:::     :::

สิงห์ต้องสู้

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
1,593
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความพ่ายแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้สถานการณ์แย่งโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะในอันดับ 4 เปิดกว้างมากขึ้นอีกครั้ง
ขออนุญาตไม่พูดถึงกรณีของ แมนเชเตอร์ ซิตี้ ที่อาจจะโดนแบนจากเกมยุโรปซึ่งจะทำให้อันดับ 5 ของตารางมีโอกาสได้สิทธิ์แทน แต่นั่นต้องรอคำตัดสินอย่างเป็นทางการ
เพราะถึงยังไงก็มีความเป็นไปได้ที่ "สิงห์บลูส์" จะหลุดอันดับไปไกลกว่าที่ 5 อยู่ดีนั่นแหละ
เกมล่าสุดที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ทำให้ทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ชนะแค่เกมเดียวจาก 6 เกมหลังในลีก โดยเก็บได้แค่ 6 แต้มเท่านั้น และทีมเสียรักษาคลีนชีตได้แค่เกมเดียวจาก 14 นัดหลัง

แถมงานใหญ่ของทีมที่ต้องขาด แทมมี่ อบราฮัม, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น รวมถึงล่าสุด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ชวดไปอีกคน
ที่สำคัญยังมีเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกที่จะเปิดบ้านเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค รออยู่อีกในกลางสัปดาห์หน้าด้วย
แต่อันนั้นอย่าเพิ่งไปคิดถึง เพราะในวันเสาร์นี้ทีมมีโปรแกรมเจอกับ สเปอร์ส อีกหนึ่งคู่แข่งแย่งพื้นที่ถ้วยใหญ่ของยุโรปรออยู่
มองผิวเผิน "ไก่เดือยทอง" อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกันโดยเฉพาะเรื่องแกนหลักบาดเจ็บ แถมต้องบอกว่าหนักหน่วงกว่าด้วยซ้ำโดยเฉพาะ แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน สองกำลังสำคัญในเรื่องของการทำประตู

ถือเป็นเกมสำคัญที่ทีมจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพราะถึงตอนนี้ช่องว่างของทั้งสองทีมห่างกันแค่คะแนนเดียวเท่านั้น ยังไม่นับ เชฟฟิดล์ ยูไนเต็ด (2 แต้ม), แมนฯ ยูไนเต็ด (3 แต้ม), วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เอฟเวอร์ตัน (5 แต้ม) ที่ยังมีลุ้นอยู่เช่นกัน หรือจะ อาร์เซน่อล ที่ตามอยู่ 7 คะแนน ที่ถือว่าไม่ไกลเมื่อเทียบกับเกมที่เหลืออยู่
แล้ว เชลซี ควรจะต้องทำอะไรบ้างหลังจากความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุด
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเด่นชัดในช่วงหลังก็คือตำแหน่งของผู้รักษาประตูที่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า มือหนึ่งหลุดฟอร์มไปในช่วงหลังโดนดร็อปจากทีมให้ วิลลี่ กาบาเยโร่ ลงเฝ้าเสาในเกมก่อนหน้านี้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และเกมล่าสุด

ร้ายแรงถึงขั้นมีข่าวว่าสิงโตแห่งกรุงลอนดอนเตรียมมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาแทนที่นายทวารค่าตัวแพงที่สุดนายโลกรายนี้เลย
แต่ดูเหมือนว่าอะไรหลายๆอย่างก็ยังไม่ดีขึ้น
อันที่จริงมีข่าวก่อนหน้านี้ว่านายทวารชาวสเปนจะกลับมาเฝ้าเสาตั้งแต่เกมกับ "ปีศาจแดง" แต่ก็ยังเป็นตัวเก๋าชาวอาร์เจนติน่าทำหน้าที่อยู่
นั่นอาจจะบั่นทอนความมั่นใจของ เกปา มากกว่านี้หากตราบใดที่สถานการณ์ยังคงอยู่แบบนี้ต่อไป
เช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ ดาบิด เด เคอา โดนโจมตีอย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่น มีกระแสให้ เซร์คิโอ โรเมโร่ ลงเฝ้าเสาหลังจากที่ทุกครั้งที่ทำหน้าที่มักจะมีผลงานที่ดีอยู่เสมอ แต่ผีแดงก็ยังยึดมั่นในตัว เด เคอา จนค่อยกลับมามั่นใจอีกครั้ง

แน่นอนว่าสิ่งที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ควรทำก็คือการให้ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า กลับมาเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งอีกครั้ง เพราะอันที่จริงผู้รักษาประตูจากแดนกระทิงคือหนึ่งในผู้รักษาประตูฝีมือดีที่ได้รับการยอมรับ
การให้ วิลลี่ กาบาเยโร่ ลงทำหน้าที่เป็นอะไรที่เข้าใจได้ แต่การเดิมพันในตรงนั้นมันจบลงแล้ว, 4 ประตูจาก 2 เกมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ดังนั้น เกปา ควรจะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง
อย่างน้อยได้ความมั่นใจกลับมาในช่วงที่เหลือของฤดูกาลยังดีกว่าปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้
อีกจุดที่น่าสนใจคืออีกฟากของตำแหน่งสนามก็คือกองหน้า ถือเป็นจุดที่มีปัญหามากที่สุดในทีมก็ว่าได้เมื่อการบาดเจ็บของ แทมมี่ อบราฮัม กลายเป็นปัญหาใหญ่ของ เชลซี ในทันที เมื่อความหวังทุกอย่างในการทำประตูของทีมแทบจะมาจากกองหน้าชาวอังกฤษผู้นี้หลังทำไปแล้ว 13 ประตูให้กับทีม 

