ถ้าการยืมตัวในฤดูกาลนี้ที่เชฟฟิลด์ยูไนเต็ดของดีนเฮนเดอร์สันเป็นไปอย่างราบรื่น เขาคงจะไม่กลับมาเป็นตัวเลือกในการเฝ้าเสาแทนดาวิด เดเคอาในอีกแค่ไม่กี่ปีข้างหน้าเร็วๆนี้แน่นอน แต่ว่าผลงานอันสุดจะยอดเยี่ยมตลอดหกเดือนที่ผ่านมาในลีก ขณะที่เดเคอาเองก็อยู่ในฟอร์มที่ดูจะดรอปลงเล็งน้อย ดังนั้นแล้วเรื่องนี้จึงกำลังจะกลายเป็นสถานการณ์ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจำเป็นต้องหันมาประเมินและคิดแล้วว่าจะต้องทำยังไงต่อไปในซัมเมอร์นี้
ไม่ได้บอกว่าทั้งคู่ฝีมือเท่ากันแล้วในขณะนี้ เพราะยังไงเดเคอาก็ยังมีประสบการณ์และความสามารถที่มากกว่า ส่วนเรื่องฟอร์มที่ย่ำแย่นั้นมันก็ใช่ว่าจะแย่ไปตลอด มันเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นเรื่องพวกนี้ไม่ควรจะถูกแกล้งทำเป็นมองข้ามเลย พอๆกับเครดิตทั้งหมดที่เดเคอาควรจะได้รับ ในการเฝ้าเสาและสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในยุคหลังจากป๋ารีไทร์ไปแล้ว ก็ได้เดเคอาแบกทีมเอาไว้ตั้งไม่รู้กี่ปีอย่างสุดยอดจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
แต่สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงนี้คือการเปรียบเทียบกันอย่างเป็นธรรมระหว่าง เฮนเดอร์สัน กับ เดเคอาต่างหาก
มีอย่างนึงที่เป็นเหมือนแต้มต่อจัดๆของเดเคอา จากเหตุผลต่างๆมากมายนั้นก็คือเรื่องของการที่ "เดเคอาได้ค่าเหนื่อยสูงมาก จนเกินกว่าที่จะถูกใช้งานเป็นมือสองของทีมได้ (350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)" และบางทีน่าจะสูงสุดเกินกว่าที่สโมสรใดๆในยุโรปจะเสนอให้ได้อีกแล้ว ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ เฉพาะจากการจ่ายค่าจ้างระดับนี้ สโมสรจึงจะต้องคาดหวังฟอร์มการเล่นระดับเทพเจ้าที่สมน้ำสมเนื้อกับค่าเหนื่อยกับนักเตะในวัย29ปี ที่กำลังเข้าสู่ช่วงพีคสุดของการเป็นผู้รักษาประตูพอดี
ขณะเดียวกันทางด้านเฮนเดอร์สันนั้นก็สามารถได้รับเครดิตคำยกย่องตัวเขาว่าเป็น ผู้รักษาประตูชาวอังกฤษที่ฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าแกเร็ธ เซาธ์เกทจะใช้เขาเป็นตัวจริงในยูโร2020หรือไม่ก็ตาม ในฤดูกาลหน้าดูท่าเขาคงจะไม่ยอมกลับมาอยู่บนม้านั่งสำรองที่ยูไนเต็ด และรอจะได้ลงแต่เกมอย่างคาราบาวคัพอย่างแน่นอน หรือไม่งั้นก็ลองคิดดูว่าเขาจะยินดีเหรอถ้าจะต้องมีสถานะที่ไม่แน่นอนในการที่จะต้องถูกยืมตัวออกไปอีกรอบ มันชัดเจนอยู่แล้วว่า มันก็มีให้เลือกระหว่าง ใช้งานเขาเป็นตัวจริงลงเล่นที่ยูไนเต็ดเท่านั้น หรือไม่งั้นก็ต้องขายออกไปเลย
ดีน เฮนเดอร์สันถือไพ่ใหญ่ในมือ บนเกม"Pokerชิงวิญญาณ"เรียบร้อยแล้ว
แมนยูไนเต็ดอาจจะยังไม่ร้อนรนอะไรเพราะยังมีสัญญาของนักเตะอยู่ ส่วนเขาเองก็มั่นใจในตำแหน่งที่มั่นคงของตัวเองเช่นกัน แต่ก็ต้องคอยดูสถานการณ์อยู่ดีเพราะปารีส แซงต์แชร์แมงก็มีข่าวกำลังสนใจนายด่านผู้นี้ ขณะที่ในทางทฤษฏีแล้วเจ้าตัวก็อาจเป็นเป้าที่หมายตาของทีมTop6ในพรีเมียร์ลีกเองด้วย ดังนั้นดีนกำลังจะมีตัวเลือกที่ดีกว่า, ได้เงินมากกว่าการอยู่กับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ข้อเสนอเจ๋งๆมากมายกำลังจะมาหาเขาแน่นอน
แต่อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จที่ Bramall Lane?
