป็นหน้าคู่ แล้วเพิ่มปริมาณนักเตะในแดนอื่น (โดยเฉพาะแดนหลัง)มาแทนในสูตรหลังสาม+วิงแบ็ค+2คู่กลาง

แต่ทันทีที่อิกาโล่เข้ามา โซลชาน่าจะสามารถปรับกลับไปใช้ 4-2-3-1 ได้อีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นในเกมถัดไปกับเชลซี ต้องดูก่อนว่าทีมงานคิดยังไงในการเลือกแผนรับมือเชลซี ซึ่งสูตรหลังสาม ก็อาจจะกลับมาอีกครั้งก็ได้ ดังนั้นอิกาโล่อาจจะไปอยู่ในแผน

3-4-3 โดยมีกองหลังสามตัว และใช้วิงแบ็คสองคนขนาบริมเส้น คู่กลางเป็นdouble pivot ตีเส้นขนานกลางสนามเหมือนเดิม จากนั้น กองหน้าคงใช้เป็นหน้าสามตัว โดยมีอิกาโล่ยืนตรงกลาง และขนาบข้างด้วยกองหน้ากึ่งปีกด้านข้าง ไม่จำเป็นต้องใช้เป็น 3-5-2 เหมือนเดิมแล้ว

แต่ถ้ามาในสูตร 3-5-2 นักเตะที่น่าจะยืนจับคู่กับอิกาโล่มากที่สุด ก็คงจะเป็น มาร์กซิยาล

โดยที่สูตรนี้จะใช้กองกลางสามคน ซึ่งก็คงจะเป็นคู่เฟร็ด-แม็คโทมิเนย์  โดยมี "บรูโน่" เป็นหอคอยบังคับการอยู่ด้านหลังกองหน้าสองตัวที่จะสลับกันจู่โจม  โดยใช้เกมริมเส้นจากแบ็คสองตัวที่อาจจะเป็น ชอว์/วิลเลียมส์  และ วานบิสซาก้านั่นเอง

ไม่ว่าจะดูทรงไหนก็แล้วแต่ อิกาโล่สามารถเล่นเข้าในสูตรของเราได้หมด ทั้งหน้าเดี่ยวในระบบฟร้อนท์ทรี และกองหน้าคู่ที่สามารถเล่นได้ไม่ต่างกันเพราะเขาเป็นAdvance Forwardที่ยืดหยุ่นมากๆ

สิ่งสำคัญมากที่สุดของการดึงอิกาโล่เข้ามาสู่ทีมนั้น นอกจากจะเข้ากับแผนเรา และทักษะของเรานั้นเป็นสิ่งที่เราขาดในแดนหน้าอย่างแรงแล้วด้วย สิ่งที่สำคัญอีกกรณีนึงก็คือ "ความเร็วในการเล่น" ของอิกาโล่ ทั้งการวิ่งตัวเปล่า หรือการเลี้ยงพาบอลไปกับตัว  ล้วนแล้วแต่น่าสนใจอย่างยิ่งเพราะหมอนี่ "เร็วมากๆ"

ดังนั้นเขาสามารถมาลงในปรัชญาเกมCounter Attackของทีมได้อย่างแน่นอน แทนการขาดหายไปของแรชได้เต็มๆเพราะหมอนี่กระชากบอลไปเองได้เหมือนแรชเป๊ะๆ ดีไม่ดีจะเจ๋งกว่าด้วย

และที่เยี่ยมไปกว่านั้นคือ ความเร็วของอิกาโล่ก็จะเป็นเหมือนอีกหนึ่งการบูสต์เครื่องยนต์ของแมนยูไนเต็ด ที่เน้นจู่โจมโดยใช้ความเร็วเป็นหลักนั้น ให้ยิ่งเร็วน่ากลัวขึ้นไปอีกจากการที่มีตัวเลือกสายสปีดให้เลือกใช้งานในเกมการเล่นต่อจากนี้ ซึ่งนอกจากความเร็วแล้ว พี่แกยังเป็นตัวที่คาดหวังได้ในการจบสกอร์ด้วย

ดังนั้น อิกาโล่ที่จะทำให้บอลของเรามีสปีดที่รวดเร็ว และน่าจะ "จบสกอร์" ทำประตูได้มากกว่าเดิมที่เคยเป็นมานั้น สองสิ่งนี้จะทำให้สิ่งที่สามของทีมเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นผลลัพธ์สุดท้าย นั่นก็คือ "ความลงตัวและสมบูรณ์ของเกมรุก" ที่มากขึ้น เพราะเราขาดมิติการจบสกอร์มาโดยตลอด

ดังนั้นอิกาโล่ จะสามารถเข้ามา"เบิ้ลเครื่อง"ของปีศาจแดงให้แรง3เท่า จากทั้งความเร็ว การจบสกอร์ และความสมดุลของเกมรุกในทีมเราอย่างแน่นอน

นี่น่าจะเป็นอีกคนที่หวังว่าอิกาโล่จะเบิ้ลรถแดงแรงสามเท่าให้ทีมได้

และนี่คือการรีวิวความสามารถคร่าวๆของนักเตะผู้เป็นความหวังอีกคนของแฟนบอลปีศาจแดงทั่วทั้งผืนพิภพ ในการเข้ามาประคองแดนหน้าของทีมให้ผ่านพ้นแมตช์การแข่งขันที่เหลือในฤดูกาลนี้ไปได้ เพื่อที่จะมีลุ้นในการทำอันดับดีๆเผื่อจะได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีก เริ่มเกมสำคัญกันตั้งแต่นัดเยือนเชลซีวันจันทร์ที่จะถึงนี้เลยที่หากว่าทีมแพ้ โอกาสไปUCLจะยิ่งมืดมนกว่าเดิมอย่างมาก

แต่ถ้าทะลึ่งชนะได้ แถมอิกาโล่จะยิงได้ด้วยนั้น รับรองได้เลยว่า เขาจะเตรียมขึ้นแท่นเป็นขวัญใจกอบกู้ทีมอีกคน ไม่แพ้ในอดีตที่เป็นสถานการณ์เดียวกันตอนที่เฮนริค ลาร์สสัน เข้ามาอยู่กับทีมเราเป็นระยะสั้นๆ และยิงได้ไม่กี่ลูก แต่ก็เป็นประตูที่impactความรู้สึกของแฟนบอลไมรู้ลืมมาจนถึงบัดนี้

รอชมประตูจากปลายกระบอกปืนอันเบ้งจากหว่างขาของอิกาโล่ (Ighalo's Gun) ได้เลย  ..

เขาคือเพชรฆาตผู้มากอบกู้สถานการณ์ให้กับทีม ท่ามกลางความหวังของแฟนบอลปีศาจแดงที่เชื่อมั่นในตัวเขาอย่างแท้จริง

เพชรฆาตสีดำผู้ที่จะโบยบินและจิกตีศัตรูแบบไม่ปราณีใคร

"อีกาโลกันตร์" Odion Ighalo

-ศาลาผี-

ข้อมูลจากฐานdataของFMเอาไว้ให้ดูประกอบ ตรงความเป็นจริงบ้าง ไม่ตรงบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ใกล้เคียงมาก