เมสัน เมาท์ ที่ดูจะเปรี้ยงปร้างในช่วงต้นซีซั่นค่อยๆโดนจับทางได้และหายหน้าจากการทำประตูมานาน ประตูสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปไกลถึงต้นเดือนธันวาคมกับ แอสตัน วิลล่า หรือ วิลเลี่ยน ก็ยิงไม่ได้นับตั้งแต่เป็นฮีโร่เหมาสองประตูใส่ สเปอร์ส ก่อนเกมบ็อกซิ่ง เดย์
อีกคนที่พอความความหวังได้หน่อยอย่าง คริสเตียน พูลิซิช ก็ดันเจ็บ ทำให้ทุกอย่างไปอยู่ที่ แทมมี่ อบราฮัม
แต่กลายเป็นว่ากองหน้าผู้ดีไปเจ็บอีก ทำให้ตอนนี้ไม่รู้ว่าทีมจะฝากความหวังไว้กับใครดีระหว่าง มิชี่ บาตชูอายี่ หรือ โอลิวิเยร์ ชิรูด์
ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมได้โอกาส 68 นาทีในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่ ชิรูด์ จะลงมาเล่นแทนในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก

ชาตชูอายี่ มีความคล่อง มีความเร็ว, ชิรูด์ มีความใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ ซึ่งถ้าวัดกันในเรื่องของการจบสกอร์อาจจะต้องยกให้สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสมีความแน่นอนมากกว่า
ในเกมกับยูไนเต็ดโชคร้ายที่บอลที่ส่งไปสู่ก้นตาข่ายได้นั้นโดยวีเออาร์ริบไปเนื่องจากล้ำหน้าไปนิดเดียว 
ดูรวมๆแล้ว ชิรูด์ ควรจะได้รับโอกาสในการลงสนามมากกว่า บาตชูอายี่ อยู่บ้าง ด้วยการเล่นอย่างมีประสบการณ์และความมั่นใจในการจบสกอร์ที่มีมากกว่า แต่ไม่รู้ว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะมองยังไง
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือเกมรับที่เสียประตูง่ายของทีม เห็นได้ชัดเลยว่าการเล่นระบบกองหลัง 4 คนดูเหมือนว่าทีมจะมีช่องโหว่ให้คู่แข่งทำประตูอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแบ็คทั้งสองข้างชอบเติมเกมรุก ยามเจอคู่แข่งที่มีความเร็วในเกมโต้กลับมักเสร็จตลอด
        
อาจจะถึงเวลาที่ แลมพาร์ด น่าจะพิจารณาการเล่นในระบบ 3 เซนเตอร์ไปเลย หลังจากที่เคยใช้แผนนี้มาแล้วและถือว่าทำได้ดี แนวรับมีความแน่นมากขึ้น นักเตะที่เล่นเกมรุกก็ไม่ต้องห่วงมากนักโดยเฉพาะวิง-แบ็ค
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่คอยช่วยสกรีนหน้าแผงหลัง ยิ่งทำให้เกมรับหละหลวมขึ้นไปอีก
คูร์ท ซูม่า กับ ฟิคาโย่ โทโมรี่ จับคู่กันในช่วงต้นซีซั่นซึ่งทั้งคู่ค่อยๆปรับตัวจนดีขึ้นเรื่อยๆจนถือว่าเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง แต่พอมีช่วงหลุดไปบ้าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กลับให้เป็นสำรอง เลยกลายเป็นเสียความมั่นใจไปดื้อๆ

อันโตนิโอ รือดิเกอร์ มีความแข็งแกร่ง เล่นลูกกลางอากาศดี, ซูม่า มีลูกหนักพร้อมเข้าชน, โทโมรี่ มีความห้าวแถมกล้าที่จะดันเกมขึ้นไปช่วยแดนกลางรวมถึงเกมรุกได้ น่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอยู่บ้าง
อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาที่ทีมต้องการความเหนียวแน่นไว้ก่อน
จาก สเปอร์ส ต่อด้วย บาเยิร์น มิวนิค ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตามด้วยการเจอ บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก) และ ลิเวอร์พูล ในเอฟเอ คัพ ล่วนเป็นเกมสำคัญที่อาจจะชี้ชะตาความสำเร็จของทีมในฤดูกาลนี้ได้เลย
เพราะฉะนั้นเกมในวันเสาร์นี้นี่แหละจะเป็นเกมที่จะเรียกความมั่นใจของทีมกลับมาได้หากคว้าชัยชนะมาครอง
ถึงเวลาต้องกลับมารวมพลังฮึดสู้กันอีกครั้งแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด