:::     :::

ขาด 'โอบา' เหมือนขาดใจ

วันอาทิตย์ที่ 01 มีนาคม 2563 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,262
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้ความสามารถของเขาจะถูกยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่มันก็ยังไม่ได้มากเท่ากับคนที่มีฝีเท้าอย่าง ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง สมควรได้รับกับช่วงเวลาในเมืองผู้ดี

    สองประตูที่หัวหอกทีมชาติกาบองทำได้ในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้เขายิงเกือบแตะหลักครึ่งร้อยในพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว

    ประตูที่ 48 และ 49 ของ โอบาเมย็อง เกิดขึ้นในการลงสนามเกมลีกเพียงนัดที่ 74 ของเขา โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้วสูงถึง 0.66 ลูกต่อเกมในลีกสูงสุดอังกฤษเลยทีเดียว

    อัตราตัวเลขการฉลองประตูของเขานั้นเหนือกว่าบรรดายอดดาวเตะอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (0.51), ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (0.41), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (0.64), อลัน เชียร์เรอร์ (0.59), รุด ฟาน นิสเตลรอย (0.63) และ เวย์น รูนี่ย์ (0.42) เสียอีก

    จำนวนนาทีต่อประตูเหล่านั้นช่วยให้เราเห็นภาพความเก่งกาจของกองหน้าแต่ละคนมากยิ่งขึ้น

    กับตัวเลขอันสวยสดงดงามนั้น เราสามารถพูดได้เลยว่า โอบาเมย็อง คือเครื่องจักรถล่มประตูอย่างแท้จริง โดยมีแค่ เธียร์รี่ อองรี, แฮร์รี่ เคน และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ค่าเฉลี่ยดีกว่าเขาในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

    ปัจจุบันดาวยิงปืนใหญ่มีค่าเฉลี่ยยิงได้ทุกๆ 123 นาที ซึ่งมันแย่กว่าตำนานอย่าง อองรี ที่เคยใส่เสื้อเบอร์เดียวกับเขาเพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้นเอง

    ย้อนกลับไปยังประตูแรกของ โอบาเมย็อง ในเกมที่ชนะทอฟฟี่สุดระทึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันค่อนข้างแปลกที่ทำให้เรานึกถึงสไตล์ที่คล้ายคลึงกับ อองรี ได้เหมือนกัน เมื่อเจ้าตัวโฉบจากริมเส้นด้านซ้ายตัดมารับบอลทะลุช่องแล้วเอี้ยวตัวแปบอลให้เสียบเสาไกล ซึ่งนั่นเป็นการกระตุ้นให้เหล่า กูนเนอร์ส พากันตะโกน 'วา วา วูม!'

    อันที่จริงแล้ว อดีตกองหน้า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ควรที่จะได้รับเครดิตพิเศษ เพราะเวลานี้เขากำลังลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ที่ใกล้เคียงกับฤดูกาลย่ำแย่ที่สุดในลีกตั้งแต่กลางยุค 1990

    จากวันสุดท้ายอันแสนโกลาหลของ อาร์แซน เวนเกอร์ มาจนถึงยุคตัวอ่อนของ มิเกล อาร์เตต้า รวมถึงช่วงเวลาผ่านความว่างเปล่าที่ไม่เป็นระบบของ อูไน เอเมรี่ เขากำลังลงเล่นอยู่กับทำงานกันได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง

    แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอุตส่าห์ได้อวดอ้างรางวัล โกลเด้น บูท (แชร์กับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์) ในฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงปัจจุบันนี้ที่รั้งดาวซัลโวร่วมกับ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ 17 ลูก

    มันง่ายมากเลยที่จะยกเอาสถิตินั้นมาบอกว่าหัวหอกค่าตัว 56 ล้านปอนด์ คือตัวแทนแข้งระดับโลกของทีมปืนใหญ่

    พวกเขาจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 ในครึ่งซีซั่นแรกที่ โอบาเมย็อง มาถึง จากนั้นก็อันดับ 5 ในปีที่ 2 ของเขา และตอนนี้ส่วนใหญ่ก็จะขยับเขยื้อนแถวกลางตารางเท่านั้น

    พูดให้ถูกก็คือ โอบาเมย็อง ไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากสภาพแวดล้อมโดยรอบเหมือนที่ อเกวโร่ หรือ ซาลาห์ ได้รับเลย

    นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 30 ปีก็มักจะไม่ได้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ตัวเองชื่นชอบ โดยตำแหน่งประจำส่วนใหญ่ของเขากับ อาร์เซน่อล ก็คือการถูกถ่างออกไปยืนตรงกราบซ้าย

    แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาด้วยสปีดต้นอันจัดจ้านของเขา แต่คุณลักษณะที่แข็งแกร่งที่สุดของ 'โอบา' ดูเหมือนจะเป็นการฉกฉวยโอกาส และสัญชาตญาณนักล่า

    เขาสร้างชื่อในฐานะกองหน้าตัว 'แท็ปอิน' ตั้งแต่ที่ ดอร์ทมุนด์ คล้ายๆ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และจุดประสงค์ดังกล่าวก็เพื่ออิสระในการเล่นของเขา

    การที่จะยิงประตูแบบ 'แท็ปอิน' ได้บ่อยครั้งนั้นคุณต้องอาศัยการเคลื่อนที่ชั้นเวิลด์คลาส, การอ่านจังหวะ และสมอง

    โอบาเมย็อง เป็นคนที่มีความสามารถในการพังประตูเกือบทุกรูปแบบ แต่หลายคนก็มักจะสงสัยว่าทำไม อาร์เซน่อล ไม่ให้เขาเล่นตรงกลางเพื่อเค้นศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่

    การยกตัวอย่างทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าเป็นการอวย หรือยกยอ โอบาเมย็อง จนเกินไป แต่เราต้องพิจารณาว่าเขาปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้รวดเร็วแค่ไหนด้วย

    หลังเซ็นสัญญาย้ายมายังถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันเส้นตายของเดือนมกราคม ปี 2018 เขาระเบิดฟอร์มทันทีด้วยการยิง 10 ประตู จาก 13 นัดในลีกช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลนั้น

    ทีแรก แฟนๆ คงเข้าใจว่าเขาอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการปรับตัวให้เข้ากับลีกที่ดีที่สุดในโลก แต่เขากลับสร้างอิมแพ็คท์ได้อย่างทันทีในช่วงที่สโมสรกำลังเข้าตาจนหลายต่อหลายครั้ง

    เขาเก็บข้าวของมายังลอนดอนตอนอายุ 28 ปี พร้อมกับสถิติการทำประตูที่น่าประทับใจสุดๆ แต่ก็มีนักเตะอีกหลายรายที่โปรไฟล์คล้ายคลึงกัน ทว่าดันไม่สามารถปรับตัวได้ ซึ่ง กอนซาโล่ อีกวาอิน คือตัวอย่าง

    ตัวเลขการถล่มตาข่ายของ โอบาเมย็อง นั้นยอดเยี่ยมมาก ยิ่งเมื่อคุณพิจารณาถึงปัจจัยหลายอย่างแล้ว คุณจะยิ่งเห็นถึงคุณค่าที่มากขึ้นของเขา

    หากหัวหอกกาบองทำประตูได้อีกลูกภายใน 8 เกมข้างหน้านี้ เขาก็จะเป็นนักเตะที่ยิงทะลุหลัก 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกได้เร็วกว่า อองรี เลยด้วย

    แม้ โอบาเมย็อง จะเพิ่งพลาดหมูหกในนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษจนปืนใหญ่ต้องกระเด็นตกรอบยูโรปา ลีก แบบสุดช็อก

    แต่หากลองตัดประตูทั้งหมดที่ 'โอบา' ทำได้ออกไป ป่านนี้ อาร์เซน่อล คงวนเวียนอยู่ในโซนตกชั้นเป็นแน่

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด