ไก่เดือยทอง มีโอกาส 2-3 ครั้งในซีซั่นนี้ที่จะขึ้นไปอยู่อันดับ 4 อันเป็นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทว่าพวกเขาก็พลาดทุกครั้ง และซีซั่นนี้เจอกับ เชลซี 2 ครั้ง ก็แพ้ทั้ง 2 ครั้งเลย
ลูกน้อง โชเซ่ มูรินโญ่ มีโอกาสที่จะแซงหน้า เชลซี ขึ้นอันดับ 4 เพราะก่อนเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ พวกเขาตามหลัง สิงโตน้ำเงินคราม แต้มเดียว ปรากฏว่าแพ้สบาย ตาม 4 แต้มเลยทีนี้
ที่สนามแห่งนี้ ไก่เดือยทอง แพ้ทางครับ 34 เกมล่าสุดในทุกรายการที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ สเปอร์ส ชนะได้แค่ครั้งเดียวคือเมื่อเดือนเมษายนปี 2018 ตอนนั้นบุกชนะ 3-1 ทว่าอีก 33 ครั้งเป็นผลเสมอ 11 ครั้งและแพ้ให้กับ เชลซี ถึง 22 ครั้งทีเดียว
รูปเกมเมื่อวันเสาร์เราจะเห็นได้ว่า สเปอร์ส แพ้ เชลซี อย่างราบคาบ สกอร์ออกมา 1-2 นี่มันโกหกชัดๆ ต้องแพ้มากกว่านี้ และเราก็เห็นว่าเกมรุกของ สเปอร์ส ที่ไม่มีกองหน้าอาชีพมันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
น้าแมว โมโหมากที่ทีมใหญ่อย่าง สเปอร์ส ดันไม่มีปัญญาหาอะไหล่แทน แฮร์รี่ เคน แบบเป็นจริงเป็นจัง นี่พอ ซน ฮึง-มิน เจ็บอีกคนปัญหานี่ก็ขยายผลให้เห็นชัดเจน
ดู เบิร์นลี่ย์ สิ พวกเขามีกองหน้าถึง 4 คนเมื่อ แอชลี่ย์ บาร์นส์ และ คริส วู้ด เจ็บ ก็ใช้ เจย์ โรดริเกซ กับ มาเตจ์ วีดร้า ทดแทนอย่างได้ผล แต่ สเปอร์ส ทีมใหญ่กว่าดันเจอกับปัญหาห่วยแตกอะไรแบบนี้ซะได้
ปืนไม่มีกระสุน !!
สิ่งที่พอจะปลอบประโลมหลังการพ่ายแพ้ เชลซี ก็คือ การไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น "อันดับ 5" อาจจะได้เฮด้วย ท็อปโฟร์ไม่ได้ลุ้นท็อฟไฟว์แทนละกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า !
ดูทรงแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะอุทธรณ์ไม่ผ่านและโดนแบบในยุโรป 2 ปี ทีมอันดับ 5 ก็จะได้ส้มหล่นไป ซึ่งตรงนั้น สเปอร์ส ค่อยมีลุ้นแบบเป็นจริงเป็นจัง
งานของ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังชัดเจนครับ ต้องพา ไก่ เป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ให้ โดยรอบ 5 เตะในบ้านเจอกับ นอริช ซิตี้ โอกาสเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสูงมาก
ส่วนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หนักแล้ว เพราะนัดแรกของรอบ 16 ทีม แพ้ให้กับ ไลป์ซิก ไปก่อน 0-1 นัดสองสภาพทีมแบบนี้คงจะเอาคืนยาก เช่นเดียวกับในลีกก็ต้องลุ้นกับ เชลซี, แมนฯยูฯ, อาร์เซน่อล, วูล์ฟส์, เชฟฯยูฯ และ เอฟเวอร์ตัน หนักเลย
มีแนวโน้มสูงครับว่านี่จะเป็นปีที่น่าผิดหวังของ ไก่เดือยทอง
ยกเว้นอย่างเดียวถ้า เฮียมู พา สเปอร์ส เป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ ก็ถือว่าแฮ็ปปี้
"แมวเพชร"