แน่นอน ความสามารถของเขาเองมันแหงอยู่แล้ว แต่การที่เขาทำงานร่วมกับ Chris Wilderนั้นทำให้อาชีพของเขาไปได้ไกลกว่าเดิมมากๆ เขาดูเหมือนจะรู้วิธีการพูดและวิธีตอบสนองต่อแนวโน้มฟอร์มของดีนได้เป็นอย่างดี
มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อย้อนไปช่วงเดือนตุลาคม หลังจากที่เฮนเดอร์สันก่อความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในเกมกับลิเวอร์พูลนั้น กับการที่นักเตะต้องอับอายจากความผิดพลาดและกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าผู้ชมทั้งประเทศ ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่มักจะเห็นใจและปลอบด้วยประโยคเดิมซ้ำๆที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆเช่น คอยเตือนแฟนบอลว่า ความผิดพลาดแบบนี้มันก็เกิดขึ้นได้ และมันเลี่ยงไม่ได้, หรือกล่าวว่า ผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งที่เล่นลำบากเพราะต้องรับมือกับการจู่โจมมาได้จากทุกจุดในสนาม จะมีคำพูดทั่วๆไปประมาณว่า "ดีนจะเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้และเขาจะกลับมาอย่างแข็งแกร่งแน่นอน" ถ้าเป็นคนอื่น
แต่Wilderไม่ทำแบบนั้น
ดีนโดนเด็กเด้าดาก
เขากลับท้าทายให้เฮนเดอร์สันนั้นต้องดีกว่านี้ ต้องเก่งกว่านี้อีก และชี้ว่าเขาจะไม่กางปีกปกป้องลูกทีมรายนี้อย่างแน่นอน
สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเลย แถมแลดูจะเหี้ยมเกินไปซะด้วยซ้ำ เพราะโลกฟุตบอลสมัยใหม่นี้ นักฟุตบอลยุคนี้มีแนวโน้มที่จะสะเทือนอารมณ์และหวั่นไหวได้ง่ายกว่านักบอลยุคก่อนๆเคยเป็นกันมา และหลายๆครั้งเหตุการณ์แบบนี้นักฟุตบอลมักจะออกอาการไม่ค่อยดีทุกครั้งเวลาที่ต้องถูกแทงใจด้วยอีโก้ลักษณะนี้
ในกรณีนี้ แม้Wilderพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจน เฮนเดอร์สันนั้นตอบสนองกลับมาด้วยฟอร์มการเล่นระดับสุดยอดในเกมเยือนวัตฟอร์ด ก่อนที่จะตามมาด้วยคลีนชีทสองนัดติดในเกมเฝ้าบ้านเจอทีมระดับอาร์เซนอล ซึ่งหลังจากที่เกิดปัญหาขึ้นมานั้น สิ่งนี้เป็นคำตอบว่า สิ่งที่Wilderทำนั้นเป็นวิธีการที่ถูกต้องในการใช้จัดการกับความมั่นใจของเฮนเดอร์สัน ไม่ใช่แค่เพียงแต่วฺุฒิภาวะในการรับมือกับคำวิจารณ์ของดีนเท่านั้น แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่า Wilderนั้น เขาเข้าใจการปฏิบัติกับลูกทีมได้อย่างดี
ไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่า Wilderรู้ว่า นักเตะคนนั้นเป็นยังไง แต่เขาเข้าใจไปถึงเรื่องที่ว่า คนๆนั้นจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมายังไงอีกด้วย
Relationshipที่แนบแน่นกันเหมือนพ่อกับลูกอีกคู่นึงไปแล้ว
ความสัมพันธ์เช่นนั้นไม่ควรถูกมองข้าม และเฮนเดอร์สันก็เป็นที่หมายตาของสโมสรมากมาย แต่ว่าข้อได้เปรียบของเขาในสถานการณ์ปัจจุบันนี้นั้นก็คือ "ความชัดเจนในตัวเอง" ของดีน
เขายืนอยู่ "หลัง" แนวรับที่ยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งที่ได้รับการโค้ชมาอย่างดี
เขายืนอยู่ "หน้า" แฟนบอลที่ยกย่องเขาอย่างสูง
เขายืนอยู่ "กับ" โค้ชที่มีคู่มือการใช้งานเขาเป็นอย่างดี
เฮนเดอร์สันโชคดีมากๆที่เขาได้รับสิ่งเหล่านี้เข้ามา แต่นั่นก็เป็นธรรมกับเขาแล้วที่ได้อยู่ในจุดนั้น
ผู้รักษาประตูอายุน้อยๆนั้นส่วนใหญ่มักจะยังไม่นิ่ง และชื่อเสียงของเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตลาดซัมเมอร์มาถึง และเขาจะได้ตัดสินใจอนาคตตัวเองนั้น เฮนเดอร์สันจะต้องฉลาดในการหาสมดุลระหว่าง ความทะเยอทะยานของตัวเขาเอง และรักษาสถานะที่มั่นคงเหล่านี้เอาไว้ด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นเหมือน"รากฐาน"ที่ยอดเยี่ยมในเส้นทางอาชีพที่ต้องรักษาเอาไว้ และต้องคิดให้รอบคอบทีเดียว
ไอ้น้องใจเย็น
นี่คือสถานการณ์ของ ดีน เฮนเดอร์สัน ในปัจจุบัน กับผลงานอันยอดเยี่ยมที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ที่พาทีมอย่างเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บินสูงขึ้นมาอยู่ถึงอันดับที่6ในตาราง สูงกว่าต้นสังกัดที่แท้จริงอย่างแมนยูไนเต็ดซะอีก1ตำแหน่ง คะแนนมากกว่า1แต้ม แข่ง26นัดเท่ากัน
เฮนเดอร์สันเสียไปแค่ 21ประตูซึ่งน้อยมากๆ และได้คลีนชีตไปทั้งหมด 9 นัด จากทั้งหมด25การลงสนาม นัดเดียวที่พลาดไปก็คือเชฟยูเจอกับแมนยูนั่นแหละ เขาลงเจอต้นสังกัดตัวเองไม่ได้
ในขณะที่ เดเคอานั้น 26นัด เดเคอาเสียไปทั้งหมด 29ประตูในลีก และได้คลีนชีตจำนวน 6 นัด ซึ่งสถิติเป็นรองเฮนเดอร์สันชัดเจน
ปีนี้ก็ชนะ ปีที่แล้วก็ยังชนะเดเคอาอีก เห็นภาพอะไรกันไหม
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร เรียงไปทีละอย่างง่ายๆ
1.เฮนเดอร์สัน กลับมาจากยืมตัว Sheffield United (22 ยังไม่เคยติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ยืมตัวที่เชฟยูมา2ซีซั่นแล้ว)
2.โจเอล เปเรร่า กลับมาจากยืมตัวที่ Heart (23ปี ไม่เคยติดทีมชาติโปรตุเกสชุดใหญ่)
3.แกรนท์ กำลังจะหมดสัญญา (37ปี)
4.นาธอน บิชอป ในฐานะมือ3คนใหม่ (20ปี)
5.แซร์คิโอ โรเมโร่ ที่มีข่าวว่าอาจจะย้ายทีมออกไปหาตำแหน่งตัวจริง (32ปี)
เมื่อเป็นเช่นนี้ ดังนั้นในpoolของ GK เรากำลังจะมี
De Gea มือหนึ่ง / Romero มือหนึ่งจุดห้า(ฮา) / Henderson (ว่าที่มือหนึ่ง) / Jo Pereira / Bishop
โกลมีทั้งหมด5คนในทีม จะตีสถานการณ์ว่า โรเมโร่ "อาจจะ" ไม่อยู่กับเราแล้วในฤดูกาลหน้า
และ เฮนเดอร์สัน ก็ไม่ยอมอยู่เป็นมือสองให้แมนยูไนเต็ดแน่นอน
ดังนั้น Worst Scenario ที่แย่ที่สุด ที่อาจจะเป็นไปได้ก็คือ เราจะเหลือแค่
De Gea โดยมี Joel Pereira เป็นมือสอง และ Nathan Bishop เป็นโกลมือสาม
ในกรณีนี้จะค่อนข้างแย่มากๆ เพราะโจเอล ชื่อชั้น ฝีมือ ประสบการณ์ เทียบไม่ได้กับ โรเมโร่ หรือ ดีนเลย แม้กระทั่งแบบนั้น ลี แกรนท์ ยังอาจจะดีกว่าในแง่ของการใช้งานเลยด้วยซ้ำ ต้องทำใจกับตรงนี้สำหรับเคสของโจเอล เปเรร่า (นามสกุลกาลกิณีรึเปล่านิ!)
หากโรเมโร่ย้ายทีม และยูไนเต็ดดึงตัว เฮนเดอร์สัน กลับมาอยู่กับทีมจนได้นั้น เราก็จะมี
มือ1.De Gea มือ2.Henderson มือ3.Bishop (โจเอลปล่อยยืมต่อไม่ก็ปล่อยตัวไปเลย)
ซึ่งในเคสนี้ บอกได้เลยว่า "เป็นไปไม่ได้" และ "ไม่สมควรจะเป็นเช่นนั้น" ด้วย
ดีน เฮนเดอร์สันนั้นพัฒนาไปดีจนเกินกว่าที่จะมาเป็นแค่มือสอง หรือมือหนึ่งจุดห้าให้ทีมเราอีกแล้ว (ในฐานะคนๆหนึ่ง เราก็ไม่อยากจะเห็นแก่ตัวเพื่อแมนยูไนเต็ดอย่างเดียว แล้วต้องให้เขาหมดอนาคตอาชีพนักฟุตบอลดีๆเพราะต้องมาสำรองกับเรา) เขาต้องเป็นตัวจริงเท่านั้น
แต่ถ้าเมื่อใดที่ดีนกลับมา การที่ทีมเราจะใช้เขาเป็นมือหนึ่ง แล้วดรอปเอานักฟุตบอลที่ใช้เงินจ้าง 350kปอนด์ต่อสัปดาห์อย่างเดเคอาไปนั่งตบยุ่งข้างสนาม มันจะคุ้มเหรอ?
ยังไงเราต้องใช้ เดเคอา ในฐานะมือหนึ่งสถานเดียว
However.. He still be godkeeper อย่าหมิ่นเดเคอา
ขีดเส้นใต้ย้ำข้อนี้ไว้ ไม่มีทางใช้ดีนเป็นมือหนึ่งแทนเดเคอาแน่นอน หรือจะสลับกันเล่นก็ตามที
เดก็ไม่ยอม ดีนก็ไม่ยอม!
เมื่อเป็นเช่นนี้ รวมกับบารมี ผลงานเก่าๆ และค่าเหนื่อยของเดเคอา ยังไงเสียชื่อชั้นเดเคอาที่เหนือกว่าและพิสูจน์ตัวเองมาแล้วอย่างยาวนาน ก็ "ยึดมือหนึ่งแมนยูไนเต็ด" ต่อไปอีกยาวๆแน่นอน อย่างน้อยๆสองปีต่อจากนี้ก็ไม่เปลี่ยนแน่ๆล่ะ อันนี้รับประกันได้
ทางออกเดียวของ ดีน เฮนเดอร์สัน ยังไงเสียก็คงจะเป็นการ "ปล่อยตัว" ไปอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน
หากเจ้าตัวยังคงรักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และยังหวังที่จะกลับมาเป็นตัวจริงให้กับทีมที่ปั้นเขามาตั้งแต่เป็นเยาวชนเมื่อปี2011แล้วนั้น ยังมีทางเลือกอยู่ ซึ่งเป็นทางที่ต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้นถึงจะเป็นเช่นนี้ได้ นั่นก็คือ
เขาจะต้องยอมรับข้อเสนอการปล่อยยืมตัวต่อไปที่ เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ต่อเนื่องอีกปี หรือสองปี ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมที่อยู่ที่นั่นต่ออีกนาน และรู้มือกันดีอย่าง Wilder ต่อไป ยืมตัวต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรอเดเคอาใกล้ปลดระวาง แล้วกลับมารอเสียบสานต่อตำนานเดเคอาได้เลยอีกยาวๆ
ซึ่งบอกตรงๆว่าแทบเป็นไปไม่ได้
รักแมนยูไหมไม่รู้ แต่รักบาสตี้แน่นอน และหล่อมากด้วย 555
แต่หากดีนไม่ได้รักยูไนเต็ดถึงขั้นเป็นทีมในฝันที่ต้องเล่นให้ได้นั้นและยอมยืมตัวต่อ เขาก็คงจะหาทางย้ายออกไป ซึ่งไม่ใช่เชฟยูฯอย่างแน่นอนที่จะเป็นทีมที่ซื้อ แต่เป็นทีมใหญ่จากทุกสารทิศแน่นอน ที่จะซื้อเฮนเดอร์สันไปหลังจากจบฤดูกาลนี้
ทางเลือกมันจึงมีแค่การปล่อยตัวออกไปอย่างเดียวเท่านั้นไม่ว่าจะแบบใดก็ตาม ไม่ได้อยู่กับแมนยูไนเต็ดฤดูกาลหน้าแน่นอน เพราะมันไม่มีทางที่เขาจะมาแย่งมือหนึ่งเดเคอาได้ และเขาก็ไม่ยอมนั่งสำรองจุมปุ๊กแล้วรอลงเล่นแค่เอฟเอคัพ คาราบาวคัพ หรือ ยูโรป้าลีกในปีหน้าอย่างแน่นอน(ฮา)
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ดีน เฮนเดอร์สันในตอนนี้สามารถที่จะ "เลือกได้" แล้วทั้งหมด เพราะแม้แมนยูจะไม่เอา แต่ก็มีทีมใหญ่ที่เห็นฟอร์ม และพร้อมที่จะมาสู่ขอกับยูไนเต็ดอย่างแน่นอน เหมือนกับการได้ ไพ่ใหญ่มาไว้ในมือ ในเกมPokerชิงวิญญาณเกมนี้ ที่จำเป็นต้องซ่อนสีหน้าที่แท้จริงเอาไว้ ไม่ว่าจะได้ไพ่ดีหรือเสียยังไงก็ตาม
ดีนเก็บซ่อนการตัดสินใจของตัวเองเอาไว้เงียบเชียบภายใต้ Poker Face ที่นิ่งสงบอย่างถึงที่สุด
-ศาลาผี-
https://en.wikipedia.org/wiki/Dean_Henderson
https://www.transfermarkt.com/david-de-gea/leistungsdaten/spieler/59377
