หนึ่งชื่อที่ต้องถูกหยิบยกขึ้นมาคือ “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” กองหน้าที่เป็นเจ้าของสถิติลงสนามมากที่สุด และดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติโปแลนด์ โดยเขาถือว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง และสามารถยิงประตูได้อย่างถล่มทลาย
นอกจากผลงานในระดับนานาชาติแล้ว ผลงานในระดับสโมสรก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิค ในช่วงปี 2014 เขายิงประตูไปแล้วมากมาย โดยสามารถคว้าดาวซัลโวบุนเดสลีกา 4 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด พร้อมกันนี้ เขากำลังนำเป็นดาวซัลโวในลีกฤดูกาล 2019-20 ด้วยจำนวน 22 ประตู
เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อนคือ กว่าที่เขาจะทะยานมาเป็นดาวยิงที่เก่งกาจ ทั้งโครงสร้างของร่างกาย และทักษะในสนามนั้น เขาต้องผ่านพ้นการฝ่าฟันอุปสรรคมาอย่างมากมาย และนี่คือเรื่องราวบางส่วนของเขา
เลวานดอฟสกี้ เกิด และเติบโตที่กรุงวอร์ซอว์ เมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ โดยเกิดในครอบครัวของนักกีฬา เริ่มจากคุณพ่อของเขาเป็นอดีตแชมป์ยูโดของประเทศ ส่วนคุณแม่เป็นอดีตนักวอลเลย์บอลชื่อดัง และน้องสาวคือนักวอลเลย์บอลระดับเยาวชนทีมชาติ ขณะที่เขาจะเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมระดับท้องถิ่น
เขาย้อนความทรงจำว่า ชีวิตวัยเด็กของเขา ผ่านการเล่นกีฬาหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นยูโด ที่เล่นตามคุณพ่อ รวมถึงวอลเลย์บอล, แฮนด์บอล และยิมนาสติค ฯลฯ โดยคุณพ่อทราบดีว่า เขาต้องการเป็นนักฟุตบอล คุณพ่อจึงปลูกฝังให้เขาเรียนรู้เคลื่อนไหว และการเคลื่อนที่ของกีฬาประเภทอื่นไปด้วย
แบบทดสอบแรก เกิดขึ้นตอนเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชน ร่างกายของเลวานดอฟสกี้ ผอมบางกว่าเด็กรุ่นเดียวกันเป็นอย่างมาก ทำให้เสียเปรียบการเล่นกับคู่แข่งในหลายจังหวะ ส่งผลให้โค้ชทีมเยาวชนต้องสั่งให้เขารับประทานอาหารอย่างเบค่อนเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายเติบโต และแข็งแกร่งเหมือนกับเด็กคนอื่น
คริสตอฟ ซิกอรสกี้ โค้ชเยาวชนของสโมสรวาร์โซเวีย วอร์ซอว์ กล่าวถึงอดีตลูกศิษย์รายนี้เอาไว้ว่า “ย้อนกลับไปตอนนั้น ขาของเขาเล็กมาก เราเลยต้องให้เขาเพิ่มน้ำหนักเป็นการด่วน ผ่านการกินแซนด์วิชที่สอดไส้เบค่อน เขาต้องกินในปริมาณเยอะๆ จากนั้น เขาถึงทำผลงานกระเตื้องขึ้นมา”
แบบทดสอบจริงจังเกิดขึ้นในช่วงปี 2006 เลวานดอฟสกี้ ถูกตัดออกจากทีมสำรองของลีเกีย วอร์ซอว์ เนื่องจากฝีเท้าไม่ถึงขั้น ส่งผลให้เขาต้องมาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังอาชีพเป็นครั้งแรก กับสโมสรที่มีชื่อว่า “ซีนิค พรุซคอฟ” ที่อยู่ในแค่ระดับดิวิชั่น 3 ของโปแลนด์
นอกจากการได้รับค่าเหนื่อยราว 380 ปอนด์ต่อเดือน เขายังสูญเสียคุณพ่อที่จากไปด้วยโรคหัวใจ ทำให้เขาต้องมุ่งมั่นมากเป็นสองเท่า เขาเริ่มเข้าโรงยิมบ่อยขึ้น เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อของตัวเอง และฝึกฝนอย่างหนักหน่วง จนก้าวมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดในลีกรองโปแลนด์ ก่อนถูกทีมดังในบ้านเกิดอย่างเลช พอซนัน ดึงไปร่วมทีม
จากนั้น มาประสบความสำเร็จกับยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกา อย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และบาเยิร์น มิวนิค ตามลำดับ ผ่านการคว้าแชมป์รายการสำคัญได้อย่างมากมาย พร้อมกับเดินหน้าสร้างสถิติส่วนตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
เลวานดอฟสกี้ บอกว่า ย้อนกลับไปตอนเด็กนั้น เขาเป็นคนที่ตัวเล็ก และผอมบางมาก หลายคนสบประมาทว่าเขาตัวเล็กเกินกว่าที่จะเล่นฟุตบอล และไม่น่าจะเอาตัวรอดได้ อย่างไรก็ตาม เขาคิดเพียงว่า อย่ายอมแพ้เด็ดขาด พร้อมกับต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า พวกคนเหล่านั้นคิดผิด
อีกหนึ่งความลับของเขาอยู่ที่ภรรยาแสนสวยอย่าง “แอนนา เลวานดอฟสกี้” ซี่งมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของเหรียญทองแดงของคาราเต้ชิงแชมป์โลก ที่เป็นคนแนะนำให้เขาเข้าโรงยิมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลร่างกายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม, ฟิตเนส และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ตรงกับทาง “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ผู้จัดการทีมชาวสแปนิช ที่ออกมาย้อนความทรงจำ สมัยที่ทำงานร่วมกับเลวานดอฟสกี้ ที่สโมสรบาเยิร์น มิวนิค เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ฟุตบอลอยู่ในหัวใจของเลวานดอฟสกี้ ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงต่อวัน ไม่เคยมีวันไหนเลย ที่เขาจะละสมาธิจากลูกหนัง เรียกได้ว่า เป็นคนที่บ้าบอลอย่างเข้าเส้นเลยทีเดียว
เป๊ป ยังกล่าวต่อว่า เลวานดอฟสกี้ ถือเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตัวเองอยู่ในระดับที่สูงมาก กล่าวคือ เขาจะรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง, นอนหลับพักผ่อนอย่างถูกต้อง และฝึกซ้อมอย่างถูกต้อง เลวานดอฟสกี้รักษาเป้าหมายอย่างชัดเจน ส่งผลให้เขาไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บ นั่นเพราะเขาให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้
