การพ่าย “ค่าบ้าน” ต่อ เซเรส เนกรอส ทีมดังจากฟิลิปปินส์ จนอดได้บัตรผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นหมุดหมายของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ แม่ใหญ่สโมสร อยากไปย่ำสักครั้ง
ต่อเนื่องมายังพ่าย สิงห์ เชียงรายฯ ในศึกออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ แม้จะได้ถาด ลีโอ ปรีซีซั่น มาเป็น “รางวัลปลอบใจ” ทว่าไม่ได้ทำให้สถานะ “โค้ชโชค” ดูแจ่มใสขึ้น
แม้เม็ดเงินที่หว่านลงไปจะเด็ดขนหน้าแข้ง “มาดาม” ไม่กี่เส้น แต่อุตสาหกรรม “ฟุตบอล” มาพร้อมความคาดหวังเสมอ
ปัญหาใหญ่ การท่าเรือ ในห้วงเวลาก่อนเปิดซีซั่นคือ เฮแบร์ตี แฟร์นานเดส ดาวเด่นที่ถูกดึงตัวมา ยังจูนกับแนวรุกทีมชุดเก่าไม่ได้ ไม่ว่าจะกับ ปกรณ์ เปรมภักดิ์, เซร์คิโอ ซัวเรส หรือ บดินทร์ ผาลา ซึ่งเป็นโจทย์ที่ “โค้ชโชค” จะ “พึ่งโชค” อย่างเดียวไม่ได้
หลายคนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ฟอร์มการเล่นของ “สิงห์เจ้าท่า” ในมือโชคทวี ยังไม่ดีพอกับศักยภาพที่ทีมทุ่มเสริมนักเตะมา และมีโอกาสที่ “เก้าอี้จะปลิว” ตั้งแต่ต้นฤดูกาล
อย่างไรก็ตามหลัง “คิกออฟ” ทุกอย่างคล้ายเริ่มลงตัวขึ้น
การประเดิมสนามยิงกราด นครราชสีมา มาสด้า 4-1 กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เรียกความมั่นใจของทีมกลับมา ต่อด้วยไล่ดาหน้าขยี้ สมุทรปราการ ซิตี้ “ม้ามืด” ลุ้นแชมป์ในสายตาหลายคนเละเทะ 4-1 ยิ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดบนใบหน้า “โค้ชโชค” และเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าใส ๆ ของมาดามได้บ้าง
ก่อนที่นัดล่าสุด แม้รูปเกมจะตึงเครียดขาดความต่อเนื่อง แต่ได้ 2 จุดโทษ ช่วยให้ทีมกวาด 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด นอนกระดิกเท้าอยู่ “จ่าฝูง” ของตารางไทยลีกได้
สิ่งหนึ่งที่แฟนท่าเรือพอชื่นใจได้คือ แนวรุกที่ “ลงรอย” กันบ้างแล้ว สามารถประสานงานเล่นร่วมกันได้อย่างรู้ใจมากกว่าตอนปรีซีซั่น
เฮแบร์ตี เริ่มเล่นกับหน้าเดิมอย่าง บดินทร์ ซัวเรส หรือ ปกรณ์ ได้อย่างเข้าใจมากขึ้น เกมริมเส้นจุดเด่นทีมกลับมาน่าเกรงขามอีกครั้ง ส่วน อดิศักดิ์ ไกรษร เริ่มเรียกฟอร์ม “เอเค 9” คนเก่าคืนมา
กลับกันปัญหาของ “สิงห์เจ้าท่า” ไปอยู่ที่เกมรับมากกว่า
ทั้ง 3 เกม การท่าเรือ เสียประตูทุกนัด ขณะแนวรับเองยังเป็นทีมชุดเดิมของฤดูกาลก่อน จังหวะผิดพลาดรายละเอียดเล็กน้อย หรือสมาธิในเกม ยังมีให้เห็นตลอด 3 นัดที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการบ้านกองโตอีกชิ้นที่ โชคทวี ต้องแก้ไขอย่างเร็ววัน
เพราะสิ่งหนึ่งที่จะวัดสถานะ การท่าเรือ ว่าจะเป็นทีม “ลุ้นแชมป์” อย่างเต็มตัวในซีซั่นนี้คือ “การยืนระยะ” ของทีม มากกว่าฟอร์มอันหวือหวาช่วงต้นฤดูกาล
หากจำกันได้ปีก่อน 10 นัดแรกของ สิงห์เจ้าท่า ชนะ ไปถึง 7 เสมอ 2 และแพ้เพียงนัดเดียว จนถูกชูว่าคือทีมลุ้นแชมป์ ทว่าอีก 10 นัดถัดมากลับชนะไปแค่ 2 นัดเท่านั้น
แต่ถ้าสุดสัปดาห์นี้พวกเขาสามารถบุกไปชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ เนวิน ชิดชอบ ที่อยู่ในสถานะ “เลียแผล” เยียวยาตัวเองได้ถึงถิ่นอีสานใต้
คลองเตยคงหนาวกว่านี้อีกเป็นเท่าตัว
